โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

“ธีม EV” สุดแป๊ก ไม่ปังอย่างที่คิด พา “ขาดทุนยับ”... ขาดทุนจาก IPO กว่า -44% ปีนี้ผลตอบแทนร่วงเฉลี่ย -14.44 % !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 10.09 น. • สรวิศ อิ่มบำรุง

สาระ Fund วันละนิด: วันนี้ จะพามาส่องอีกธีมที่ “สุดแป๊ก” ไม่ปังอย่างที่คิด ทำนักลงทุน “ขาดทุนยับ” ไปตามๆ กัน
นั่นก็คือ “ธีม EV” หรือ “รถยนต์ไฟฟ้า” (Electric Vehicle) นั่นเอง โดยขาดทุนจากราคา IPO เฉลี่ยกว่า -44% ซึ่งถือว่า “ไม่น้อย” และปีนี้ผลตอบแทนก็ยังคง “ติดลบ” กันถ้วนหน้าเฉลี่ย -14.44%สวนกระแสยอดขายรถ EV เติบโต
ปัจจุบันมี 4 กองทุน ใน “ธีม EV” เป็นกองทุนอะไรบ้างนั้น ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย

ธีม “EV” พาขาดทุนยับจากราคา IPO กว่า -44%

แม้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV” โดยมีแรงขับเคลื่อนจากเรื่อง Carbon transition” ยังดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลของ “สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ” พบว่ารถยนต์เกือบ 1 ใน 5 ที่ขายในปี2023 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าก็ตาม
แต่แนวโน้มของ EV” ก็ยังขึ้นกับหลายปัจจัย ทั้งราคาที่แพงจนช่วงหลังมีการปรับลดราคากันมากมายระยะการขับขี่ อัตราดอกเบี้ย และกำลังซื้อของผู้บริโภคเองด้วย จนบางส่วนก็ตัดสินใจไปซื้อ Hybrid” แทน ซึ่งส่งผลต่อตลาด EV” เช่นเดียวกัน
ในช่วงที่กระแส EV” มาแรง บลจ.ไทยก็ไม่พลาดจะนำเสนอทางเลือกการลงทุนนี้ให้นักลงทุนเช่นกัน มี 4 กอง ด้วยกัน (ไม่นับรวมชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนเดียวกัน) ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มที่ลงทุนในรถยนต์ EV และ 2) กลุ่มที่ลงทุนในธุรกิจแบตเตอร์รี่ กลุ่มละ 2 กอง ประกอบด้วย
- “SCBEV(A): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicles and Future Mobility (ชนิดสะสมมูลค่า)” ของบลจ.ไทยพาณิชย์ จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2022 ปัจจุบัน (ณ วันที่ 11 พ.ย. 24) NAV เหลือ 5.09 บาท หรือขาดทุนจาก IPO ไป -49% ผลตอบแทนปีนี้ยังติดลบอยู่ -12.97%
“โดยกองทุนมุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ได้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนีอ้างอิง ‘Bloomberg Electric Vehicles Index’ ผ่านกองทุนหลัก KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility Index ETF”
- “LHMOBILITY-A: กองทุนเปิด แอล เอช สมาร์ท โมบิลิตี้ ชนิดสะสมมูลค่า" ของบลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2021 ปัจจุบัน (ณ วันที่ 8 พ.ย. 24) NAV เหลือ 5.78 บาท หรือขาดทุนจาก IPO ไป -42% ผลตอบแทนปีนี้ยังติดลบอยู่ -6.97%
“โดยกองทุนเน้นลงทุนใน ‘หุ้นทั่วโลก’ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมต่าง ๆ ภายใต้ระบบการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Transportation) เช่น เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อยานยนต์กับสิ่งต่าง ๆ (Connected Vehicle) ผ่านกองทุนต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองขึ้นไป”

- “ASP-POWER: กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ฟิวเจอริสติก พาวเวอร์ ซัพพลาย แอนด์ โมบิลิตี้” ของบลจ.แอสเซท พลัส จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2021 ปัจจุบัน (ณ วันที่ 11 พ.ย. 24) NAV เหลือ 3.77 บาท หรือขาดทุนจาก IPO ไป -62% ผลตอบแทนปีนี้ยังติดลบอยู่ -28.39%
“โดยกองทุนจะลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมต่างๆ ภายใต้ระบบการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Transportation) เช่น เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Vehicle) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อยานยนต์กับสิ่งต่าง ๆ (Connected Vehicle)เป็นต้น ผ่านกองทุนต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองขึ้นไป”
- “UEV: กองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์" ของบลจ.ยูโอบี จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2021 ปัจจุบัน (ณ วันที่ 8 พ.ย. 24) NAV เหลือ 7.64 บาท หรือขาดทุนจาก IPO ไป -24% ผลตอบแทนปีนี้ยังติดลบอยู่ -9.43%
“โดยกองทุนจะลงทุนใน ‘หุ้น’ ของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งครอบคลุมถึงการทำเหมืองไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการผลิตแบตเตอรี่ และ/หรือบริษัทที่ดำเนินการและ/หรือได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งในอนาคต เช่น รถยนต์, ยานพาหนะไฟฟ้า และ/หรือเทคโนโลยีดิจิตอลที่ใช้ในการขนส่ง เช่น การขับขี่อัตโนมัติเป็นต้น โดยกระจายการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ผ่านกองทุนต่างประเทศตั้งแต่ 2 กองขึ้นไป”

ชี้ปัจจัยส่งเสริมตลาด “EV”

จากข้อมูลของ “บจ.มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” ระบุผ่านรายงานว่า นักวิเคราะห์ Morningstar” คาดว่าความต้องการรถ EV จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนหากมี 2 ปัจจัยส่งเสริมซึ่งได้แก่ การที่รถ EV ขับเคลื่อนในระยะที่ไกลเกิน 300 ไมล์และมีราคาที่ไม่แพง รวมทั้งมีสถานีชาร์จไฟฟ้าความเร็วสูงจำนวนมากตามเส้นทางเพื่อให้ผู้ใช้รถมั่นใจในการเดินทาง และทั้งหมดนี้จะถูกสนับสนุนให้เกิดได้ภายใต้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กำลังลดลง
“ในระยะยาวการนำ EV เข้ามาใช้ยังคงดำเนินต่อไป มาตรฐานมลพิษก็มีแนวโน้มเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ โดยจากการศึกษาของ ‘BloombergNEF’ พบว่า EV คิดเป็น 18% ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วโลกในปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45% ในปี 2030 และ 73% ในปี 2040 ตามลำดับ”
สำหรับ “ธีม EV” เป็นอีกธีมที่น่าสนใจ เพราะการใช้รถยนต์ EV ก็เติบโตขึ้นจนนักลงทุนเองก็สัมผัสได้ แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยของ “ตลาด EV” เองก็ยังมีหลากหลายปัจจัยที่ยังต้องติดตามใกล้ชิดเพราะส่งผลต่อผลกำไรของบจ.ในธุรกิจเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญ กองทุนกลุ่มนี้ก็ “โฟกัส” ธุรกิจเฉพาะเช่นกัน ถ้าสนใจลงทุนแนะนำให้แบ่งเงินบางส่วนกระจายมาลงทุนเท่านั้น
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...