โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

โปรตุเกสบุกถล่มบอสเนีย "โรนัลโด" ซัดเบิ้ล - ออสเตรียชนะหวิวซิวตั๋วไป ยูโร 2024

Khaosod

อัพเดต 17 ต.ค. 2566 เวลา 04.06 น. • เผยแพร่ 16 ต.ค. 2566 เวลา 20.57 น.
ยูโร

โปรตุเกสยังคงชนะรวดในรอบคัดเลือก ยูโร 2024 หลังบุกถลุงบอสเนีย "คริสเตียโน โรนัลโด" ซัดเบิ้ล ขณะที่ออสเตรียเฉือนชัยคู่แข่ง คว้าตั๋วได้อีกราย

การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม กลุ่มเจ บอสเนียเปิดสนามสตาดิโอน บิลิโน โปลเย รับการมาเยือนของ “ฝอยทอง”โปรตุเกส

เกมนี้เจ้าบ้านจัด เอดิน เชโก, อามาร์ ราห์มาโนวิช, มิราเล็ม ปานิช ลงสนาม ส่วนทีมเยือนนำโดย คริสเตียโน โรนัลโด, ราฟาเอล เลเอา, บรูโน แฟร์นานเดส

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เชา เฟลิกซ์ สับไกยิงในเขตโทษไปติดแขน อาดริอัน เลออน บาริซิช ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นจุดโทษ คริสเตียโน โรนัลโด ซัดเข้าไปในนาที 5 โปรตุเกสออกนำ 1-0

นาที 20 เชา เฟลิกซ์ จิ้มบอลทะลุแนวรับให้ คริสเตียโน โรนัลโด หลุดเข้าไปยกบอลข้ามตัวนายทวารเข้าสู่ก้นตาข่าย เดิมทีผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า แต่เมื่อเช็กวีเออาร์แล้วพบว่าไม่ผิดกติกา โปรตุเกสจึงนำ 2-0

นาที 25 กอนซาโล อินาซิโอ วางบอลยาวจากบริเวณกลางสนามขึ้นหน้าให้ บรูโน แฟร์นานเดส ใช้อกพักแล้วหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนสับไกเสียบตาข่าย สกอร์กลายเป็น 3-0

นาที 32 บรูโน แฟร์นานเดส หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วเปิดเรียดเข้ากลาง คริสเตียโน โรนัลโด ยิงโดนไม่เต็มเท้า แต่บอลยังหลุดมาถึง เชา คันเซโล ปราดเข้ายิงเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด โปรตุเกสทิ้งห่าง 4-0

นาที 41 โอตาวิโอ หลุดเข้าทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนจะตบเข้ากลางให้ เชา เฟลิกซ์ ยิงเข้าไป แม้ผู้กำกับเส้นจะยกธงล้ำหน้าจังหวะเล่นของโอตาวิโอ แต่เมื่อเช็กวีเออาร์ก็พบว่าไม่มีปัญหา จบครึ่งแรกโปรตุเกสจึงนำห่าง 5-0

ครึ่งหลังไม่มีทีมไหนยิงกันเพิ่มได้อีก จบเกมโปรตุเกสชนะอย่างขาดลอย 5-0 ยังรักษาสถิติชนะรวดในรอบคัดเลือกหนนี้ต่อไป และการันตีคว้าแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว

ผลคู่อื่น ไอซ์แลนด์ ชนะ ลิกเตนสไตน์ 4-0, ลักเซมเบิร์ก แพ้ สโลวะเกีย 0-1

อันดับบนตารางคะแนนหลังผ่าน 8 นัดเท่ากัน 1. โปรตุเกส (24 คะแนน), 2. สโลวะเกีย (16 คะแนน), 3. ลักเซมเบิร์ก (11 คะแนน), 4. ไอซ์แลนด์ (10 คะแนน), 5. บอสเนีย (9 คะแนน), 6. ลิกเตนสไตน์ (0 คะแนน)

ด้านกลุ่มบี กรีซแพ้คาบ้านต่อ “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ 0-1 ทำให้เนเธอร์แลนด์กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบในการชิงตั๋วสู่รอบสุดท้ายอีกใบที่เหลือ

ทีมเยือนได้ประตูชัยจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ นาที 90+3 (จุดโทษ) นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังได้จุดโทษก่อนหน้านี้ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ สังหารพลาดนาที 28 ขณะที่ กุสตาโว โปเยต์ กุนซือกรีซ ได้รับใบแดงนาที 90+11

ผลอีกคู่ ยิบรอลตาร์ แพ้ ไอร์แลนด์ 0-4

อันดับบนตารางคะแนน 1. ฝรั่งเศส (ลงสนาม 6 นัด : 18 คะแนน), 2. เนเธอร์แลนด์ (ลงสนาม 6 นัด : 12 คะแนน), 3. กรีซ (ลงสนาม 7 นัด : 12 คะแนน), 4. ไอร์แลนด์ (ลงสนาม 7 นัด : 6 คะแนน), 5. ยิบรอลตาร์ (ลงสนาม 6 นัด : 0 คะแนน)

กลุ่มเอฟ อาเซอร์ไบจานแพ้คาบ้านต่อออสเตรีย 0-1 ออสเตรียจึงการันตีเข้ารอบสุดท้ายอีกทีมต่อจากเบลเยียม

เกมนี้ทีมเยือนได้ประตูชัยจาก มาร์เซล ซาบิตเซอร์ นาที 48 (จุดโทษ) แต่ออสเตรียก็ต้องเหลือ 10 คน กิโด บูร์กสตัลเลอร์ ถูกไล่ออกนาที 90+4

ขณะที่อีกคู่ เบลเยียมกับสวีเดนต้องยกเลิกการแข่งขันในช่วงพักครึ่งเวลา หลังเกิดเหตุแฟนบอลสวีเดน 2 รายถูกยิงเสียชีวิต

กลุ่มนี้เบลเยียมและออสเตรียไปยูโรรอบสุดท้ายแน่นอนแล้ว ขณะที่สวีเดน, อาเซอร์ไบจาน และเอสโตเนีย ตกรอบและต้องไปภาวนาลุ้นตั๋วเพลย์ออฟ ซึ่งจะอ้างอิงตามผลงานในยูฟ่า เนชันส์ ลีก 2022-23

อันดับบนตารางคะแนน 1. เบลเยียม (ลงสนาม 6 นัด : 16 คะแนน), 2. ออสเตรีย (ลงสนาม 7 นัด : 16 คะแนน), 3. สวีเดน (ลงสนาม 5 นัด : 6 คะแนน), 4. อาเซอร์ไบจาน (ลงสนาม 6 นัด : 4 คะแนน), 5. เอสโตเนีย (ลงสนาม 6 นัด : 1 คะแนน)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น