โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ทุนอสังหาฯ ไทย-เทศ แห่ลงทุน “เดอะบีชพลาซ่า” กะตะ ภูเก็ต

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 23 ส.ค. 2566 เวลา 05.07 น. • เผยแพร่ 23 ส.ค. 2566 เวลา 05.07 น.

คอลัมน์ : สัมภาษณ์

นับตั้งแต่เกิดโควิด-19 พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตต้องปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนภูเก็ตสู่เมืองเป้าหมายของการท่องเที่ยวระดับโลก

แผนลงทุน The Beach Group

“ก้าน ประชุมพรรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.พลาซ่า จำกัด

The Beach Group ผู้พัฒนาโครงการ The Beach Plaza กะตะ ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า The Beach Group ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท อันดามันพัฒนาเมือง และร่วมก่อตั้งบริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด

สำหรับธุรกิจในกลุ่มมีโครงการ The Beach Plaza กะตะ ภูเก็ต ที่เป็นแผนพัฒนาธุรกิจซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ มูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ เป็นการสร้างอาคารโรงแรมเพื่อขายให้นักลงทุนรับไปบริหารจัดการ มีแหล่งช็อปปิ้งและพื้นที่ให้เช่าประกอบธุรกิจ พัฒนาสู่ถนนคนเดิน

ภายในโครงการมีโรงแรมที่เป็นเรสซิเดนซ์และพลาซ่า ซึ่งดีเลย์การก่อสร้างไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันการดำเนินงานในเฟส 1 โดยมีบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เข้ามาพัฒนาพื้นที่ตรง The Beach Plaza ทำคอนโดมิเนียมอีกกว่า 700 ยูนิต และมีโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว จำนวน 280 ห้อง

“เรามีความภูมิใจที่มีแบรนด์ใหญ่จากส่วนกลางมาลงทุนที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่น่าลงทุน ส่วนในเรสซิเดนซ์มีบริษัท ออริจิ้น และกลุ่มทุนจากประเทศสิงคโปร์เข้ามาลงทุน มีโครงการโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 203 ห้อง มี wellness center และยังมีโครงการ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ 134 ห้อง

ซึ่งเทรนด์ของการท่องเที่ยวต้องใช้แบรนด์ใหญ่มาทำให้แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวเติบโตแบบมีศักยภาพ เห็นได้ว่าพื้นที่ของเราเป็นพื้นที่เหมาะกับการลงทุน ตอบสนองคนที่มาเข้าพัก ทั้งนี้การทำแต่ละโครงการทางกลุ่มจะมีการทำโครงการวิจัยการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการลงทุนและฟื้นฟูควบคู่กันไป”

กะตะวอล์กกิ้งสตรีตตอบโจทย์

ในโครงการ The Beach Plaza ได้ทำตลาดถนนคนเดิน “กะตะ Walking Street” หรือ หลาดกะตะ ในส่วนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 8 ไร่ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อ 19 มกราคม 2566 นับเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นย่านธุรกิจการค้าขายแห่งใหม่ เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่

“ก้าน” บอกว่า การลงทุนต้องดูศักยภาพ ซึ่งต้องการสร้าง value ให้กับพื้นที่ธุรกิจที่เป็นเครือข่ายเอสเอ็มอี หลังจากทุกภาคส่วนเกิดความบอบช้ำจากโควิด-19 เมื่อมองภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยวก็ยังมีโอกาส มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาท่องเที่ยวและอยู่อาศัย

อาทิ จีน อินเดีย ยุโรป เป็นต้น และในพื้นที่กะตะและกะรนจะมีชาวรัสเซียกว่า 70-80% มาพักผ่อน บางคนอพยพครอบครัวพาลูกมาเรียนก็มี และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของพื้นที่อันดับแรกคือการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยว

ปัจจุบัน หลาดกะตะ มีพ่อค้าแม่ค้ากว่า 60 ราย เป็นเซ็นเตอร์ street food เข้าออกง่าย มีนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันกว่า 5,000 คนต่อวัน เป็นการกระจายรายได้ให้กับ SMEs อย่างทั่วถึง

เดอะบีชพลาซ่า

“ในฐานะเป็นคนท้องถิ่นที่ต้องการพัฒนาภูเก็ต คิดว่าสิ่งที่ภูเก็ตต้องการคือ แพลตฟอร์ม การขนส่งมวลชน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ รวมถึง wellness เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ ซึ่งศักยภาพของภูเก็ต คือ One City ที่เป็น นานาชาติต้องพัฒนา content ที่จะสร้างคุณค่าเพิ่ม

ซึ่งพื้นที่กะตะและกะรนที่มีความพร้อมครบทุกด้าน โดยเฉพาะธรรมชาติสวยงามของ 3 อ่าว 6 หาด มีป่าชุมชน ภูเขา ทะเล น้ำตก และถ้ำ เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มครอบครัว มีความปลอดภัยสูง ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่มีความหวงแหนทรัพยากรมาก”

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม Phuket Lobster Festival 2023 ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้ เป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องมาให้ถึง มีสเปเชียลเมนูที่รังสรรค์มา อาทิ เมนูกุ้งมังกรภูเก็ต never die (กุ้งมังกรทรอปิโด), ผัดหมี่ฮกเกี้ยนกุ้งมังกร, กุ้งมังกรทรัฟเฟิล, เกี๊ยวซ่ากุ้งมังกร, กุ้งมังกรชุบแป้งทอด, เป็นต้น ปีนี้จัดตั้งแต่วันที่ 12-31 สิงหาคม 2566

ทิศทางพัฒนาหลายโครงการ

“ก้าน” บอกว่า อยากเชิญชวนนักลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, โรงแรม, ระบบขนส่งมวลชน เข้ามาร่วมกันพัฒนาภูเก็ตสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี ซึ่งมี data base ให้ศึกษา เบื้องต้นภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 18 ล้านคน ถึง 25 ล้านคน ภายใน 2-3 ปีนี้ การลงทุนจะสร้างผู้คนและเศรษฐกิจให้มีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่เกิดการลงทุนรองรับจะเสียโอกาส เพราะนักท่องเที่ยวและคนที่เข้ามาล้วนมีคุณภาพ มีศักยภาพสูงที่พร้อมจ่าย

โดยที่ผ่านมาหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้สนับสนุนงบประมาณร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมผู้บริหารโรงแรมในภูเก็ตและอันดามันและอ่าวไทยกว่า 120 แห่ง เป็นเครือข่ายโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ

หรือเวลเนสโฮเทลจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งสมาคมโรงแรมส่งเสริมที่พักสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย ได้นำเสนอข้อมูลการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน AWC รวมกับ 12 ระเบียงเศรษฐกิจทั้งประเทศ มีมหาวิทยาลัย 12 พื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวทั้งหมดทำ propersal ขึ้นมาแล้วเข้าไปอยู่ในการตั้งต้นของ ครม. และสภาพัฒน์แล้ว

“นอกจากนี้ ทางกลุ่มมีโครงการทำกระเช้าลอยฟ้า ภายใต้ชื่อโครงการพัฒนาเส้นทางสวรรค์สู่บาดาล โดยให้นักท่องเที่ยวนั่งกระเช้าขึ้นไปสักการะพระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ที่ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและพัฒนาเป็นเคเบิลคาร์ หรือกระเช้าลอยฟ้า ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการสำรวจนักท่องเที่ยว พบว่ามีนักท่องเที่ยวประมาณ 10,000 คนต่อวัน ในช่วงไฮซีซั่น

ซึ่งเส้นทางที่ขึ้นไปค่อนข้างจะอันตรายเพราะไม่มีหน่วยงานที่ดูแลโดยตรง จึงมีแนวคิดอยากจะทำเส้นทางที่เชื่อมจากข้างล่างขึ้นไปบนพระใหญ่ น่าจะเป็นเส้นทางที่นำผู้คนสู่สวรรค์ขึ้นไปข้างบนถือว่าเป็นเหมือนสวรรค์ วิวสวยมากแบบพาโนรามา 360 องศา”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัท China Railway Signaliing (CRSC) ได้เข้ามาพูดคุยเพื่อทำการศึกษาร่วมกัน และได้ลงนาม MOU เมื่อเดือนธันวาคม 2565 และได้มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ทำการศึกษาพื้นที่ และเร็ว ๆ นี้ จะเปิดเวทีประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...