โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อิ๋วววว! เทรนด์กิน "เนื้อเน่า" บูมที่เมืองนอก-คนอ้างกินเพื่อความ "ฟิน"

Tidhoo - ติดหู

เผยแพร่ 06 พ.ค. 2564 เวลา 06.31 น. • Tidhoo

ขอพูดถึงไทยก่อนแล้วกันว่าการกินเนื้อเน่าเนี่ย มีที่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เขาจะมีการนำเนื้อเน่าที่หมักปรุงรสไว้มากินและไม่ท้องเสีย แต่ล่าสุดมีกระแสบนโลกโซเชียลเมืองนอก เกี่ยวกับการกินอาหาร เนื้อเน่า “ชวนอ้วก” ทุกชนิด ถูกอ้างว่ามันช่วยให้คุณฟินอย่างบอกไม่ถูก

เนื้อเน่า ใครกินแต่เราไม่กิน!

กระแสนี้ ชาวโซเชียลเรียกเมนูชวนแสยะนี้ว่า “High Meat” มันลายเป็นเทรนด์ไปทั่วและกลายเป็นคลิปท้าทำต่อๆ กันไม่ต่างจาก “Ice Bath” ในสมัยก่อนโดยผู้ที่กินอ้างว่าเป็นการกินเพื่อให้เกิดความสุข ฟิน พริ่ม กระหยิ่มตา คล้ายกับยากล่อมประสาท

หากพูดย้อนไปเมื่อมีการกำเนิดมนุษยขึ้นบนโลกเมื่อ 3-4 แสนปีนั้น “ไฟ” ถูกใช้เพื่อเพื่อทำให้เนื้อต่างๆ สุก ด้วยเหตุผลที่ว่า ความร้อนจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเดีย ที่แน่ๆ คือคุณจะไม่ท้องเสียหรือเกิดอาการอาหารเป็นพิษอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องการกิน เนื้อเน่านั้นมีใคร(ก็มิทราบ) บนอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดอุปทานหมู่ว่า การกินเนื้อเน่าแล้ว “ฟิน” ซึ่งมันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการหมักหมมของแบคทีเรียจำนวนเป็นล้าน ซึ่งมันช่วยให้คนเรา “เลิกคิดฟุ้งซ่าน” แต่เวลาท้องร่วงหนักๆ เราก็ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเหมือนกันนะ

“High Meat” นั้นไม่ใช่การหมักหรือปรุง ที่ถูกวิธีที่ได้รับมมาตรฐาน แต่มันคือการทิ้งเนื้อให้เน่าเปื่อยนานอย่างน้อย 1 ปี โดยไม่มีสารกันบูด ผงชูรส อายิโนะโมโตะ อูมามิอะไรก็แล้วแต่ ส่วนแบคทีเรียที่พบได้เป็นส่วนมากในเนื้อเน่าคือ อีโคลายและซัลโมเนลลา ที่ไม่เหมาะแก่การกิน

อย่าไรก็ตาม มีเนื้อสัตว์หลากชนิดที่สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงสุก เช่น ซาชิมิ กุ้งแช่น้ำปลา หรือแม้แต่เนื้อวัวที่ถูกทำเป็นสเต็ก และคิดว่าทาง อย. เมืองนอกคงไม่ปล่อยไว้แน่และเทรนด์พิลึกแบบนี้ไม่น่าจะได้ไปต่อ เพราเการกินเนื้อเน่าๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรหาทำอย่างยิ่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...