โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ดับแล้ว 5 ราย เหตุเรือหลวงสุโขทัยล่ม เยียวยาเลื่อน 5 ชั้นยศ เร่งค้นหากำลังพลอีก 24 คน

MATICHON ONLINE

อัพเดต 20 ธ.ค. 2565 เวลา 12.33 น. • เผยแพร่ 20 ธ.ค. 2565 เวลา 12.08 น.
ทร.ค้นหา 728

ผบ.ทร.สอบกราวรูด “ผู้การเรือ-กำลังพล” ปมเรือหลวงสุโขทัย ล่ม รายงาน “นายกฯ-คลัง” ตามระเบียบความรับผิดทางละเมิด ยัน ไม่ปกปิด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่ห้องชมวัง ราชนาวิกสภา พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. และ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห เสธ.ทร.ได้แถลงข่าวความคืบหน้าถึงกรณีเรือหลวงสุโขทัย อับปาง

พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้อง กำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่วันนี้เราได้มีการพบร่างผู้เสียชีวิต จากการปฏิบัติการลาดตระเวนช่วยเหลือ พบ 6 ราย เป็นผู้ประสบภัยที่มีชีวิต 1 ราย และเสียชีวิต 5 ราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย

พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวต่อว่า กองทัพเรือจะต้องมีการรายงานเหตุการณ์ตามระเบียบเป็นการรายงานด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพเรือมีระเบียบว่าด้วยการป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย ที่ต้องให้หน่วยที่เป็นผู้บัญชาการของเรือก็คือทัพเรือภาค 1 รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานความสูญเสียทั้งในเรื่องของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ จากนั้นจะมีการรายงานเรื่องของระเบียบความรับผิดทางละเมิด ที่จะต้องรายงานข้อเท็จจริงไปถึงกระทรวงการคลัง และนายกฯได้รับทราบ

พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า ตนตั้งกรรมการจะสอบตั้งแต่ ผู้การเรือ ไปจนถึง กำลังพลทุกนาย ถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น ขั้นตอนปฏิบัติ เพราะฉะนั้นในรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาเหตุของเรือจมที่มีการกล่าวว่าเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล ต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ

“ขอให้ประชาชนได้รับทราบว่าเรามีกฎหมายแนวทางปฏิบัติที่จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์สูญเสียในบางเรื่องเราสามารถเปิดเผยได้ แต่ในบางเรื่องก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยไม่ได้ กองทัพเรือไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น เราจะสอบสวนทางข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะญาติพี่น้องของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับความสูญเสีย และเข้าใจถึงญาติพี่น้องของกำลังพลที่ยังหาไม่พบ”

“ผมจะนำกำลังพลทุกนายกลับบ้านยืนยันว่ากองทัพเรือจากทำทุกอย่างๆ เต็มความสามารถในการช่วยเหลือกำลังพลทั้งในส่วนที่ปรับตัวมาแล้วและที่ยังค้นหาไม่พบ”

ยังเร่งค้นหาอีก 24 ราย

พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห เสธ.ทร.กล่าวว่า ผู้สูญหายเป็นกำลังพลของกองทัพเรือ 30 นาย ได้มีเรือหลวงกระบุรี เรือทัก และเรือน้ำมันที่อยู่บริเวณโดยรอบ ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ช่วงแรกได้ช่วย 74 นาย ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม คลื่นยังสูงมาก ได้มีเรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงอ่างทอง เรือน้ำมัน เรือทัก ให้การช่วยเหลือ ค้นหาตามกระแสน้ำและกระแสลม ค้นหาตลอดเวลาตั้งแต่เรือจม ช่วงเวลาที่ช่วยได้คือเวลากลางวัน ใช้อากาศยาน เฮลิคอปเตอร์ ร่วมค้นหา โชคดีได้เจอกำลังพล 1 ราย

“วันนี้ เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ได้ตรวจพบผู้รอดชีวิต ลอยห่างจากจุดเรือจมประมาณ 60 กิโลเมตร หลังจากนั้นได้เจออีก 5 เคสด้วยกัน รวมเป็น 6 เคส และให้การช่วยเหลือ และจะดำเนินการค้นหาลูกเรือ ตอนนี้ ค้นหาพบแล้ว 81 คน เหลือในน้ำ 24 คน จากนี้จะดำเนินการค้นหาตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน” พล.ร.อ.ชลธิศ กล่าว

ช่วยกำลังพลไร้เสื้อชูชีพแล้ว 12 ราย

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. กล่าวถึงกรณีเสื้อชูชีพที่มีไม่เพียงพอว่า เรือสุโขทัย นอกจากการลาดตระเวน ต้องมีการนำกำลังพลไปร่วมในพิธีครบรอบ 100 ปี เสด็จเตี่ย ที่ จ.ชุมพร ในการลงไปเพิ่มของกำลังพล คือ มีกำลังพลเดินทางไปกับเรือเพื่อร่วมพิธี ปกติต้องนำเสื้อชูชีพไปกับกำลังพลที่เพิ่มเติม เรือรบปกติ จะมีเสื้อชูชีพ ที่ประจำกับกำลังพลประจำตัว กับเสื้อชูชีพสำรอง บนเรือในกรณีไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนั้น ยังมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตอื่น เช่น แพ ห่วงยาง ลูกยางกันกระแทกที่ติดเรือเล็กของเรือ ทั้งหมดนี้เรือรบหลวงสุโขทัย ทราบปัญหาตรงนี้ดี ว่ามีเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพลที่มาเพิ่มเติมจำนวน 30 คน ก็พยายามนำอุปกรณ์และสิ่งที่ช่วยชีวิตได้ มาให้กับกำลังพลที่ไม่มีเสื้อ บางคนเอาลูกยางที่ผูกติดกับเรือเล็กมาผูกกับเอวไว้

“บนเรือมีแพชูชีพ ทั้งกดด้วยมือ และอัตโนมัติ จุคนได้ 15 คน เขาวางแผนแล้วว่า ถ้าเรือใกล้จมจะกดด้วยแมนวล และนำเอาคนไม่มีเสื้อชูชีพ ขึ้นเรือดังกล่าว มี 30 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพ แต่ในจำนวนผู้เสียหาย 30 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพ มี 18 คน ที่ช่วยชีวิตมาแล้ว และมีผู้สูญหายอีก 12 คนในทะเล และมี 18 คนที่มีเสื้อชูชีพอยู่ในทะเล การมีเสื้อชูชีพไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะรอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบทเรือ ยังมีมาตรการอื่นๆ อีก มีการกำหนดว่าใครจะขึ้นแพชูชีพก่อน”

“อย่ามองว่าคนไม่มีเสื้อชูชีพทั้ง 30 คนจะสูญเสียทั้งหมด เขามีการเตรียมพร้อม ช่วยกันอย่างไร สภาพอย่างนั้นทุกคนต้องช่วยเหลือกันและกัน ต้องเรียนว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน ไม่ได้เตรียมการ เรือจมรวดเร็ว ฉุกละหุก”

เยียวยากำลังพล เลื่อน 5 ชั้นยศ

พล.ร.อ.ชลธิศกล่าวว่า จะดำเนินการตามระเบียบทางราชการ รายชื่อผู้สูญเสียจะได้รับการชดเชย ปูนบำเหน็จตามระเบียบราชการ ภาพรวมคือ จะได้รับการเลื่อนชั้นยศ 5 ชั้นยศ เช่น เกิดการสูญเสีย ยศนาวาตรี ก็จะได้เลื่อนชั้นยศเป็นพลเรือโท เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้รับเงินชดเชยตามระเบียบทางราชการ ประมาณ 1-2 ล้านบาท แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล

“ทั้งนี้ กองทัพเรือจะดูแลสิทธิ กำลังพล ของผู้สูญเสียอย่างเต็มที่”

พบ 6 ราย รอดชีวิตเพียง 1 ราย

พล.ร.อ.ชลธิศกล่าวต่อว่า เพิ่งได้รับคำยืนยัน วันนี้มีเคสที่ตรวจพบ 6 เคส เป็นเคสสีเขียว 1 คน คือ พลทหารชนัญญู สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ที่ลอยมา 60 กิโลเมตรจากจุดที่เรือจม เคสที่ 2-5 เป็นเคสดำ และเคสที่ 6 ที่ทางอากาศยานเห็นการเคลื่อนไหว และจะเห็นเป็นเคสสีเขียว ต้องแสดงความเสียใจว่าเป็นเคสสีดำ อีก 1 เคส ผู้สูญเสียนั้นยังอยู่ในขั้นตอนพิสูจน์ทราบ ที่รพ.บางสะพาน

“เรายังมั่นใจ น่าจะยังมีความหวังอยู่ เปรียบกับการตกน้ำของชาวประมง บางราย 60 ชั่วโมงยังเป็นไปได้ และดูจากทิศทางกระแสลม กระแสน้ำ ที่พัดเข้าฝั่ง เราจะดำเนินการอย่างมีความหวัง”