โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มี ด้วยสวนขวดและสวนถาด

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 25 ม.ค. 2561 เวลา 07.23 น. • เผยแพร่ 20 ม.ค. 2561 เวลา 06.02 น.

ในยุคปัจจุบันนี้ เป็นยุคแห่งดิจิตอล ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย กับสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ให้เกิดการทำงานที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมาพร้อมกับสังคมที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบที่มักพบได้ในสังคมเมืองโดยเฉพาะ สังคมคนกรุงเทพฯ หรือแม้ในต่างจังหวัดเองที่เป็นแหล่งชุมชนต่างๆ ก็มักจะพบเห็นคล้ายๆ กันคือ การจราจรที่ติดขัด ที่มักจะเร่งรีบกับการเดินทางเพื่อไปทำงาน ไปโรงเรียนเพื่อส่งลูกหลาน การจับจ่ายใช้สอย หรือการติดต่อธุระต่างๆ เป็นต้น

การดำเนินชีวิตเช่นนี้ทุกวันของมนุษย์ยิ่งทำให้ต้องการความสะดวกและรวดเร็วเป็นสำคัญ จนทำให้สภาพร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้ากับการปฏิบัติกิจกรรมเช่นนี้ตลอดสัปดาห์ ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายมักจะแสวงหาความสุขในสุดสัปดาห์ เช่น การออกไปพักผ่อนต่างจังหวัด การไปเที่ยวตามธรรมชาติต่างๆ หรือแม้แต่การนอนพักอยู่ในห้องเฉยๆ เท่านี้ก็จะสามารถช่วยลดความตึงเครียดที่มีให้ผ่อนคลายลงไปบ้างเพื่อชาร์ตแบตให้กับตนเองเพื่อให้พร้อมรับมือกับงานในวันถัดไปอย่างเต็มที่

แต่เนื่องด้วยวันหยุดที่เข้ามาถึงในทุกๆ สัปดาห์นั้น มนุษย์เงินเดือนจะตามหาการพักผ่อนโดยการออกเดินทางไปท่องเที่ยวบ่อยๆ ก็ไม่สามารถทำได้ตลอด เนื่องด้วยระยะทางที่ต้องใช้เวลาการเดินทางออกไปที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน ค่าที่พักที่มีราคาค่อนข้างสูง และการเที่ยวในสถานที่ที่เป็นที่นิยมด้วยแล้วก็มักจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนไม่น้อย ทำให้การออกไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติหรือสถานที่ต่างๆ จะต้องมีการวางแผนทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายกันเป็นอย่างดี แต่จะยกสถานที่ธรรมชาติมาใกล้ก็เป็นไปไม่ได้ จึงมักมองหาธรรมชาติใกล้ตัวที่สามารถทำให้ผ่อนคลายที่สามารถอยู่ภายในที่พักได้ ด้วยสภาพคนเมืองที่มักอาศัยในหอพัก คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์แล้ว จึงมีพื้นที่ในการจัดหรือตกแต่งให้มีสวนขนาดใหญ่ไม่ได้

ดิฉัน (นางสาวกรกต มรรคสมุทร และ นายวสันต์ แสงอินทร์) เป็นผู้ปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับอยู่แล้ว จึงได้มองเห็นโอกาสนี้ ได้ออกแบบและศึกษาลองผิดลองถูกมาหลายครั้งจนพบว่าเราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั่วไปเพียงอย่างเดียว แต่เราเพิ่มใส่ไอเดียและงานปูนเข้าไปผสมผสานเกิดมาเป็นสวนขวดและสวนถาดขนาดเล็กที่สร้างเรื่องราวต่างๆ ปนจิตนาการลงไป ที่สามารถนำมาตกแต่งในที่พัก ซึ่งใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยก็สามารถปลูกเลี้ยงและนำมาประดับตกแต่งที่พักให้ดูสบายตา คลายเครียด สามารถดูดสารพิษ เกิดความผ่อนคลายได้อีกด้วย

*วิธีการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มี *

สร้างสวนถาดพาเพลิน

การลองผิดก็ดี ลองถูกก็ยิ่งดีใหญ่ ดังนั้น จงกล้าที่จะลอง ยิ่งลองก็ยิ่งรู้จริง

จุดเริ่มต้นที่ผู้เขียนเริ่มมาสร้างมูลค่าเพิ่มจากการที่ผู้เขียนปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพียงอย่างเดียว และได้สนใจศึกษาเกี่ยวกับงานปูนปั้นต่างๆ จึงได้ลองศึกษาเกี่ยวกับการทำกระถางด้วยปูนก่อน เพราะส่วนตัวนั้นผู้เขียนชอบงานปูนมาก เนื่องจากลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่แข็งแรงของปูนซีเมนต์ จนผู้เขียนได้ลองทดลองทำตามข้อมูลจากหลายแหล่งจนพบส่วนผสมที่เหมาะสมต่อการผสมปูนซีเมนต์ขาวคือ อัตราปูนต่อน้ำเปล่า 2 : 1 โดยทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง และไม่ต้องนำไปตากแดด แต่ควรทิ้งไว้ในที่ร่มที่อุณหภูมิห้อง

เนื่องจากการนำไปตากแดดนั้นเป็นการเร่งให้เนื้อปูนแห้งเร็ว เนื้อปูนจึงยังไม่เซ็ตตัวดี เมื่อแห้งจะเกิดการแตกร้าวและเปราะง่ายนั้นเอง จากนั้นผู้เขียนได้นำปูนซีเมนต์ขาวมาลองผสมน้ำในอัตรา 2 : 1 และสร้างแบบขึ้นมาจากวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษแข็ง ดินน้ำมัน หรือเศษไม้ต่างๆ เพื่อนำมาทำเป็นกรอบของแบบ หรือการนำดินน้ำมันมาปั้นตามแบบที่เราต้องการ เช่น แผ่นทางเดิน บ้านจิ๋ว เห็ดจิ๋ว ตู้ไปรษณีย์จิ๋ว เป็นต้น

และนำปูนที่ผสมเทลงไปในแบบ รอจนแห้ง แกะแบบออกก็จะได้แบบตามต้องการ ให้นำกระดาษทรายมาขัดเพื่อให้เกิดความเนียนบนพื้นผิวหรือรูปทรงตามต้องการ ซึ่งบางครั้งงานปูนก็ยังสามารถผสมผสานกับงานไม้ได้ด้วยแต่ต้องใช้จินตนาการเข้ามาช่วยจะทำให้นึกภาพออกได้ง่ายขึ้น เช่น การทำตู้ไปรษณีย์ ผู้เขียนจะเลือกใช้ปูนเป็นส่วนของตัวตู้และจะเลือกใช้ไม้จากไม้เสียบลูกชิ้นมาทำเป็นฐาน แล้วใช้ปืนกาวช่วยยึดให้ติดกัน

จากนั้นนำมาลงสีเพื่อให้เกิดความสวยงามและเหมือนจริง โดยเลือกใช้สีอะครีลิก เนื่องจากสีอะครีลิกนั้นเป็นสีที่ทึบแสง แห้งไว และทนทานมาก จึงเหมาะกับงานปูนที่ต้องการความทนทาน จากนั้นพ่นสเปรย์เคลือบเงาหรือแล็กเกอร์เพื่อเพิ่มความทนทานให้วัสดุเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่วนเทคนิคการสร้างทางเดินในสวนที่สำคัญคือ การใส่ทรายลงไปในกระถางให้เต็มก่อน

จากนั้นนำกระดาษแข็งมาทำเป็นแบบเป็นแนวทางเดินโดยใช้ไม้ขนาดเล็กช่วยบังคับเส้นทางบนสวนถาด นำปูนซีเมนต์ขาวโรยตามแนวทางเดินที่ได้ทำไว้จนเต็ม ก็เคาะกับโต๊ะเพื่อให้ปูนเสมอกันตามแบบและนำหินลวดลายต่างๆ มาตกแต่งตามจินตนาการบนเส้นทาง โดยใช้ปากคีบหรือฟอร์เซป คีมหนีบ มาช่วยจัดวางหินได้อย่างตรงตามตำแหน่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นและใช้ปากคีบกดให้หินจมไปครึ่งหนึ่งของตัวหิน

จากนั้นนำน้ำมาฉีดสเปรย์บนทางเดินจนชุ่มจนเห็นว่าน้ำดูดซึม เห็นว่าหินที่จัดวางไว้ได้อย่างชัดเจน จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อครบ 1 วัน แล้วทำการแกะกระดาษแข็งอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันการแตกรอบขอบทางเดิน จากนั้นเททรายที่อยู่ภายในกระถางออกให้หมดจะได้รูปของกระถางที่มาพร้อมทางเดินตรงกลางของกระถาง ที่ผู้เขียนใช้ทรายเนื่องจากประสบการณ์ เมื่อใช้ดินเป็นพื้นและมีการเทปูนลงไปในแบบ ฉีดน้ำ และรอจนปูนแห้งจะได้รูปทรงทางเดินเหมือนกัน

แต่เมื่อนำต้นไม้ปลูกพบว่า ต้นไม้ตายเนื่องจากเศษปูนที่ละลายปนกับดินนั้นเป็นพิษกับต้นไม้ทำให้ต้นไม้ตายจึงปรับเปลี่ยนเป็นการใช้ทรายเพื่อพยุงทำเป็นทางเดินและเมื่อแห้งให้เททรายออกให้หมด จะกลายเป็นทางเดินที่แห้งแข็งไม่ละลาย ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อต้นพืช เมื่อได้ทางเดินที่สมบูรณ์แล้ว จากนั้นใส่กาบมะพร้าวสับลงไปที่ก้นกระถาง ตามด้วยดินและนำไม้ประดับปลูกลงไป ต้นไม้ที่ผู้เขียนเลือกปลูก เช่น ต้นสายรุ้ง, ต้นแพรหยก, ต้นแพรทอง, ต้นริบบิ้นเขียว, ต้นเล็บครุฑด่าง, ต้นริบบิ้นชาลี ซึ่งล้วนแล้วเป็นไม้ขนาดเล็กและเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย นำมาปลูกเลี้ยง จากนั้นนำอุปกรณ์ที่ได้เตรียมไว้มาตกแต่ง เช่น บ้านจิ๋ว, เห็ด, แผ่นทางเดิน มาวางในตำแหน่งที่เหมาะสม แต่งแต้มด้วยจินตนาการด้วยตัวการ์ตูนต่างๆ ก็สามารถเพิ่มเรื่องราวให้สวนถาดได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก จนมาเป็นสวนถาดขนาดจิ๋วที่พร้อมจะมอบความสดใสให้กับผู้เลี้ยงได้ไม่ยากนัก

สวนขวดพาฝัน

จากการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่เดิมคือ ไม้ดอกไม้ประดับที่ชอบแล้ว ผู้เขียนได้ลองสร้างสวนขวดทั้งแบบระบบปิดและระบบเปิด ซึ่งทั้ง 2 ระบบ นี้มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นชนิดของต้นไม้ วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายใน และสถานที่ตำแหน่งการจัดวาง ซึ่งพบว่า ในการจัดสวนตามแบบเปิดนั้นสามารถเลือกพืชทั่วไปที่ต้องการน้ำและความชื้นตามอุณหภูมิห้อง ต้องการน้ำแต่ไม่มากนัก เช่น ตะบองเพชร, สายรุ้ง, บุษบาพารวย, ริบบิ้นชาลี, แพรหยก, แพรทอง, ริบบิ้นเขียว, ริบบิ้นแดง, เกล็ดแก้ว, เล็บครุฑ, มะพร้าวทะเลทราย เป็นต้น ซึ่งก็สามารถเลือกตามความชอบของผู้ปลูก

วิธีการปลูกสวนขวดแบบเปิด มีขั้นตอนดังนี้

เตรียมขวดโหลแก้วที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำหินภูเขาไฟมารองพื้นให้เต็มเพื่อเพิ่มการระบายน้ำไม่ให้เกิดการขังของน้ำในขวดโหล แล้วนำลงค่อยๆ เติมลงไปจนทั่ว จนไม่เห็นหินภูเขาไฟ แล้วทำการเลือกไม้ประดับที่เราต้องการโดยการเลือกไม้ประดับในการจัดสวนขวด ควรมีต้นไม้ตามหลักการจัดสวนคือ ไม้หลัก ไม้รอง และไม้พุ่มหรือไม้คลุมดิน และนำต้นไม้ที่เอาดินออกโดยให้เหลือแต่ต้นกับรากติดมาเท่านั้น จัดวางตามตำแหน่งที่ต้องการปลูกภายในโหลแก้วและนำดินมาเติมโดยค่อยๆ เดิมด้วยการใช้ช้อนจะช่วยให้ดินและต้นไม้อยู่ในตำแหน่งเดิม

เมื่อเติมดินจนเต็มและโคนต้นแน่นสามารถยืนทรงต้นได้แล้วให้ฉีดน้ำ 1 ครั้ง และเติมดินอีกครั้งจนเต็ม จากนั้นนำหินขนาดต่างๆ มาประดับให้เป็นเส้นทางเดิน หรือนำแผ่นทางเดินมาวาง และโรยด้วยหินชนิดต่างๆ เพิ่มเรื่องราวเติมแต่งแล้วแต่จินตนาการที่ชอบ จากนั้นเสริมแต่งด้วยตุ๊กตาหรือสัตว์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสดใสและเรื่องราวที่สมจริงเข้าไปก็ทำให้สวนขวดมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เท่านี้ก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย

*สร้างมูลค่าเพิ่มจากสิ่งที่มี *

สู่การสร้างรายได้ที่มากขึ้น

จากที่กล่าวมานั้น ผู้เขียนมีการเปิดช่องทางการขายหลากช่องทาง เช่น จากการขายงานเกษตรแฟร์ลาดกระบัง งานถนนคนเดินลาดกระบัง งาน Art Street ลาดกระบัง และช่องทางเครือข่ายออนไลน์ทาง facebook (https://web.facebook.com/ไม้ประดับราคาไม่แพง) และทาง Instagram ในชื่อ (gamkorrakot) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเป็นแหล่งแสดงสินค้าและข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย สามารถตรวจสอบการสั่งซื้อของลูกค้า ได้พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง สามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงได้ ซึ่งผู้ปลูกก็จะเข้ามาตอบข้อซักถามรายละเอียดต่างๆ

แต่เนื่องด้วยสวนขวดและสวนถาดนั้นมีความบอบบางมาก และเสียหายง่ายจากการกระทบกระเทือนจึงไม่เหมาะต่อการส่งผ่านทางไปรษณีย์ เหมาะกับการขายผ่านทางหน้าร้านเพราะลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุตกแต่งตามที่ต้องการได้ ถึงแม้จะไม่เหมาะกับการส่งทางไปรษณีย์ แต่ผู้เขียนพบว่าสามารถสร้างมูลค่าจากการขายเดิมจะขายไม้ประดับกระถางละ 20-30 บาท แต่เมื่อนำมาตกแต่งงานปูน และใส่ต้นไม้ลงไปจะขายในราคากระถางละ 100-200 บาท ถือว่าสามารถเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยการไม่หยุดคิด ไม่หยุดพัฒนานั้นเอง

ข้อคิดสำหรับเกษตรกรนักพัฒนา

การที่สังคมทุกวันนี้มีความเจริญเติบโตมากขึ้น ก็เป็นเพราะมีคนขยัน มีคนพัฒนาตนเองตลอดเวลา ทำให้ประเทศชาติเดินทางไปได้ สังคมเดินหน้า และการที่เรานั้นมีทรัพยากรที่ดีอยู่ในมือ มีความพร้อมนั้นเป็นเรื่องดี แต่หากเราไม่หยุดพัฒนาทรัพยากรของเราเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งตัวเองเอง ชุมชน และประเทศชาติก็จะพัฒนาไปพร้อมๆ กัน อยู่ที่ว่าเราจะมาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศไหม เราจะอยู่อย่างเท่าทันสถานการณ์ เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมของข้อมูลความรู้ที่สามารถค้นหาได้เพียงปลายนิ้ว เพียงแค่เราจับเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์และลงมือทำเท่านั้น สิ่งที่คิดหรือความฝันก็กลายเป็นจริงได้ “เพียงแค่ลงมือทำและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง”

ทั้งนี้ ผู้เขียนหวังว่าบทความเรื่อง เพียงทำในสิ่งที่ชอบสู่การสร้างชีวิตที่มีเป้าหมาย ตอน สวนขวดและสวนถาดพาเพลิน นั้นจะเกิดประโยชน์สำหรับผู้อ่านไม่มากก็น้อย และหากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...