โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อายุ 35 ปีอ่านเพื่อรู้ไว้ อายุ 40 อ่านเพื่อเตือนใจ 50 ปีขึ้นไปควรทำให้ได้ | พศิน อินทรวงค์

พศิน อินทรวงค์

เผยแพร่ 05 พ.ย. 2562 เวลา 05.43 น.
ว่าด้วยเวลาชีวิต คัดจากหนังสือ "วิถีปลาเป็น" โดย พศิน อินทรวงค์
ว่าด้วยเวลาชีวิต คัดจากหนังสือ "วิถีปลาเป็น" โดย พศิน อินทรวงค์

มนุษย์คิดว่า เมื่อความชรามาเยือน ความงามจะอันตรธานหายไป ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย มนุษย์ยังคงความงดงามอยู่เสมอและความชราก็นำความงดงามอีกแบบหนึ่งมาให้ มันคือความงามที่มาพร้อมความอ่อนโยน บางเบา แต่คมกริบ

ความงามชนิดนี้ แตกต่างไปจากความงดงามในช่วงวัยอื่น ๆ เป็นความงามที่มาจากภายในมิใช่ภายนอก ไม่ใช่ผู้ชราทุกคนจะมีความงามชนิดนี้อยู่ แม้ท่านมีความงามชนิดนี้อยู่ ลูกหลานผู้คนจะพากันรายล้อมท่าน เพราะท่านมีกระแสของความอบอุ่นให้พวกเขาดูดซับพลังจากท่านได้

ท่านลองสังเกตดูเถิด เมื่อพูดถึงวันวัยแล้ว มีเพียงวัยเยาว์และวัยชราเท่านั้นที่ให้พลังกับผู้อื่นได้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะสองวัยนี้เป็นวัยที่มีอัตตาตัวตนน้อยที่สุด สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ทุกคนอย่างง่ายดาย แต่เกิดกับผู้ชราบางคนเท่านั้น

เมื่อท่านก้าวสู่วัยชรา แม้ท่านยังเป็นผู้มากด้วยอัตตา ท่านก็คือผู้โง่เขลาและน่าเกลียดที่สุด ท่านเป็นผู้ดำเนินชีวิตมาเนิ่นนานแต่กลับเป็นผู้ไม่เข้าใจโลก ท่านกลายเป็นฟอสซิลที่แฝงตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้าทันสมัย

สิ่งที่สูงส่งยิ่งกว่าการเปลี่ยนโลกที่วัยหนุ่มสาวกระทำก็คือการปล่อยโลกที่วัยชราได้กระทำ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่มนุษย์คนหนึ่งจะปล่อยมือจากโลก เมื่อเราเกิดมา เราร้อง เรากำมือ เปล่งเสียงลั่นระงมเหมือนว่าเราต้องได้ทุกอย่าง นั่นคือสันดานเอาแต่ใจที่ฝั่งอยู่ในจิตสำนึกตั้งแต่ภพชาติก่อน มันทำให้เราไม่หลับไม่นอน

ท่านดูสิ เมื่อท่านหลับ มีสักครั้งบ้างหรือไม่ที่ท่านกำมือ ท่านปล่อยมือ ท่านจึงหลับได้อย่างสงบ และนั่นคือภาวะของความปล่อยวาง คือภาวะของวัยชรา

การปล่อยมือนั้นเป็นความงามอย่างยิ่ง แม้ถึงวันหนึ่ง ถ้าท่านมีปัญญาพอ ท่านจะสามารถปล่อยมือจากชื่อเสียง การงาน คำชื่นชม ลูกหลาน ท่านจะปล่อยมือจากทุกอย่างแม้แต่ร่างกายของท่านเอง

เมื่อวัยชรามาเยือนหากจิตปราศจากปัญญาย่อมกลายเป็นปัญหาของโลก คนหนึ่งจะเป็นภูมิปัญญาของโลก ส่วนอีกคนจะเต็มไปด้วยความกลัวห้าประการ หนึ่งคือกลัวสูญเสียความงาม สองคือกลัวสูญเสียความสำคัญ สามคือกลัวสุขภาพ สี่คือกลัวสูญเสียความมั่นใจ ห้าคือกลัวความกลัวตาย

ความกลัวตายนี้เป็นความกลัวที่ยิ่งใหญ่ เพราะท่านกำลังกลัวธรรมชาติของชีวิต กลัวในสิ่งที่เป็นตัวตนของท่าน ความตายคือปรัชญาของชีวิต เป็นบทเรียนสุดท้ายที่ท่านต้องเรียนรู้เพื่อให้ชีวิตสมบูรณ์

ท่านจงมองไปที่ต้นไม้ ใครไปบอกท่านว่า ต้นไม้ที่อายุมากจะไม่สวยงาม นี่คือเรื่องอันเหลวไหล ความจริงก็คือ ยิ่งต้นไม้อายุมากขึ้น มันก็ยิ่งให้ร่มเงามากขึ้น ยิ่งให้ร่มเงามากขึ้น มันก็ยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้น สวยงามมากขึ้น

ท่านมิรู้หรือ วันที่มนุษย์จักงดงามที่สุดนั้นมีอยู่สองวัน หนึ่งคือวันที่ท่านเกิด สองคือวันที่ท่านตาย วัยชรามาเยือนแล้ว ความงดงามใกล้บังเกิดแก่ท่านแล้ว…

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 31

  • เจษฎาพล ฉิมพลี
    อ่านจบแล้วครับ...มันเป็นกุสโลบายปลอบใจคนได้ดีเยี่ยม ในการเตรียมตัวตาย..คงไม่มีใครเชื่อหรอกครับ..ทั้งชายหญิง..70แล้วยังดึงหน้าตาจนถึงใบหู..อนิจจา
    05 พ.ย. 2562 เวลา 06.19 น.
  • PHATTO
    สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ การให้ธรรมะ ย่อมชนะการให้ทั้งปวง สาธุ
    05 พ.ย. 2562 เวลา 06.43 น.
  • 27 28 นี่เริ่มเห็นความพร่องไปของสังขารแล้ว บุคคลที่เรารักเริ่ม แก่ ป่วยและลาตายจากโลกไปทีละคนสองคน บางคนพึ่งจะ 25 ฝ่าเส้นทางเบญจเพศ เรียนจบปุ๊บตายปั๊บเลย โครตสงสารพวกหูหนวกตาบอดคิดว่าตัวเองจะอายุยืน
    05 พ.ย. 2562 เวลา 07.22 น.
  • หมวย
    อนิจจา อนิจจัง ทุกขัง สังขารา ชราปิ ทุกสิ่งขอให้ดูว่าเป็นอนัตตา
    05 พ.ย. 2562 เวลา 07.19 น.
  • ไทเกอร์
    เป็นไปตามนั้น
    05 พ.ย. 2562 เวลา 06.57 น.
ดูทั้งหมด