โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กรมการปกครอง ลุยจับคอนโดเถื่อน โรงแรมเถื่อน พื้นที่กรุงเทพปล่อยเช่ารายวันอื้อ!

อีจัน

อัพเดต 13 พ.ค. เวลา 20.11 น. • เผยแพร่ 13 พ.ค. เวลา 13.11 น. • อีจัน

มท.1 สั่งกรมการปกครองปฏิบัติการต่อเนื่องจับคอนโดเถื่อน ปล่อยเช่ารายวัน!

วันนี้ (13 พ.ค. 68) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับผู้ที่นำห้องของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่น ๆ โดยกรมการปกครอง ยังคงมีประชาชนร้องเรียน และเเจ้งเบาะเเสมาอย่างต่อเนื่อง

น.ส. ไตรศุลี กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อต่าง ๆ ว่าที่ผ่านมา กรมการปกครองได้นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่นำห้องของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวันทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อันเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 โดยกรมการปกครองได้เป้าหมาย ภายหลังจากที่สื่อได้นำเสนอเป็นข่าว ยังพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนและมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในพื้นที่ ย่านสาทร ที่มีการนำห้องอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ซึ่งทางสำนักงานเขตสาทร ได้ร่วมกับ กรมการปกครอง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าตรวจสอบและแนะนำตักเตือนทางนิติบุคคลอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ไปแล้ว แต่ก็ยังมีการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการปล่อยเช่าห้องชุดเป็นรายวัน และมีชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในพื้นที่ย่านหัวหมาก ยังพบโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต เปิดให้บริการเป็นรายวัน

ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้พนักงานฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้นำห้องของอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน และโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตโดยทันที

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า ทางด้านกรมการปกครอง นำโดยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการปล่อยเช่าอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) รายวัน ซึ่งได้มอบหมายให้นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง และ นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ เข้าตรวจสอบอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ที่ปรากฎในข่าวดังย่านสาทร จำนวน 1 แห่ง และโรงแรมไม่มีใบอนุญาต ย่านหัวหมาก จำนวน 1 แห่ง อันเป็นการกระทำฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 ฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตามมาตรา 4, 15 และ 59 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

โดยเวลาประมาณ 15.00 น. (13 พ.ค. 68) กรมการปกครอง นำโดย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการปล่อยเช่าอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) รายวัน ซึ่งได้มอบหมายให้ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง และ นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ บูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ นายธวัชชัย แพงไทย ผู้อำนวยการเขตสาทร ดำเนินการสืบสวนตามข้อร้องเรียนและที่ปรากฎในข่าวดัง พบผู้นำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ในพื้นที่ ย่านสาทร จำนวน 1 แห่ง และโรงแรมไม่มีใบอนุญาต ย่านหัวหมาก จำนวน 1 แห่ง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำอันฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 มาตรา 4, 15 และ 59 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ โดยทั้ง 2 แห่ง เจ้าพนักงานได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ และดำเนินคดีโดยมีรายละเอียด ดังนี้

เป้าหมายที่ 1 นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติการ และนายสานุพัฐ เด่นธรรม ผู้อำนวยการส่วนการอนุญาตโรงแรมและกฎหมายสถานบริการ และนายชนะ ชุ่มช่วง ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รวมทั้ง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสาทร เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ได้เข้าตรวจสอบอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ย่านสาทร กรุงเทพมหานคร ตามที่ปรากฏในข่าวดัง พบผู้นำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน ในพื้นที่ ย่านสาทร ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เกรงว่าผู้อยู่อาศัยในอาคารจะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่สะดวกกับการใช้พื้นที่ส่วนกลาง เจ้าพนักงานจึงได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้อง ผ่านแอปพลิชัน AirBnB ในวันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาห้องละ 68 USD ประมาณ 2,300 บาท ต่อมา ผู้ให้เช่าแจ้งให้สายลับติดต่อผ่าน whatsapp ที่ผู้ให้เช่าได้ให้ไว้ โดยแจ้งว่าเมื่อถึงเวลาเช็คอินและได้เดินทางมาถึงหน้าอาคาร ให้โทรแจ้งและถ่ายภาพใบหน้าสายลับส่งให้ผู้ให้เช่าผ่าน whatsapp จากนั้นได้มีนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 25 ปี รายหนึ่งเดินออกมารับสายลับบริเวณหน้าตึก A และพามายังชั้น 5 และเข้าพัก ซึ่งห้องที่สายลับได้เข้าพัก ยูนิต A516 ชั้น 5 มีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน ลักษณะเหมือนห้องพักตามโรงแรมทั่วไป เจ้าพนักงานจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ จากนั้น เจ้าพนักงานได้สอบถามนางสาวเอ (นามสมมุติ) ทราบว่า ได้รับจ้างจากกลุ่มบริษัทที่มีบุคคลชาวต่างชาติเป็นเจ้าของให้ดำเนินการเป็นคนนำกุญแจให้แก่ผู้เข้าพัก โดยนางสาวเอ (นามสมมุติ) ได้พาเจ้าพนักงานไปตรวจสอบสำนักงาน ซึ่งอยู่บนชั้น 6 ของอีกอาคารหนึ่งภายในบริเวณเดียวกัน พบว่ามีคีย์การ์ดห้องพักอีกกว่า 30 ห้อง โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าปล่อยเช่าเป็นรายวันหรือรายเดือน นอกจากนี้ยังพบเอกสารการเป็นเจ้าของห้อง และเอกสารของผู้เช่าที่ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ (สัญชาติจีน) เจ้าพนักงานจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ประกอบธุรกิจ ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15 และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เป้าหมายที่ 2 นายพิพัฒน์ยชญ์ วัชฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครองจากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ได้เข้าตรวจสอบสถานที่พักรายวันซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ย่านหัวหมาก สายลับได้แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวทำการจองห้องพักทำการจองห้องพักจำนวน 1 ห้องผ่านเว็บไซต์ Agoda ในวันที่ 13 – 14 พฤษภาคม 2568 เป็นเวลา 1 คืน ในราคาห้องละ 683.36 บาท ต่อมาสายลับได้ดำเนินการเช็คอินเพื่อทำการเข้าพัก ซึ่งได้ห้องพักหมายเลข 705 ภายในห้องมีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์สำหรับใช้วันต่อวัน สายลับจึงส่งสัญญาณแจ้งให้เจ้าพนักงานทราบ จากนั้นเจ้าพนักงานได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบ พบพนักงานให้บริการอยู่ภายในอาคาร และทราบว่าเจ้าของสถานที่ดังกล่าวเป็นนิติบุคคล เป็นสถานที่พักไม่มีใบอนุญาตประกอบโรงแรม เปิดให้บริการห้องพักรายวัน จำนวนกว่า 200 ห้อง ซึ่งเป็นการดำเนินการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานและเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูล พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษกรรมการนิติบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในความผิดฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. โรงแรมฯ มาตรา 4, 15, และ 59 ต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กรมการปกครองจะขับเคลื่อนนโยบายปราบปรามการปล่อยเช่าคอนโดรายวันเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกจังหวัดบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกตรวจตราเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเคร่งครัด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้แก่ประชาชนให้ทราบว่า การนำห้องในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม) มาปล่อยเช่ารายวัน เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย หากพบการกระทำความผิด หรือได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียน หรือ แจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรม กรมการปกครอง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ ทุกแห่งทั่วประเทศเพื่อพนักงานฝ่ายปกครองจะได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยเร็วต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...