วันก่อนได้ลองดูหนังเรื่องหนึ่งที่มีหลายคนแนะนำมาในช่วงนี้คือเรื่อง a taxi driver
เป็นหนังเกาหลีเรื่องนึงที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแท็กซี่คนหนึ่งจากกรุงโซล ที่รับจ้างพานักข่าวต่างชาติคนหนึ่งเข้าไปทำข่าวในกวางจู เพื่อนำความจริงที่ถูกพยายามปิดกั้นจากทหารออกสู่สายตาของชาวโลก ฟังดูเหมือนหนังบู๊ชวนตื่นเต้นทั่วไปเนอะ แต่ที่พิเศษคือ หนังเรื่องนี้ได้อิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นนี้ในช่วงปี 2523 เป็นช่วงเวลาที่เกาหลีใต้ยังมีการปกครองในระบอบเผด็จการ ช่วงเวลาที่ตัวเอกได้เข้าไปหาข่าวเป็นอยู่ในช่วงเวลา 10 วันของ ‘การลุกฮือของประชาชนกวางจู’
ถ้าใครอยากไปลองดู เดี๋ยวเราจะเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ช่วงนั้น เพื่อให้อินและได้อรรถรสมากขึ้นกัน
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากการมีการลอบสังหารพลทหารปาร์ก จุงฮีที่ปกครองอำนาจกว่า 18 ปี เมื่อมีการเลือกผู้นำใหม่ ไม่กี่เดือนก็ถูก พล.ต. ชุน ดูฮวาน ทำการรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้ง โดยสิ่งที่เรื้อรังประชาชนเป็นอย่างมากคือ กฎอัยการศึกที่เริ่มใช้ตั้งแต่มีการลอบสังหาร ปาร์ก จุงฮี แต่ผ่านไปเป็นปีก็ยังไม่มีการยกเลิกอยู่ดี นั่นทำให้ประชาชน โดยเริ่มจากกลุ่มนักศึกษาเริ่มออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยุติกฎอัยการศึก เรียกร้องเสรีภาพในการแสดงออก กลุ่มชุมนุมต่อต้านใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนวันที่ 15 พ.ค. นั้น รวมตัวประชาชนเข้าร่วมได้เป็นแสน
แต่สิ่งที่รัฐบาลทหารตอบโต้กลับเป็นการขยายขอบเขตกฎอัยการศึก และใช้ข้ออ้างทางความมั่นคงจับกุมนักศึกษา และนักการเมืองในข้อหายุยงปลุกปั่น นั่นทำให้ความรุนแรงได้ถูกยกระดับกลายเป็นการนองเลือดในเวลาต่อมา เราจะได้เห็นการสูญเสียมากมายของประชาชนและนักศึกษาที่อยู่ที่นั่นจากในหนังเรื่องนี้
รถแท็กซี่เองก็เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ในการช่วยกำบังประชาชนจากกระสุน และช่วยพาหลบหนีจากทหาร
แม้ว่าท้ายสุดเมืองกวางจูจะถูกทหารปราบปรามและบุกยึดได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้กลับยิ่งทำให้เกิดกระแสต่อต้านต่อรัฐบาลที่รุนแรงขึ้น ประชาชนยังคงต่อสู้อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดปี 2530 เกาหลีใต้ก็ได้กลับมามีประชาธิปไตยสำเร็จ เมื่อมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งนั่นเอง
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก ละครสะท้อนอะไร ได้บน LINE TODAY ทุกวันพฤหัสบดี