โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

มีกฎห้ามผู้มีความหลากหลายทางเพศบวชพระ จริง? หรือเป็นเพียงแนวคิดของสังคมที่ไม่ยอมรับความต่าง

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 22 ก.พ. 2565 เวลา 17.00 น. • J.PNP

เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากมาย รวมไปถึงการเรียกร้องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานว่า ‘ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ’ สามารถบวชเป็นพระได้หรือไม่ ? 

วันนี้เราเริ่มจากการดูนิยามของข้อห้ามในการบวชกันก่อน 

“ปณฺฑโก ภิกฺขเว อนุปสมฺปนโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ”

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ บัณเฑาะก์ ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วต้องให้สึกเสีย

ซึ่งหากจะแปลจากความหมายตรง ๆ แล้ว ในพระพุทธศาสนานั้นไม่อนุญาตให้ ‘บัณเฑาะก์’ บวชพระ ซึ่งหากเจอว่าอุปสมบทไปแล้วก็ต้องให้สึก 

แล้วบัณเฑาะก์คือคนประเภทไหน?​

บัณเฑาะก์ หมายถึง ‘บุคคลมีอวัยวะเพศเป็นช่องสำหรับถ่ายซึ่งระบุเพศไม่ได้’ และบัณเฑาะก์นั้นมีถึง 5 ประเภท แบ่งออกเป็น

1. อาสิตตบัณเฑาะก์ คือ ชายที่อมอวัยะเพศของชายอื่น 

2. อุสุยยบัณเฑาะก์ คือ ชายที่ชอบพอใจในการดูกิจกรรมร่วมเพศระหว่างชายกับชาย

3. โอปักกมิยบัณเฑาะก์ คือ บุคคลที่ถูกตอน เช่น ขันที

4. ปักขบัณเฑาะก์ คือ บัณเฑาะก์ในช่วงข้ามแรม แต่ช่วงข้างขึ้นไม่เป็น 

5. นปุงสกัปบัณเฑาะก์ คือ ผู้มีความบกพร่องทางเพศสภาพ คือไม่ปรากฏเพศที่แน่ชัด

สิ่งที่น่าสนใจคือมีการระบุว่าบัณเฑาะก์ประเภท 1 อาสิตตบัณเฑาะก์ และประเภท 2 อุสุยยบัณเฑาะก์ นั้นสามารถบวชได้ ส่วนประเภทที่ 4 ปักขบัณเฑาะก์นั้นสามารถบวชได้ในวันที่ไม่ได้มีกำหนัด ส่วนบัณเฑาะก์ประเภทที่ไม่สามารถบวชได้คือ ประเภทที่ 3 และ 5 คือบุคคลที่ถูกตอน หรือมีความบกพร่องทางเพศสภาพ, อ้างอิงณัฐพงศ์ ดวงแก้ว

แต่สิ่งที่ทำให้ต้องพูดถึงนิยามของคำว่า บัณเฑาะก์ นั้น ก็เป็นเพราะว่า บัณเฑาะก์ ถูกใช้เป็นคำแทนกะเทย หรือคนที่มีความหลากหลายทางเพศในปัจจุบัน จึงทำให้เกิดคำถามว่า กะเทยสามารถบวชพระได้หรือไม่? 

ในปัจจุบันมีการเรียกร้องของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มของชายรักชาย แต่มีความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในสังคม 

โดยในทุก ๆ รูปแบบของเพศที่มีในสังคม ก็ต้องการการยอมรับอย่างเท่าเทียมเหมือนกันกับเพศหญิงและชายที่ถูกยอมรับในปัจจุบัน และเรื่องการบวชพระจึงเป็นประเด็นถูกหยิบมาเป็นข้อเรียกร้องด้วยนั่นเอง

เรื่องของนิยามผู้ที่ห้ามบวชพระตามกฎของพระสงฆ์ที่ใช้คำว่าบัณเฑาะก์หากตีความแบบไม่ได้มีอคติจนเกินไป อาจจะพูดได้ว่า เราไม่สามารถใช้ ‘รสนิยมทางเพศ’ ของคนในปัจจุบันเพียงอย่างเดียวมาตัดสินว่าใครควร หรือไม่สมควรบวชพระได้ แต่ต้องรวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ 

อีกทั้งการถกเถียงนั้นอาจจะต้องมาตรฐานในการถกเถียงที่เป็นกฎเกณฑ์เดียวกันว่าสิทธิทางสังคมและการเมือง เท่ากับ สิทธิของสงฆ์หรือไม่อีกด้วย หากถกกันคนละประเด็นก็ไม่ได้เกิดบทสรุปที่เหมาะสมอยู่ดี

สุดท้ายการบวชเป็นพระ ที่บอกว่าต้องใช้ใจเป็นหลักนั้นทำไมถึงมีอคติกับคนบางกลุ่มจนมองว่าไม่สมควรเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของพระพุทธศาสนา ในขณะที่ปัจจุบันก็แสดงให้เห็นอยู่มากมายว่าคุณสมบัติเป็นเพียงด่านแรกที่ไม่สามารถพิสูจน์และรักษาความผุดผ่องอะไรได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก

spectrumth

- museumsiam

- thestandard.co

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 70

  • RunG
    ศึกษาพุทธศาสนา มีฆราวาสสำเร็จเป็นอริยบุคคลมากมาย ไม่เห็นจะต้องบวช พระที่บวชก็ใช่ว่าจะดีทุกรูป อยู่ที่คน ไม่ได้อยู่ที่บวขหรือไม่บวช
    13 มี.ค. 2565 เวลา 14.44 น.
  • Cafe'
    ..กลัวจะไปเต้นติ๊กต๊อกดิโยม!!👀!!
    11 มี.ค. 2565 เวลา 21.38 น.
  • Long k.k 42
    เอางี้นะ ถ้าคนที่มีอารมณ์กะเพศชาย ไปอยู่ในกลุ่มสังคมชายล้วน ใกล้ชิดกันมากๆ จะเป็นยังไงละ
    05 มี.ค. 2565 เวลา 14.38 น.
  • บางที่เป็นเพศที่สามบวชเพราะบวชให้ผ่านไปไม่ขัดใจแม่พูดง่ายๆบวชให้แม่ผู้ไร้เดียงสาเพราะหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เณรพระพอบวชเข้าไปแล้วไปสร้างความเสื่อมเสีย แต่พ่อแม่แทนที่จะบอกให้ลูกสึกออกมาพ่อแม่บางคนบอกลูกฉันไม่เป็น ตกลงจะบวชให้ได้บุญหรือได้บาปมันอยู่ที่จิตสำนึกของคนที่บวชและพ่อแม่ต้องรู้ด้วย ตั้งข้อสังเกตุนะครับบางคนบางกลุ่มไม่รู้ธรรมวินัยของสมมุติสงฆ์ แต่ก็ออกมาเถียงเพื่อเอาชนะในโซเชียลก็ชนะครับเพราะพวกมากลากไปยิ่งวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องข้อห้ามอะไรเรียกยอดไลค์เอามันอย่างเดียว
    05 มี.ค. 2565 เวลา 13.51 น.
  • ธนพงษ์ ส.
    หลักการของศาสนา สูงกว่า หลักกฎหมาย และสังคม
    04 มี.ค. 2565 เวลา 04.06 น.
ดูทั้งหมด