การนินทาคือระเบิดเวลาทำลายทีม
ถ้าจะถามว่าอะไรทำลายความเป็น Team ได้มากที่สุด หนึ่งในคำตอบคือ “การนินทา” แน่นอนค่ะ
เพราะการนินทาเป็นจุดเริ่มต้นของการไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การแสดงออกถึงความอิจฉาริษยากันในที่ทำงาน ที่พูดแบบนี้เพราะเป็นธรรมดาที่ในคนที่จับกลุ่มนินทากัน มันจะมีคน 2 ประเภทนี้นะ ประเภทแรกคือลับหลังนินทาต่อหน้ายิ้มให้ กับคนอีกประเภทที่เป็นเหยื่อของคนกลุ่มแรกคือคนที่ร้ายทั้งต่อหน้าและลับหลัง 55 ซึ่งกลุ่มนี้แหละที่จะโดนเพ่งเล็งหรือโดนจัดการได้ง่าย แต่ตัวร้ายจริงๆก็คือคนกลุ่มแรกที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ร้ายนะ ซึ่งพวกนี้อ่ะจะแฝงตัวไปเรื่อยๆ พอสมาชิกกลุ่มที่ร้ายแบบแสดงออกโดนกำจัดไปก็จะไปหาสมาชิกใหม่มารวมกลุ่ม เหมือนเป็นเชื้อร้ายที่ถ้าบริษัทหาตัวไม่เจอก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ #น่ากลัวนะบอกเลย ยิ่งในปัจจุบันการนินทามันไม่ได้อยู่แค่ในที่ทำงานแล้วไงคะ การโพสต์ในโซเชียลมีเดียนี่แหละตัวดี ที่คนมาอ่าน มา comment แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังแสดงความคิดเห็นอยู่เลย บางคนเลือกจะ comment เข้าข้างเพื่อนของตัวเองด้วยการว่าร้ายคนที่ไม่รู้จัก
แล้วการจับกลุ่มเม้าท์ก็มีทั้งเม้าท์กันเอง เม้าท์หัวหน้า หรือเม้าท์บริษัท ในความน่ากลัวคือเรามักจะไม่คิดว่าการนินทานั้นเป็นเรื่องผิด คิดว่าคนที่โดนอ่ะมันสมควรแล้วที่โดน !!!
มาถึงตรงนี้ เราต้องแยกแยะก่อนนะว่าการนินทากับการระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน #แต่มันก็เส้นบางๆอ่ะเนอะ 55 เอาเป็นว่าเราทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจแหละว่าการพูดคุยแบบที่ต้องการจะแก้ปัญหาจริงๆ ต้องคุยกันเพื่อเสนอะแนะแนวทางแก้ไข ไม่ใช่พูดถึงแต่ปัญหา หรือใส่ความคิดเห็นเพื่อทำให้เรื่องนั้นใหญ่เกินจริง กับอีกประเด็นคือการนินทาจะจบลงที่การพูดคุยโดยไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้ ซึ่งถ้าเราเจตนาดีต้องหาวิธีเพื่อช่วยให้เกิดการแก้ไขได้ทั้งเรื่องระบบและที่เกี่ยวกับตัวบุคคล
แล้วคนแบบไหนที่จะโดนตกเข้ากลุ่มนินทาได้ง่ายๆ
• พนักงานในทีมที่หัวหน้าไม่ทำหน้าที่สื่อสารเพื่อทำความเข้าใจนโยบาย
• พนักงานในทีมที่หัวหน้าไม่ยุติธรรม หรือยุติธรรมนะแต่ไม่แสดงออก ><”
• พนักงานใหม่ๆที่ไม่มี Buddy ทัศนคติดีๆคอยดูแล
• พนักงานในทีมที่บริษัทปล่อยให้คนทัศนคติไม่ดีเป็นหัวหน้า
และอีกกลุ่มคือพนักงานที่ชอบนินทาเป็นนิสัย คนที่พูดอะไรก็เป็นเรื่องลบไปหมด ซึ่งคนพวกนี้พร้อมพุ่งเข้าใส่ทุกกลุ่มค่ะ
แน่นอนว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนี้ ผู้บริหาร หัวหน้างานและ HR ต้องเข้าใจความสำคัยของการทำงานเป็นทีมก่อนว่ามันมีพลังมากจริงๆนะ และในทางตรงกันข้ามถ้าเรามีทีมที่ไม่ดี แม้แต่เรื่องเล็กๆ ก็อาจจะทำได้ไม่สำเร็จง่ายๆนะคะ ในวันที่มีความท้าทายมากมายเกิดขึ้นในธุรกิจ มีภารกิจใหญ่ๆหลายอย่างที่ต้องอาศัยพลังจากพนักงานในการที่จะทำให้องค์กรของเราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ร่วมกัน แนะนำว่าอย่ามองข้ามเรื่องที่ผู้บริหารอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันกระทบความรู้สึกและพลังงานของพนักงานมากเลยนะคะ
แล้วจะรับมืออย่างไ ถ้าเราต้องกลายเป็นประเด็นให้โดนเม้าท์ ขอเสนอความคิดเห็นจากประสบการณ์ของตัวเองที่ได้เรียนรู้จากการทำงานกับคนหลากหลายมานะคะ
เอาจริงๆอ่ะ อันดับแรกเลยนะ ง่ายที่สุดก็คือทบทวนตัวเองก่อนว่าเกิดจากอะไร เราทำอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิดหรือเปล่า เราทำอะไรที่ไม่สมควรมั้ย ถ้าเรามั่นใจว่าเราเป็นคนที่มีเหตุผลเพียงพอก็ควรจะเปิดใจและทำความเข้าใจเรื่องราวก่อน ถ้าเรามีส่วนผิดก็ปรับปรุงกันไป …. แต่ถ้าไม่ผิดอะไรล่ะก็ หึหึ
• โนสนโนแคร์นะ ถ้าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดก็เพิกเฉยไป ไม่ต้องเอามาใส่ใจ หาเป้าหมายในการมาทำงานของตัวเองให้เจอว่าเรามาทำงานเพื่อให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร ก็เอาชีวิตไปบนเส้นทางนั้น อย่าไปสนใจเสียงรบกวนระหว่างทาง เรารู้อยู่แก่ใจว่าอะไรถูกอะไรผิดนี่นา จำไว้ว่าเรามีเวลาในชีวิตจำกัดมากถึงมากที่สุด ถ้าเราเอาเวลาไปใช้กับเรื่องที่ไม่ได้ส่งเสริมให้เรามีชีวิตดีๆ ก็ต้องปล่อยให้คนเหล่านั้นเป็นไปตามกฎแห่งกรรมกันไปนะคะ
• แก้แค้นซะหน่อยก็สนุกดีนะ 555 เอาหละ ถ้า Level ของการเม้าท์มันรุนแรง และเราเองก็ตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ !!! ต้องสู้ยังไงดี นี่ยังเชื่อว่าการแก้แค้ที่ดีที่สุดคือการเอาชนะคนพวกนั้น เรารู้อยู่แล้วแหละว่าเค้านินทาเราเพราะเราต้องมีอะไรบางอย่างที่ดีกว่าเค้า ง่ายๆเลยนะสมมุติว่าเราโดนเม้าท์เพราะเป็นคนไม่ดี แต่ถ้าเราเป็นคนไม่ดีแล้วโดนอะไรเค้าก็คงไม่เม้าท์ แต่เค้าจะนินทาก็ต่อเมื่อเค้าคิดว่าเราไม่ดีแต่เรายังปลอดภัยดี 555 เพราะฉะนั้นต้องไปให้สุดค่ะ ต้องได้ให้สุด ต้องมีความสุขให้สุด ให้เค้าเห็นว่าพวกเค้าไม่ได้มีผลอะไรกับเรา ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร ชีวิตเราก็ยังไปได้ดี เอาซิ มาดูกันว่าใครจะอกแตกตายก่อนกัน
• ความตึงเครียดที่สุดคือการที่เราต้องทำงานกับคนที่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเค้าเม้าท์เรา และในสถานการณ์นี้เราจะชนะก็ต่อเมื่อเราเป็นคนที่แยกแยะได้ ซึ่งถึงแม้ว่าใจไม่มาแต่ก็ต้องแสดงออกว่าไม่มีปัญหาอะไรนะคะ ความเป็นมืออาชีพในการทำงานคือการทำงานกับใครก็ได้ จะดีถ้าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยแกก่อนว่าไม่อยากทำงานกับคนนี้ แต่จะดีที่สุดถ้าเราทำงานกับคนที่ไม่ชอบได้สำเร็จตามเป้า #พลิกกลับมาบทนางเอกต่อ ซึ่งถ้าเราคิดว่าคนๆนั้นนินทาเรา หรือไม่ชอบเราเพราะเข้าใจเราผิด ก็น่าจะใช้โอกาสนี้ที่จะได้ทำงานด้วยกันในการทำให้เค้าเห็นว่าเราก็ไม่ได้แย่นะ เรามีความสามารถจริงๆนะ มันจะดีมากเลยนะคะที่เราจะทำให้คนที่เคยเข้าใจเราผิดกลับมาเข้าใจเราใหม่ได้ นี่คิดว่าเป็นการรับมือกับการนินทาที่ดีที่สุดเลยค่ะ
สุดท้ายนะคะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราเองนี่แหละค่ะ ที่ต้องมั่นใจว่าเราจะไม่ไปเป็นคนในแบบที่เราคิดว่าไม่ดีซะเอง ไม่ชอบให้ใครนินทาเราก็ต้องไม่นินทาใครด้วยนะคะ และขอให้เชื่อมั่นในความดีของคนค่ะ ขอให้เชื่อว่าทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมได้ เราก็จะยอมรับและให้อภัยคนอื่นได้ง่ายขึ้นนะคะ
เนื้อเพลงวิชาตัวเบา ของ Bodyslam ท่อนหนึ่งบอกว่า “หนักก็เพราะยังเก็บ เจ็บก็เพราะยังคิด มีทุกข์ใจ มีสุขใจ เตือนหัวใจ ต่างต้องพบเจอ” ถ้าอยากตัวเบาต้องไม่เอาอะไรหนักๆติดตัวนะคะ โดยเฉพาะสิ่งไม่ดีเนอะ
#รักนะคะ
ความเห็น 44
คุณไนท์
BEST
ข้อเสนอแนะน่ะ เคยทำมาหมดทุกข้อล่ะ ทำออกมาจากหัวใจ ไม่เคยอ่านจากหนังสือ HOW TO ที่ไหน แต่ไม่ได้ผล รวมหัวนินทากันตลอด ทำดีก็โดน ผิดก็ยิ่งโดน แม้บางเรื่องจะไม่ใช่ตัวเราก็ตาม แต่มันก็อึดอัดนะ สุดท้ายก็ขอเกษียนตัวเองก่อนกำหนด ลาออกมันซะ คับที่อยู่ง่าย แต่คับใจนี่อยู่ยากเสียสุขภาพจิตจริงๆ เจอคนที่แบบนินทาคนอื่นยังไม่พอ ยังพูดจาไม่สุภาพ หยาบคายอีก สบถคำหยาบๆได้ตลอด จึงทำให้เครียดง่ายกับบรรยากาศการทำงานแบบนั้น ถือคติว่าสิ่งไหนเราไม่ชอบให้คนอื่นทำ เราก็อย่าไปทำแบบนั้นกับเขาเลย ก็รอดูผลกรรมจะตามสนองอยู่นะ
17 ต.ค. 2562 เวลา 05.36 น.
BEST
คนส่วนใหญ่ชอบสำรวจคนอื่นค่ะลืมสำรวจตัวเอง เลยชอบว่าคนอื่นเสมอ (กดดัน)
17 ต.ค. 2562 เวลา 05.09 น.
pat🤗s0rn
BEST
คนประเภทนี้มีทุกที่ ทุกวงการ..ต้องทำใจคะ...อยู่ให้ได้..ทำใจให้เป็น..
17 ต.ค. 2562 เวลา 05.43 น.
Yuporn Thammatharanu
อยู่เฉยๆ รอดุผลกรรมการนินทาให้ร้ายผู้อื่น จะตกตามแก่คนๆนั้นเอง ไม่ช้า ก้เร็ว
สาธุ
17 ต.ค. 2562 เวลา 05.19 น.
pop
เลิกคบไปเรย จะได้ไม่มีปัญหา ตามหลัง ต่างคนต่างไปอันเฟรน อัลฟอโร่
17 ต.ค. 2562 เวลา 04.28 น.
ดูทั้งหมด