โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ยาหอม ไม่ใช่มีดีแค่แก้ลม

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 08 ธ.ค. 2562 เวลา 10.07 น. • เผยแพร่ 08 ธ.ค. 2562 เวลา 23.00 น.

ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เขียนเรื่องนี้ไว้ในคอลัมน์ พืชใกล้ตัว ในอภัยภูเบศรสาร ปีที่ 10 ฉบับที่ 119-120 เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2556 มีเนื้อหา ดังนี้

ขึ้นต้นแบบนี้คุณผู้อ่านคงมีคำถามต่อว่า แล้วถ้าไม่แก้ลมจะให้ไปแก้อะไร ต้องเรียนอย่างนี้ค่ะว่า ยาหอมที่พวกเราพูดกันติดปากว่าแก้ลมนั้นก็เป็นเช่นนั้นแลค่ะ แล้วลมคืออะไร ก็ต้องบอกว่า ลม คือ การเปรียบเทียบกลไกการทำงานของร่างกายค่ะ ซึ่งลมมีหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ ในร่างกาย หากไม่มีลม ก็คงไม่มีเรา เหมือนที่ผู้ใหญ่ท่านมักพูดติดปากว่า “หมดลมหายใจ”

ในทฤษฎีการแพทย์แผนไทย อธิบายไว้ว่า ในการดำรงอยู่ของสรรพสิ่งในจักรวาล (ซึ่งก็รวมถึงมนุษย์และสัตว์ด้วย) มีตัวควบคุมความสมดุล 3 อย่างที่เรียกว่า ตรีโทษะ อันประกอบด้วย เสมหะ (น้ำ-ดิน) ปิตตะ (ไฟ) และวาตะ (ลม) อาจารย์หมอแผนไทยหลายท่านย้ำกับผู้เขียนมาว่า ในทางการแพทย์แผนไทยนั้น ให้ความสำคัญกับลมเป็นอันดับแรก เพราะลมทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของเสมหะและปิตตะ จึงไม่แปลกที่จะมีคำพังเพยที่พูดถึงคนที่ปรับอารมณ์ยากๆ ว่าเป็นพวกเลือดจะไปลมจะมา หรือแม้กระทั่งในทางการแพทย์แผนไทยเองนั้น จะมียาแก้ลมอยู่มากมายหลายตำรับ ยาหอมก็จัดเป็นส่วนหนึ่งของยาแก้ลม

นอกจากนั้น ในทฤษฎีการแพทย์แผนไทย ยังมีความละเอียดอ่อนมากกว่านั้น โดยกล่าวไว้ว่า ในร่างกายของเราประกอบด้วย ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ในส่วนของลมนั้นมีการพัดอยู่ทั่วร่างกาย แต่ก็จะมีชื่อเฉพาะของลมที่พัดอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน แต่กล่าวโดยรวมว่า ลมมี 2 ประเภท คือ ลมกองหยาบ กับลมกองละเอียด

โดยลมกองหยาบ เราสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของลมได้ อาทิ ลมหายใจเข้า-ออก ลมจากการเรอและผายลม ส่วนลมกองละเอียด เรามักไม่สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงได้ แต่เมื่อเกิดความไม่สมดุลมากๆ ก็จะแสดงอาการออกมา อาทิ ลมที่ก่อให้เกิดอาการหน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ ใจสั่น อ่อนเพลีย

ดังนั้น ยาหอมที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้น มี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือยาหอม แก้ลมกองละเอียด ซึ่งมีรสหอมเย็น เนื่องจากมีส่วนผสมของเกสรดอกไม้ กฤษณา กะลำพักขอนดอก กับยาหอมที่ใช้แก้ลมกองหยาบ ที่จะมีรสร้อน เนื่องจากมีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีรสร้อน อย่างขิง ดีปลี โกฐ และเทียนชนิดต่างๆ

เมื่ออ่านถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านคงมีคำถามว่า แล้วดิฉันจะเลือกใช้ยาหอมถูกต้องได้อย่างไร จะรู้ได้อย่างไรว่า ตำรับไหนมีเกสรดอกไม้ ตำรับไหนมีโกฐ เอาแค่หน้าตาของสมุนไพรที่พูดมาก็ไม่เคยเห็น ผู้เขียนก็เลยจะขออนุญาตนำยาหอมตำรับที่อภัยภูเบศรมีจำหน่าย ได้แก่ ยาหอมทิพโอสถ ยาหอมเทพจิต ยาหอมอินทจักร์ และยาหอมนวโกฐ มาอธิบายเป็นตัวอย่าง เพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าใจยาหอมมากขึ้น อีกทั้งใน 4 ตำรับดังกล่าวยังจัดเป็นยาสามัญประจำบ้านของกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย

คุณผู้อ่านคงทราบกันแล้วว่า ยาหอมช่วยปรับให้เกิดการเคลื่อนไหวของอวัยวะและของร่างกายให้เป็นปกติ เช่น อาการท้องอืดท้องเฟ้อ (ที่เกิดจากลมกองหยาบกำเริบ) อาการใจสั่น วิงเวียน (ที่เกิดจากลมกองละเอียดกำเริบ) นอกจากยาหอมที่ใช้แก้ลมแล้ว หมอแผนไทยหลายท่านยังพูดตรงกันว่า ยาหอมยังมีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย (ในแง่ของการทำให้เกิดความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า) และบำรุงหัวใจ ซึ่งหากเรานำส่วนประกอบในตำรับยาหอมมาพิจารณา เราก็จะพบความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ในบรรดายาหอมสี่ตำรับที่กล่าวไปคือ ยาหอมเทพจิตร ทิพโอสถ นวโกฐ และอินทจักร์ หากดูในส่วนประกอบของตำรับ เราจะพบว่ายาหอมอินทจักร์ มีส่วนผสมของเบญจกูล (ที่ในทางการแพทย์แผนไทยกล่าวกันว่า เป็นยาบำรุงไฟธาตุ) ในสัดส่วนที่มากกว่าที่อยู่ในยาหอมอีก 3 ตำรับ ในส่วนอื่นก็จะมีตัวยาที่ค่อนไปทางบำรุง เช่น โกฐพุงหลา โกฐกักเกรา ดีสัตว์ ที่เหลือก็เป็นพวกเกสรดอกไม้ในสัดส่วนพอกัน

ยาหอมอินทจักร์จึงน่าจะใช้ได้ดีกับอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กับการเต้นผิดปกติของหัวใจแบบที่มีการอุดตันในช่องทางการไหลเวียนของเลือด และใช้บำรุงหัวใจหรือแก้ความผิดปกติเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจที่ไม่รุนแรง

ตำรับยาที่ร้อนน้อยลงมา (หรืออาจจะพอๆ กับยาหอมอินทจักร์) คือ ยาหอมนวโกฐ ยาหอมตำรับนี้จึงน่าจะใช้ได้ดีกับอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กับการเต้นผิดปกติของหัวใจแบบที่มีการอุดตันในช่องทางการไหลเวียนของเลือด (คล้ายๆ กับยาหอมอินทจักร์) และใช้บำรุงหัวใจ เนื่องจากมีตัวยาจำพวกเกสร ที่มีฤทธิ์หรือสรรพคุณในการบำรุงหัวใจ (ในแง่ของการเติมเต็มหรือฟื้นคืนเนื้อเยื่อหัวใจ) ร่วมกับการมีอาการท้องผูก เนื่องจากในตำรับนี้มีส่วนผสมของตรีผลา

ยาหอมทิพโอสถ ในบรรดายาหอมทั้งสี่ตำรับ ยาหอมตำรับนี้น่าจะใช้ได้ดีกับกรณีของหัวใจเต้นผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับไฟกำเริบปานกลาง เพราะมีส่วนผสมของเกสรดอกไม้และสมุนไพรที่มีพลังเย็นในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก ยาหอมทิพโอสถน่าจะใช้แก้ลม และแก้เป็นลมเนื่องจากความร้อนวิงเวียนศีรษะจากภาวะความดันโลหิตสูง

ยาหอมเทพจิตร ตัวยาที่มีปริมาณมากที่สุดคือ ดอกมะลิ (เท่ากับน้ำหนักของตัวยาอื่นๆ รวมกัน) ที่มีพลังเย็น จึงน่าจะช่วยลดความร้อนได้ดี สมุนไพรที่มีสัดส่วนรองลงมาคือ ผิวของผลไม้รสเปรี้ยว ที่จะทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า การรับรู้รสดีขึ้น ยาหอมเทพจิตร จึงน่าจะใช้ได้ดีกับอาการจะเป็นลม และหัวใจสั่น ซึ่งเกิดจากความร้อน (ธาตุไฟ) กำเริบได้ดี ทำให้อารมณ์สงบ และทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ทว่า ยาหอมเทพจิตรและทิพโอสถ ไม่น่าจะเหมาะเท่าไรสำหรับหัวใจเต้นผิดปกติที่มีการอุดตันของทางเดินเลือดลม และไม่น่าจะเหมาะกับคนที่มีอาการท้องอืด หรือระบบย่อยอาหารผิดปกติ

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...