โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิด 3 ภาษีทางตรง 1 ภาษีทางอ้อมสะเทือนตลาดส่งออกรถยนต์ญี่ปุ่นกว่า 1.3 ล้านล้านบาทไปสหรัฐ ฮอนด้าชี้กระทบปีละกว่า 6 แสนคัน มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาสด้ามองการเจรจาการค้าต้องเป็นธรรม

BTimes

อัพเดต 21 ก.พ. เวลา 10.23 น. • เผยแพร่ 19 ก.พ. เวลา 01.01 น. • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งชาติ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งรวมทั้งรถยนต์นั่งและรถเชิงพาณิชย์มีมูลค่า 6 ล้านล้านเยน หรือ 39,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.36 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 28% ของสินค้าส่งออกทุกประเภททั้งหมดไปตลาดสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์คิดเป็นประเภทสินค้าส่งออกใหญ่ที่สุดไปสหรัฐอเมริกาเมื่อคิดในแง่มูลค่า ขณะที่ชิ้นส่วนยานยนต์คิดเป็น 6% กลายเป็นประเภทสินค้าส่งออกใหญ่อันดับ 2 ไปสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดำเนินมาตราภาษีนำเข้าสินค้าตามที่ได้หาเสียงไว้ออกมาเป็นระยะๆ ซึ่งมีทั้งส่งผลโดยตรง และส่งผลทางอ้อมกับอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น ได้แก่ ภาษีนำเข้าสินค้าที่กระทบทางตรง 3 รายการ ได้แก่ อัตราภาษีนำเข้า 25% เหล็ก และอลูมิเนียมจากทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งจะมีผลวันที่ 12 มีนาคมนี้ อัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ 10-20% ที่จะมีผลในวันที่ 2 เมษายนนี้ และอัตราภาษีเท่าเทียม หรือภาษีต่างตอบแทน 10-20% กับทุกประเทศที่เก็บภาษีส่งออกสินค้าสหรัฐอเมริกา

ส่วนภาษีนำเข้าสินค้าที่กระทบทางอ้อม 1 รายการ ได้แก่ การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิด 25% จากเม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นมีโรงงานผลิตรถยนต์ในเม็กซิโก และแคนาดา ถึงแม้ว่าจะชะลอให้มีผลอีก 30 วันนับตั้งแต่วันที่ประกาศผ่านมา

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินหรือซีเอฟโอ ฮอนด้า มอเตอร์ นายเออิจิ ฟูจิมูระ ซึ่งเป็นค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ปีละ 610,000 คันจะได้รับผลกระทบจากนโยบายและมาตรการเก็บขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าในประเทศเม็กซิโก และแคนาดาทำการส่งออกจำนวน 550,000 คันเข้าไปในตลาดสหรัฐอเมริกา

ในขณะเดียวกันโรงงานรถยนต์ฮอนด้า ซึ่งผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาทำการส่งออกจำนวน 60,000 คัน มายัง 2 ประเทศดังกล่าว ในภาพรวมแล้วจะขึ้นอยู่กับรุ่นด้วย โดยมีราคาขายเฉลี่ยคันละ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 1.02 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อเจอเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 25% กับจำนวนรถที่ประกอบเสร็จและนำเข้าทั้งหมด 610,000 คัน จึงทำให้รถยนต์ที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์จากทั้ง 2 ประเทศ จะได้รับผลกระทบด้านราคาขาย ไม่เพียงเท่านั้นถ้าหากมาตรการภาษีเก็บขึ้น 25% กับเหล็ก อะลูมิเนียม และชิ้นส่วนยานยนต์ ผลกระทบจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็นนับหลายร้อยพันล้านเยน

มาร์คไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในอุตสาหกรรมรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งเปิดเผยว่าค่ายรถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์ ได้แก่ นิสสัน และมาสด้า ทำการนำเข้ารถยนต์ถึงกว่า 33% และ 25% ตามลำดับของจำนวนรถทั้งหมดที่ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ขายในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศเม็กซิโก

ด้านนายมาโกโตะ ยูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นิสสัน กล่าวว่าถ้าอัตราภาษีมีผลบังคับใช้จริง นิสสันต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวังที่สุดในแง่จะทำอย่างไรที่จะผลิตรถยนต์จากฐานการผลิตอื่นๆ สอดคล้องกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินหรือซีเอฟโอ มาสด้า นายเจฟเฟอร์รี เอช กายทัน กล่าวว่า ตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดสำคัญมากสำหรับมาสด้า และมาสด้ายังคงมีการพูดคุย กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความพยายามในการสร้างการค้าที่เป็นธรรม และเสรี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...