โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แม่ร่ำไห้ลูกชาย หนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี กำลังจะรับปริญญา แต่หายตัวลึกลับขณะไปเที่ยวฮ่องกง

Khaosod

อัพเดต 10 เม.ย. 2566 เวลา 05.39 น. • เผยแพร่ 10 เม.ย. 2566 เวลา 02.46 น.

กลับบ้านเถอะลูก! แม่ร่ำไห้แจ้งความ วอนตำรวจช่วยตามหาลูกชาย หนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี หายตัวลึกลับตั้งแต่มี.ค.ขณะไปเที่ยวฮ่องกง เผยกำลังจะรับปริญญา

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.โชติกา อายุ 41 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีหลังก่อนหน้านี้ตนเองเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาลูกชายคือ นายดานิโล หรือโน่ เบญจกุล อายุ 22 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย- อิตาลี ที่เดินทางไปเที่ยวฮ่องกง กับเพื่อนอีก 2 คน แล้วหายตัวกันไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถติดต่อได้เลย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยติดตามหาตัวลูกชายให้ตนเอง เพราะอีกไม่กี่เดือน เขาก็จะรับปริญญาหลังจากเรียนจบแล้ว

น.ส.โชติกา เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกชายมาขออนุญาตตนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ฮ่องกงกับเพื่อน เมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 มีกำหนดกลับในวันที่ 13 มี.ค.66 ตอนที่เดินทางไปถึง
ฮ่องกงใหม่ๆ ลูกชายอยู่ที่ไหนก็จะถ่ายรูปส่งไลน์มาให้ดูว่ากำลังทำอะไร แม้แต่จะกินข้าวหรือเข้าห้องน้ำ แต่แล้วจู่ๆ ลูกชายก็ขาดการติดต่อกับตนไปเลย

ตนส่งไลน์ทุกวัน โทรเข้ามือถือก็แล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เกิดความเครียดมาก ต้องกินยานอนหลับแทบทุกคืน ลูกชายตนเขากำลังจะรอรับปริญญาอยู่อีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงมาขออนุญาตตนไปเที่ยว

น.ส.โชติกา กล่าวต่อว่า หลังจากเรียนจบเพื่อเดินทางไปพักผ่อนสมองท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่นึกไม่ถึงว่าจะหายสาบสูญติดต่อไม่ได้แบบนี้ ตนอยากวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามหาลูกชายกลับมาให้ตนด้วย เพราะไม่รู้ว่าเขาจะไปตกระกำลำบากเป็นตายร้ายดีอย่างไรในต่างแดน

"หนูก็ไม่รู้หนังสือ ไม่รู้ต้องทำอย่างไร กลับบ้านเถอะลูก กลับมาหาแม่นะ" น.ส.โชติกา กล่าวทั้งน้ำตา

ที่มา 3PlusNEWS

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...