ปกติเราอาจจะเห็นบ้านบางบ้านที่เขาวางขวดน้ำที่ใส่น้ำไว้เต็มเรียงไว้หน้าบ้านเยอะ ๆ ใช่ไหมครับ บางครั้งก็อาจจะสงสัยว่าเขาวางเอาไว้ทำไม ซึ่งสมัยเด็กผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาวางเอาไว้ทำอะไร หรือว่าเขาใจดี ตั้งใจเอาน้ำใส่ขวดวางไว้เผื่อคนหิวน้ำงั้นเหรอ ?
จนมาได้คำตอบว่า ที่เขาวางขวดน้ำไว้หน้าบ้านไม่ใช่เพื่อให้คนอย่างแกเอาไปดื่มนะ แต่เขาวางเพื่อป้องกันไม่ให้หมาแมวเข้าบ้าน เข้ามาฉี่มาอึอะไรในบ้านประมาณนี้ ซึ่งก็เคยได้ยินมาหลายทฤษฎีบ้างก็บอกว่าหมาแมวมันจะกลัวขวดน้ำพวกนี้ เพราะขวดน้ำจะสะท้อนหน้าของตัวมันเอง
พอเห็นตัวเองเยอะ ๆ มันก็จะกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ทำกันแต่ในบ้านเรานะครับ จากข้อมูลคือเขาใช้วิธีนี้กันทั่วโลกเลย ไทย ญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ ก็ใช้วิธีนี้กันอย่างแพร่หลาย ว่าแต่ว่าเจ้าเทคนิคการวางขวดน้ำเรียงเอาไว้หน้าบ้านนี้ มันมีที่มาจากไหนกันนะ ?
มีทั้งข่าวและบทความ รวมทั้งรายการทีวีจากประเทศญี่ปุ่น พยายามตีแผ่เรื่องการวางขวดน้ำไว้หน้าบ้านเพื่อไล่แมวอย่างจริงจังครับ คือบ้านเราหลัก ๆ จะเอาไว้ไล่น้องหมามากกว่า แต่ที่ญี่ปุ่นเขาไม่มีสุนัขจรจัด (ถูกจับไปหมด) ก็จะเหลือแต่น้องแมว ดังนั้นการตั้งขวดน้ำไว้หน้าบ้านของคนญี่ปุ่นก็มีไว้เพื่อไล่น้องแมวนั่นเองครับ
ตอนนี้เราก็ยังเห็นบ้านญี่ปุ่นที่ยังวางขวดน้ำเอาไว้หน้าบ้านหรือตามระเบียงบ้านอยู่ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่รอบนอก เพราะมีแมวจรจัดค่อนข้างเยอะ ซึ่งเคยมีรายการทีวีที่เขาพยายามทำการทดลองว่าแมวนั้นกลัวขวดน้ำนี้จริง ๆ รึเปล่า ? หรือว่าคนเราคิดไปเองว่ามันกลัว การทดลองนั้นก็คือการนำแมวไปปล่อยให้เดินตรงขวดน้ำที่วางเรียงไว้ ผลก็คือน้องแมวนอกจากไม่กลัวแล้วยังนอนเล่นกลิ้งเกลือกสบายใจซะอีก
เรื่องที่น่าตกใจก็คือเขาบอกว่าเรื่องขวดน้ำที่ตั้งไว้หน้าบ้านเพื่อกันหมาแมวเนี่ย จริง ๆ มันเป็นแค่เรื่องโกหกใน วันแห่งการโกหกหรือ April fool เท่านั้น แต่มันกลายเป็นสิ่งที่แพร่กระจายออกไปทั่วโลก ถือเป็นการโกหกครั้งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีคนเชื่อมันอยู่ในปัจจุบัน !
เมื่อลองเจาะลึกลงไปดูข้อมูลที่มาที่ไป เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดจากนาย Eion Scarrow ชาวสวนและนักเขียนคนดังของนิวซีแลนด์ ที่พูดเอาไว้ในรายการวิทยุครับ (บางข้อมูลบอกว่าเป็นรายการโทรทัศน์) ซึ่งออกอากาศในวันที่ 1 เมษา เมื่อราว ๆ 30 ปีก่อน (ประมาณช่วงปี 1980) โดยเขาเล่นมุก April fool ออกวิทยุในวันนั้นว่า "ถ้าพวกเอ็งเอาขวดน้ำใส่น้ำให้เต็มมาตั้งไว้ในสนามหญ้า พวกหมามันจะไม่มาขี้ใส่สนามนะ ไม่เชื่อพวกเอ็งก็ลองดูสิ !"
ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ Eion Scarrow เขามีชื่อเสียงมากในฐานะของนักเขียนแนวเกษตรครับ ปรากฏว่าชาวนิวซีแลนซ์พอได้ยินนักเขียนคนดังแนะนำแบบนี้ เขาก็รีบออกไปคว้าขวดน้ำมาใส่น้ำตั้งไว้ในสวนกันใหญ่ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแพร่หลายไปทั่วประเทศนิวซีแลนด์
แม้นาย Eion Scarrow จะออกมายอมรับในรายการทีหลังแล้วว่าที่เขาพูดไปนั่น เขาแค่เล่นมุกโกหกวัน April fool เพื่อแกล้งผู้ฟังเฉย ๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจการออกมายอมรับของเขาซะอย่างนั้น เพราะชาวบ้านปักใจเชื่อไปแล้วว่ามันได้ผล
ในตอนนั้นสิ่งที่ฝรั่งเขาทำยังไม่ใช่การวางขวดน้ำเรียงไว้เป็นตับแบบในบ้านเราตอนนี้นะครับ แต่เป็นการนำขวดน้ำที่ใส่น้ำจนเต็มไปโยน ๆ ไว้ในสนามหญ้าแค่ขวดสองขวดเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันได้ผลจริง ๆ หรือว่าอุปทานหมู่กันแน่ แต่มันถูกร่ำลือกันไปแบบปากต่อปากในยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต จนทุกคนในนิวซีแลนด์รู้จักทริกนี้ แถมมันไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศนิวซีแลนด์ แต่มันถูกเขียนลงในหนังสือพิมพ์ของรัฐซานดิเอโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1986 ว่า “ขวดน้ำสามารถกันสุนัขไม่ให้เข้ามาในสนามหญ้าได้”ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ระบาดไปยิ่งกว่าไวรัส ทั้งแคนาดา ยุโรป รวมถึงประเทศในแถบเอเชียอย่างเช่นอินเดียและญี่ปุ่น
แต่หลังจากนั้น เรื่องของการวางขวดน้ำไว้กันสุนัขในประเทศต้นเรื่องอย่างนิวซีแลนด์ กลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกลืมและจางหายไปตามกาลเวลา อาจจะเพราะว่าเอาไปใช้จริงแล้วไม่ได้ผล หรือข่าวที่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโกหกได้ถูกแพร่กระจายออกไปในประเทศ ทำให้ในราว ๆ ปี 1990 นั้น เขาพบว่าไม่มีใครในนิวซีแลนด์ที่วางขวดน้ำไว้กลางสนามหญ้าอีกต่อไปแล้ว
แม้คนนิวซีแลนด์จะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่แพร่หลายในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นไปแทนครับ เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงเชื่อเรื่องของของการวางขวดน้ำเพื่อกันหมาแมวสืบต่อกันมาตั้งแต่กว่า 30 ปีก่อนแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นช่วงที่เรื่องโกหกของนาย Eion Scarrow แพร่กระจายไปทั่วโลกและได้เข้ามาในญี่ปุ่นยุคนั้นนั่นแหละ
คนในยุคนั้นก็ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ค้นคว้าข้อมูล ดังนั้นเรื่องของการวางขวดน้ำนี้มันจึงเข้ามาในญี่ปุ่นในฐานะของ “ภูมิปัญญาชาวบ้าน” สืบต่อกันมาจนปัจจุบัน และจากเดิมที่มีการวางขวดน้ำแค่ขวดสองขวดเอาไว้ในสนามหญ้า ก็พัฒนาเปลี่ยนแปลงมาเป็นการนำขวดน้ำหลายๆขวด นำมาวางเรียงเอาไว้หน้าบ้านไปแทน ซึ่งไทยเราก็คงรับเอาภูมิปัญญาชาวบ้านแบบนี้ต่อมาด้วย เพราะมีลักษณะเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นทำเลย
จริง ๆ แล้วนักวิชาการญี่ปุ่นเขาบอกว่าวิธีนี้นอกจากมันไม่ได้ผลอะไรใด ๆ แล้ว มันยังเป็นอันตรายอีกด้วย อย่างแรกเลยก็คือขวดน้ำมันอาจจะกลิ้งออกไปบนถนน (ถ้าบ้านอยู่ริมถนน) จนอาจจะเกิดอันตรายถ้าคนเดินมาเหยียบหรือรถมาทับ และเรื่องที่คนอาจจะคิดไม่ถึงก็คือ การที่ขวดใสใส่น้ำถูกวางเอาไว้หน้าบ้านเยอะ ๆ แบบนั้นอาจจะทำให้เกิดการรวมแสง ทำให้เกิดความร้อนและอาจนำมาซึ่งไฟไหม้ได้ ดังนั้นคนญี่ปุ่นเขาก็พยายามรณรงค์ไม่ให้คนวางขวดน้ำเอาไว้หน้าบ้าน แต่ก็ยังมีคนญี่ปุ่นที่ยังคงเชื่อเรื่องนี้ว่าได้ผล และทำการวางขวดน้ำเอาไว้หน้าบ้านต่อไป
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างการโกหกจากคนแค่คนเดียวที่มีเจตนาเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น จะกลับกลายเป็นเรื่องเป็นราวไปทั่วโลกและยังคงมีคนเชื่อมาจนถึงในปัจจุบันได้ และแม้ Eion Scarrow จะเสียชีวิตไปแล้วในปี 2013
แต่คำโกหกในครั้งนั้นของเขาจะยังคงอยู่ต่อไป ที่หน้าบ้านของใครหลาย ๆ คนในตอนนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก: petomorrow.jp , stuff.co.nz Gardening-guru-Eion-Scarrow-passes-away
, number8network.co.nz
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook :Eak SummerSnow
Youtube : Eak SummerSnow
ความเห็น 24
Siwabhat Pao
กันหมามาจอดรถหน้าบ้านได้ผลดี
09 พ.ค. 2563 เวลา 03.41 น.
ซ้ง แอดมิน อินโฟ เทค
ผมทำอยู่ ได้ผลดี แต่เหตุผลไม่ได้ให้มันกลัว แค่มันไม่ฉี่บริเวณนั้น
09 พ.ค. 2563 เวลา 02.38 น.
joe55
เมืองไทยเอาขวดน้ำวางที่ถนนหน้าบ้านกันคนเอารถมาจอดหน้าบ้านได้ เห็นผลจริงๆ
09 พ.ค. 2563 เวลา 03.32 น.
หมู
เรื่องโกหกรึป่าวไม่รู้นะ แต่ทำแล้วมันได้ผลดีที่บ้านก็เลยทำตลอดมาและจะทำตลอดไป
09 พ.ค. 2563 เวลา 03.19 น.
ณัถฐพงศ์ 5555
ไม่ใช่เรื่องโกหก เพราะมันจะทำให้แมวเข้าไปถึงที่มันทำอาณาเขตไว้ด้วยการฉี่ไม่ได้ มันก็จะเลิกไป ไม่ใช่เพราะมันกลัวเงาตัวมันเอง
09 พ.ค. 2563 เวลา 03.18 น.
ดูทั้งหมด