คิดก่อนกู้! หนี้นอกระบบไม่จ่ายคือตาย หนี้ในระบบไม่จ่ายคือล้มละลาย

คิดก่อนกู้ !  หนี้นอกระบบไม่จ่ายคือตาย หนี้ในระบบไม่จ่ายคือล้มละลาย

ลูกหนี้โอด ขว้างหนี้ไม่พ้นคอ พอลองกู้แบงค์ก็ไม่ผ่านให้ พอไปกู้นายทุนก็ลุ้นให้ชีวิตอยู่รอด  วอนภาครัฐช่วยขยายวงเงินสินเชื่อและผ่อนปรนคุณสมบัติผู้กู้  อยากมีบ้านอยู่ มีรถขับ ไปเที่ยวเกาหลีสักครั้งก่อนตาย

ให้กู้ก็บุญแล้ว !!  เสียงจากความต่ำต้อยในใจของลูกหนี้ผู้สุดซึ้งกับน้ำใจของผู้ให้กู้  แต่เมื่อเงินตึงมือหมุนไม่ทัน ความหมางเมินในใจจึงบังเกิด มิตรไมตรีที่ราบรื่น กลายเป็นสองฝ่ายไม่คิดเผาผี 

“น้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาขอเงินเลย” นายทุนนอกระบบเองก็โอดโอยเมื่อลูกหนี้ทิ้งการชำระเงิน แล้วอ้างว่าดอกเบี้ยแพง แม้เคยเห็นดีเห็นงามและรับได้เงื่อนไข เมื่อทวงไม่ได้นายทุนจึงวานชายชุดดำในหมวกกันน็อคใบใหญ่ ขี่มอเตอร์ไซค์คันโตไปแวะเวียนหา อาจมีลงไม้ลงมือกันพอหอมปากหอมคอ  ท้ายที่สุดเมื่อเรื่องถึงมือตำรวจ ก็จะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง  ข้อหายอดนิยม ได้แก่ คิดดอกเบี้ยเกินขั้นสูงสุดที่กฎหมายกำหนด คือ 15% ต่อปี นายทุนกลุ่มนี้ เป็นนายทุนที่มีความเสี่ยงต่อการโดนเบี้ยวหนี้สูง เนื่องจากลูกหนี้ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน เรียกว่า “นายทุนหมวกกันน็อค” จากการสอบถามยังพ่อค้าแม่ขาย ดอกเบี้ยชนิดทบต้นทบดอกแพงที่สุดในพื้นที่ อาจสูงถึง 10 % ต่อวัน เน้นว่า ต่อวัน!!  

โหดน้อยลงมาหน่อย เป็น “นายทุนใจดี” ให้เงินมาหมุนใช้ในการค้าขาย  โดยนายทุนประเภทนี้ ใช้หลักทรัพย์ของลูกหนี้ เช่น รถและที่ดิน ในการจดสัญญาจำนองหรือขายฝาก ซึ่งส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3% ต่อเดือน [ 36% ต่อปี ] ฟังดูคล้ายจะแพงแต่ได้เงินเร็ว เอกสารไม่ยุ่งยาก ถ้าติดขัดใช้เจรจาพูดคุย คุกเข่าขอร้อง เอาลูกเต้ามาช่วยบีบน้ำตาผ่อนผัน 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา รัฐบาลลุงตู่ มองเห็นความสำคัญในการที่ลูกหนี้มักจะถูกนายทุนยึดสินทรัพย์ และได้รับความไม่เป็นธรรมในเรื่องของดอกเบี้ย จึงลงดาบนายทุนในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสาน ผู้กู้มักเป็นเกษตรกรซึ่งไม่มีความรู้  กระนั้นก็ยังมีผู้ประสงค์กู้เงินนอกระบบเป็นจำนวนมาก เพราะเนื่องจากขอเงินง่ายกว่าธนาคาร อีกทั้งยังเจรจาผ่อนจ่ายได้หลายรูปแบบกว่า แถมแหล่งเงินทุนในระบบก็มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ดังนั้นการจัดการของภาครัฐที่เชือดไก่ให้ลิงดูนั้น เกรงว่า ลิงเหล่านี้จะไม่เข็ด และยังอยากยืมเงินไก่อยู่ดี

เงินกู้ในระบบ ประเภทสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร แม้ว่ามีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเงินกู้นอกระบบมาก กระนั้น หากนำสัญญาเงินกู้เหล่านี้มาพิเคราะห์ก็จะพบว่า มีหลายข้อที่ผู้กู้ถูกเอาเปรียบอยู่ไม่น้อย 

เมื่อมี "การผิดนัดชำระ" หากค้างเกิน  90 วัน ชื่อของเราจะถูก"เครดิตบูโร" ตราหน้าว่าไม่สามารถไปทำธุรกรรมทางการกู้ได้อีก 3 ปีเต็ม ดอกเบี้ยผิดนัดชำระจะถูกนำมาใช้แทนดอกเบี้ยประหยัด อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระนั้นสูงมากเกือบเท่ากับเงินกู้นอกระบบ แต่มีการพลิกแพลงวลีหรือคำในสัญญา เพื่อให้สัญญาเงินกู้ไม่เป็นโมฆะ ซึ่งกฎหมายในประเทศไทยมีความเอื้อประโยชน์ต่อธนาคารพาณิชย์มากกว่าผู้กู้  ทั้งนี้เมื่อเดือน กันยายน 2560 เป็นต้นมา ธนาคารไม่ต้องใช้ รายงานศาลขออนุญาตขาย เพื่อทำการขายสินทรัพย์ของเรา ทอดตลาด !!   

ทุนในระบบ ต่อรองด้วยยากเมื่อผิดนัดชำระ ในขณะที่นายทุนนอกระบบพร้อมเจรจากับลูกหนี้มากกว่า !

ประชาชนทั่วไป ไม่มีความรู้ในหน้าสัญญาที่กู้กับธนาคาร หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่สนใจ เพราะเชื่อว่าธนาคารคือผู้มีบุญคุณให้กู้ได้ ในวันที่ทราบว่ากู้ผ่านแทบจะปิดหมู่บ้านเลี้ยงฉลอง แต่หากเอาสัญญามาไต่สวนก่อนจะพบว่า ธนาคารก็มีส่วนที่ได้เปรียบเราอยู่ไม่น้อย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด ดังคำกล่าวที่ว่า “ตอนซื้อเป็นคนวีไอพีพอผิดนัดหนี้กลายเป็นอาชญากร”  

การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ  เป็นคำพังเพยที่ใครไม่เป็นหนี้ จะไม่สัมผัสถึงความเที่ยงแท้ของมัน ประโยคนี้มันอาจทำให้ใครบางคนน้ำตาไหลได้เองเมื่อนึกถึงช่วงเวลาเหนื่อยหน่ายเวียนว่ายในวงจรการผ่อนชำระ  ทุกหยาดเหงื่อที่เสียไป ชโลมดอกไม้ที่ชื่อว่า “เบี้ย” อยู่ถึงครึ่งหยด  

หากเราจดเงินที่เราใช้จ่ายด้วยก้อนหนี้ที่กู้มา อาจจะพบว่า เป็นการใช้ที่ไม่เกิดประโยชน์หรือทำให้เงินในบัญชีของเรางอกเงยเลยสักนิด รถยนต์ที่เราตาลุกเพราะส่วนลดหย่อนทางภาษี  จักรยานราคาแพงที่เราต้องมีไว้แขวนผนัง เครื่องออกกำลังกายที่แขวนผ้าเช็ดตัวในตอนนี้ ประสบการณ์ในโลกกว้างที่ได้ท่องเที่ยวไป  ล้วนแล้วแต่มีคุณค่าทางจิตใจ แต่เป็นพิษทางการใช้ชีวิตที่เหลือ  

ทางเลือกที่ดีเพื่อให้ได้เหนื่อยน้อยกว่า คือคัดกรองสิ่งซึ่งเราร้องหา คุยกับตัวเองให้มากว่าเราต้องการสิ่งนั้นอย่างแท้จริง แบบถูกที่ ถูกเวลา เพราะแต่ละวันที่เสียไปกับการทำงาน เราวางรากฐานทางการเงินให้เจ้าหนี้ได้แข็งแกร่งขึ้น แต่เป็นตัวเราเองที่อ่อนแอลง  

สินทรัพย์ที่กู้เงินไขว่คว้ามานั้น จะถูกส่งต่อไปยังลูกหลาน แน่นอนว่า มันย่อมแลกมาด้วยความเหนื่อยยาก  อุตสาหะ และพละกำลัง กระนั้นมันคงเลอค่ายิ่งขึ้นไปเมื่อผู้ได้รับ ได้ซึมซับรอยยิ้มพิมพ์ใจจากผู้ให้ยื่นมอบมาคู่กัน  แต่วินาทีนี้ เราอาจยิ้มไม่ออก หากมีสถานะทางการเงินว่า อาจเป็นบุคคลที่พร้อมจะล้มละลาย.. ได้ทุกเมื่อ