ยึดทรัพย์ ‘เจ๊หลิน’ 28 ล้าน ขนยาบ้า ผุดโครงการกีฬาต้านยาเสพติด แต่มาค้าซะเอง
บุก ยึดทรัพย์ ‘เจ๊หลิน’ ค้ายาบ้า ล้านกว่าเม็ด ซุกในรถหรู สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในหมู่บ้าน ผุดโครงการกีฬาต้านยาเสพติด แต่สุดท้าย มาโดนจับซะเอง
ยึดทรัพย์ / เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธนรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.แพร่ เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 138 บ้านกู่แดง หมู่ 6 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.กัลยกร หรือเจ๊หลิน สิริภัทรสมบูรณ์ อายุ 34 ปี นักธุรกิจสาว อยู่บ้านเลขที่ 99/4 หมู่ที่ 5 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ที่ถูกตำรวจ สภ.ห้วยไร่ จ.แพร่ จับกุมได้พร้อมยาบ้า รวม 1,642,766 เม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัม ขณะที่กำลังขับรถตู้ ยี่ห้อฮุนได รุ่น เอชวัน สีดำ ทะเบียน นง8889 เชียงใหม่ ขนยาเสพติดผ่านจุดตรวจห้วยไร่
จากการตรวจค้นพบ เงินสด 6,000 บาท, เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 นัด พร้อมซองบรรจุกระสุน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง จึงนำมาขยายผล ยึดทรัพย์บ้านหลังดังกล่าว สนามฟุตบอล 2 สนามที่อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และบ้านอีก 2 หลัง โดยบ้านที่แถลงข่าวเป็นบ้านที่ใช้บรรจุหีบห่อยาเสพติดก่อนถูกจับกุม
พล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ สอบปากคำ นางน.ส.กัลยกร ที่ถูกคุมตัวมาไว้ที่บ้าน จากนั้นแถลงข่าวการจับกุม สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจห้วยไร่ จังหวัดแพร่ ตั้งด่านสกัดสิ่งผิดกฎหมาย
จนกระทั่งมีรถตู้ ยี่ห้อฮุนไดสีดำ หมายเลขทะเบียน นง8889 เชียงใหม่ ซึ่งมาจากทางอำเภอเด่นชัย มุ่งหน้าจะไปจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อขอตรวจค้น
เนื่องจากน.ส.กัลยกร ซึ่งเป็นคนขับรถมีท่าทางพิรุธ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสังเกตเห็นกระสอบวางอยู่บริเวณเบาะด้านหลัง จึงขอตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะ
ผลการตรวจค้นพบกระสอบ จำนวน 6 กระสอบ และกระเป๋าพลาสติกใส่ของจำนวน 3 กระสอบ วางอยู่บนเบาะโดยสาร เมื่อแกะออกดูพบเป็นยาเสพติด (ยาบ้าและไอซ์) รวมทั้งสิ้น 9 กระสอบ
จากการตรวจนับพบมียาบ้าจำนวนประมาณ 1,642,766 เม็ด และไอซ์ จำนวน 10 ห่อ น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรห้วยไร่ สอบสวนขยายผล
พล.ต.ต.ธนรัชต์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ทางน.ส.กัลยากร ขับรถมาคนเดียวในสภาพเมาสิ่งเสพติด และเมื่อเจอตำรวจแสดงพิรุธโดยเสนอเงินให้จำนวนหนึ่ง จึงเป็นที่น่าสงสัยทางตำรวจจึงตรวจค้นรถจนพบยาเสพติดจำนวนมาก
น.ส.กัลยากร รับสารภาพว่า ขนมาหลายครั้ง โดยจะทำงานเพียงคนเดียวมาตลอด นอกจากนี้ ทางตำรวจยังสอบสวนพบว่าน.ส.กัลยากร นำเงินที่ขายยาเสพติดไปซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซื้อสนามฟุตบอลจำนวน 2 สนาม ไว้ที่อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยลูกชายชอบเล่นฟุตบอล จึงทำโครงการต้านยาเสพติด ขึ้นมา
ด้าน ลูกชาย 2 คน ของน.ส.กัลยกร ที่ยังอยูที่ภายในบ้านที่ถูกยึดเพียงลำพัง ทางพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รออง ผบช.ภ.5 จัดส่งนักจิตวิทยาเข้ามาทำความเข้าใจให้กับเด็กทั้ง 2 โดยมีเพื่อนบ้านคอยดูแลให้ เพราะสงสารที่ต้องอยู่กันตามลำพัง ในช่วงนี้ทางตำรวจจะดูแลในด้านสภาพจิตใจก่อน
สำหรับการยึดทรัพย์ มีที่ดินของน.ส.กัลยกร คือบ้านเลขที่ 138 หมู่ 6 บ้านกู่แดง ตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหา พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้นขนาดใหญ่ปลูกบนที่ดินประมาณ 1 ไร่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดประกอบด้วย บ้านอีกหลังในหมู่บ้านใกล้เคียง 1 หลัง อาคารชุดในเมืองเชียงใหม่ และกิจการสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด ที่ดินเปล่าในพื้นที่อำเภอสารภี 2 แปลง โฉนดที่ดิน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 5 ไร่ รถยนต์ 4 คัน รวมมูลค่า 28 ล้านบาท มาตรวจสอบ เพื่อหาที่มาที่ไปของทรัพย์สินทั้งหมด