โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

อุณหภูมิสงครามการค้าโลก เย็นลง 'ทองคำ' จะลงไปอีกหรือไม่

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 พ.ค. เวลา 00.43 น. • เผยแพร่ 12 พ.ค. เวลา 00.12 น.
REUTERS/Angelika Warmuth/File Photo

คอลัมน์ : สถานีลงทุน ผู้เขียน : ธนรัชต์ พสวงศ์ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

ราคาทองคำ Spot เดือนพฤษภาคมมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง และปรับลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์แตะ 3,200 ดอลลาร์ หลังจากปรับขึ้นร้อนแรงทำ All Time High ที่ 3,500 ดอลลาร์ และราคาทองแท่งขึ้นไปทำ All Time High ที่ 54,800 บาท ในวันที่ 22 เมษายน

เนื่องจากนักลงทุนกังวลความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยเพิ่มขึ้น สงครามการค้าโลกที่รุนแรง โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 145% จีนเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐกลับโดนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 125%

แต่สงครามการค้าโลกที่ผ่อนคลายลง หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าอย่างเช่น ญี่ปุ่น อินเดีย ล่าสุดวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักรแล้ว ที่สำคัญคือจะเริ่มเปิดฉากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ประเมินว่าสงครามการค้าที่ร้อนแรงได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ต่อจากนี้ไปน่าจะเริ่มผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ ทำให้ความต้องการทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงตามไปด้วย

นอกจากนี้เองกองทุน Hedge Fund ขนาดใหญ่มียอดซื้อสุทธิหรือ Net Buy ลดลงจนเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อทองคำเริ่มลดน้อยลง

ไตรมาส 1 นักลงทุนจีนซื้อทองคึกคัก ธนาคารกลางซื้อแข็งแกร่ง

ความต้องการลงทุนทองคำทั่วโลกไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 552 ตัน เป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2565 เพิ่มขึ้นสูงถึง 170% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กระแสเงินไหลเข้ากองทุน ETF ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 226 ตัน ส่วนความต้องการทองคำแท่งได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนรายย่อยในจีนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และนับเป็นไตรมาสสูงที่สุดในประวัติการณ์เป็นอันดับ 2

ดังนั้น อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจากนักลงทุนรายย่อย ไตรมาส 1 ธนาคารกลางยังเข้าซื้อทองคำสูงถึง 243.7 ตัน และในเดือนเมษายน ธนาคารกลางจีนซื้อทองติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ทั้งนี้คาดว่าแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งอยู่ และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้

กราฟิก ทอง

Fed อยู่ในโหมด Wait & See ก่อนลดดอกเบี้ย แต่เตือนเสี่ยงเกิด Stagflation

ตลาดทองคำกลับมาให้ความสนใจกับเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ การประชุมเฟดวันที่ 6-7 พฤษภาคม ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ถึงแม้ว่าเจอแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้เฟดลดดอกเบี้ยทันที ซึ่งประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น และสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย

ดังนั้นต้องรอดูข้อมูลเศรษฐกิจและผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า แต่แถลงการณ์ของเฟดได้เตือนถึงความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจ และความเสี่ยงของการเกิดภาวะ Stagflation มุมมองของตลาดคาดเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 0.75% หรือ 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% คาดว่าน่าจะเป็นครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม กันยายน และธันวาคม

ทองคำจะลงไปอีกหรือไม่

แนวโน้มราคาทองคำ Spot ในระยะสั้นคาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากสงครามการค้าโลกที่ผ่อนคลายลง ต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอย่างใกล้ชิด ว่าจะมีความคืบหน้าหรือไม่ ซึ่งถ้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยืดเยื้อและใช้เวลากว่าที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ จะทำให้ราคาทองฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ยังต้องระวังแรงเทขายและความผันผวนของราคา

ดังนั้นแนะนำขายทำกำไรที่ 3,400/3,435 ดอลลาร์ และทยอยสะสมที่ระดับ 3,200/3,150/3,100 ดอลลาร์

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อุณหภูมิสงครามการค้าโลก เย็นลง ‘ทองคำ’ จะลงไปอีกหรือไม่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...