โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

เที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน

บันทึกคนขี้เที่ยว

เผยแพร่ 09 ก.ย เวลา 18.56 น.

เที่ยวฮ่องกงยังไงในงบสบายกระเป๋า

กับแอร์เอเชีย คุ้มเร็วดี สตอรี่

ครบเครื่องตรงโจทย์การเที่ยวทุกสาย ไม่ว่าจะกิน ช้อป มู

ใช้วันลาเดียวที่มีอย่างคุ้มค่าด้วยการแพ็กกระเป๋า

โคฟเป็นคุณหนูแสนสวย กับนายบอดี้การ์ดสุดเท่

ที่หลุดมาจากหนังฮ่องกง ออกไปวิ่งสู้ฟัด!!

สนองทุกความอยากให้ครบทั้งมู กิน ชอป

ตะลุยร้านอาหารเก่าแก่ในตำนาน สตรีทฟู้ดดีกรีมิชลิน

ชอปฉ่ำ ๆ กับสินค้าแบรนด์ดังที่ลดแล้วลดอีกจนตาวาว

และเสริมความเฮงใน 3 วัดชื่อดังที่หลายคนไหว้แล้ว

กลับมาเล่ามาการันตีความปัง เราเลยจัดให้ครบทุกด้าน

ตั้งแต่เรื่องโชคลาภ ความรัก และเงินทอง

คุ้มสุด ๆ กับการเดินทางตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเราบินตรงจากกรุงเทพสู่ฮ่องกงด้วยสายการบิน AirAsia สายการบินราคาประหยัดคู่บุญที่พาเราเที่ยวเป็นร้อยทริป ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และดีลปัง ๆ ในแคมเปญ Summer Chill Hong Kong มอบส่วนลด กิน ชอป เที่ยว ถึง 500 HKD ตั้งแต่วันนี้ - 15 กันยายน 67 หรือจนกว่าคูปองจะหมด อยากรู้ต้องทำยังไง.. ก็กดเข้ามาดูกันได้เลย

𝐁𝐮𝐝𝐠𝐞𝐭 𝟑 𝐃𝐚𝐲𝐬 𝟐 𝐍𝐢𝐠𝐡𝐭𝐬

เดินทาง 2 คน งบประมาณ 7,650 บาท/คน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)

-ที่พัก 𝐑𝐚𝐦𝐚𝐝𝐚 𝐇𝐨𝐧𝐠 𝐊𝐨𝐧𝐠 𝐆𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐕𝐢𝐞𝐰 2 คืน : 4,100 บาท **

-ค่าอาหารและจิปาถะ : คนละ 4,500 บาท***

-ค่าเดินทาง Airport Express ไป-กลับ : คนละ 450 บาท (ใช้โค้ดจาก Summer Chill Hong Kong 1 แถม 1 )

-ค่าเดินทาง : คนละ 650 บาท (ใช้ Octopus )

……………………….

**ราคาที่พักหาร 2 และอาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

*** ค่าอาหาร เครื่องดื่ม จิปาถะ ขึ้นอยู่กับงบประมาณส่วนบุคคล

แน่นอนว่าถ้ารูทไหนมี AirAsia รูทนั้นจะต้องมีเราเดินทางไปด้วยเสมอ เป็นสายการบินที่เรามูฟออนไปไหนไม่ได้เลย อย่างฮ่องกงครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะนอกจากมอบราคาอันดีงามแล้ว เขายังมีมาตรฐานการบินที่ตรงเวลาไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยทำให้แพลนเสีย ยิ่งกดเลือกแพ็กสุดคุ้มที่มีให้ทั้งน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม อาหารอุ่นร้อนพร้อมเมนูที่เปลี่ยนไปตามซีซันไม่เคยเบื่อ เลือกที่นั่งมุมโปรดได้ชิล ๆ เรียกว่าเป็นการเดินทางที่ complete ประหนึ่ง full service เลยทีเดียว

ลงเครื่องปุ๊บ สิ่งแรกที่เราทำหลังรับประเป๋าคือดิ่งไปรับคูปอง Summer Chill Hong Kong ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้

เตรียมหลักฐานการรับคูปอง

(1) พาสปอร์ต

(2) ใบจองโรงแรม ตั้งแต่ 1 คืนขึ้นไป หรือ ตั๋วไป-กลับ เครื่องบิน/รถไฟ/บัส/เรือเฟอร์รี่ (ต้องเป็นฉบับจริง ทั้งแบบ printout หรือ e-version ในมือถือ อีเมล์ หรือ แอป, ส่วนการแคปหน้าจอ ไม่สามารถใช้ได้)

(3) เบอร์โทร ที่ไม่ใช่เบอร์ฮ่องกง (พกซิมการ์ดไปด้วย เผื่อต้องใช้ลงทะเบียน)

จุดรับคูปอง

(1) เมื่อเช็กอินโรงแรมที่เข้าร่วมกว่า 200 แห่ง (รายชื่อโรงแรม) https://www.discoverhongkong.com/…/hotel-list-entc.pdf

หรือ

(2) เคาน์เตอร์ของการท่องเที่ยวฮ่องกง

- สนามบินฮ่องกง: Service Counter A03

Arrivals Hall, Terminal 1 (08.00-21.00 น.)

- สถานี West Kowloon, GFM level (09.00-18.00 น.)

- ห้าง Harbour City: Level 3, Ocean terminal

(ใกล้ Shop OT313)(10.00-20.00 น.)

- (เริ่ม 15 กค 67) ห้าง Times Square, 2/F Atrium (10.00-20.00 น.)

รายละเอียดคูปองเพิ่มเติม :

https://www.discoverhongkong.com/eng/deals/summer-triple-rewards/list.html#sightseeing

เรื่องการเดินทางในฮ่องกงเรียกว่าง่ายดายแบบไร้กังวล เขามีระบบคมนาคมให้เราหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นMRT, รถราง, รถบัส โดยใช้แค่บัตรออคโตพุส (Octopus Card) ใบเดียวในการแตะจ่าย แถมบัตรนี้ยังใช้จ่ายตามร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ค่าเข้าสถานที่ที่ร่วมรายการได้ด้วย เอาจริง ๆ ก็ครอบคลุมแทบทุกที่ที่เราไปเที่ยวเลยล่ะ แถมยังเติมเงินง่าย ๆ ตามสถานีรถไฟใต้ดิน และ 7-11 โดยมีขั้นต่ำอยู่ที่ 50 HKD

.

เราเลือกเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินด้วยรถไฟAirport Express (AE) ซึ่งถือเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ตรงยาวสู่ใจกลางเกาะฮ่องกงในเวลาเพียง25 นาทีเท่านั้น เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดินใหญ่ ๆ ทั้งTsing Yi Station, Kowloon Station และHong Kong Station แถมยังเข้าร่วมแคมเปญSummer Chill Hong Kong ด้วย จึงได้มาในราคาซื้อ1 แถม1 คุ้มตั้งแต่ยังไม่เริ่มเที่ยวเลย!!

𝐃𝐚𝐲 𝟏
𝟎𝟎𝟏 𝐌+
พิกัดสำหรับหนุ่มเท่สาวเก๋‘M+’ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่กลายเป็นอีกหนึ่งPhotogenic spot กับการออกแบบตึกและตกแต่งภายในที่เรียกอินเนอร์ความเป็นตากล้องของเราออกมาได้อย่างท่วมท้น แถมยังเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกออกแบบให้เป็นอักษรตัวT กลับหัว กินพื้นที่กว่า17,000 ตร.ม. ภายในมีแกลลอรีมากถึง33 ห้อง โรงหนัง3 โรง เป็นเวทีโชว์ผลงานระดับโลกที่เหล่าศิลปินอยากหอบหิ้วจินตนาการอันไร้ขอบเขตมาจัดแสดงเลยก็ว่าได้
⏰ เปิดอังคาร - อาทิตย์ 10:00 - 18:00 น. (ปิดวันจันทร์)
📍https://maps.app.goo.gl/Lyat2BQ2jUAfFSTo7

พิพิธภัณฑ์จะมีค่าเข้าอยู่ที่ 120 HKD พาเราไปพบเจอกับงานอาร์ตร่วมสมัยในสถาปัตยกรรมสุดล้ำ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่อยากหาแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่ถ้าใครแค่อยากถ่ายรูปเล่น เราแนะนำให้ขึ้นไปที่ Sky Garden สวนบนชั้นดาดฟ้าที่มีพุ่มดอกไม้ตัดแต่งงดงาม ทางเดินคดโค้งให้ได้เดินควงแขนกับแฟน พร้อมเทควิวทะเลและป่าคอนกรีตอันแสนเจริญหูเจริญตา พร้อมภูเขาลูกใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง เป็นภาพเมืองซิวิไลซ์คู่กับธรรมชาติที่มองไม่เบื่อเลยจริง ๆ

และที่พลาดไม่ได้คือแวะชอปที่M+shop เลือกซื้อของดีไซน์แสนคิวต์จากเหล่าศิลปินที่เคยแสดงผลงานที่นี่ เหมาะทั้งใช้เองหรือซื้อเป็นของฝากสุดยูนีค ใครมีเพื่อนสายแฟชั่น สายออกแบบ บอกเลยว่าพวกนางใจเหลวกับของในนี้แน่นอน ที่สำคัญยิ่งซื้อยิ่งคุ้มเพราะเขามีคูปองส่วนลด 100 HKD (เมื่อซื้อครบ200 HKD) จากแคมเปญ Summer Chill Hong Kong ด้วยนะ

𝟎𝟎𝟐 𝐏𝐎𝐏 𝐌𝐀𝐑𝐓

พิกัดนี้ขอสนองneed ตัวเองหน่อยด้วยการพุ่งตัวมายังสวรรค์นักจุ่มPOP MART Art Toy Store แหล่งรวมคาแรกเตอร์ตัวโปรด ซึ่งเรามาจอดอยู่ที่สาขาTsim Sha Tsui, Harbour City ตื่นเต้นกับความวิบวับของหน้าร้านที่เป็นป้ายLED และน้อง ๆ มอลลี่ตัวยักษ์วางเรียงรายน่าทัชน่ากอด ที่สำคัญคนน้อยแบบไม่ต้องต่อคิว คอนทราสต์กับที่ไทยมาก ๆ แน่นอนว่าจะต้องมีรุ่นlimited เฉพาะฮ่องกงให้เราได้เลือกสอยเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกด้วย แถมยังมีสาขาตามแหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก ใกล้ตรงไหนแวะไปได้เลย

⏰ ทุกวัน10:00 น. - 22:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/6kDMvB7obwuCsFqu8

𝟎𝟎𝟑 𝐒𝐲𝐦𝐩𝐡𝐨𝐧𝐲 𝐨𝐟 𝐋𝐢𝐠𝐡𝐭

เราเดินชอปอยู่ในจิมซาจุ่ยจนถึงเย็น พอฟ้าเริ่มมืดก็ทอดน่องมาเดินอยู่ริมอ่าว เพื่อรอชมSymphony of Light การแสดงที่ทำให้เราเห็นความยิ่งใหญ่อลังการ และความเจริญรุ่งเรืองของเกาะกลางทะเลแห่งนี้ โดยการแสดงจะมีขึ้นเวลา20:00 น. ของทุกวัน ในระยะเวลา10 นาที ถือเป็นการแสดงแสงสีเสียงถาวรที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถเลือกสปอตที่จะรับชมได้ทั้งย่านจิมซาจุ่ยฝั่งเกาลูน,Golden Bauhinia Square ที่ฝั่งฮ่องกง หรือจะล่องเรือชมกลางน้ำก็โรแมนติกไม่แพ้กัน

⏰ ทุกวัน20:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/2ZNZDijwVNeHiJFr9

𝐃𝐚𝐲 𝟐

𝟎𝟎𝟒 𝐅𝐨𝐫 𝐊𝐞𝐞 𝐑𝐞𝐬𝐭𝐚𝐮𝐫𝐚𝐧𝐭
ถามถึงเมนูเด็ดประจำฮ่องกง บางคนอาจนึกถึงโจ๊ก ติ่มซำ แต่ทางเราขอยกให้ข้าวหน้าหมูทอดคือที่สุด เป็นComfort food บ้านเขา ฟีลลิงข้าวกะเพราบ้านเรานี่แหละ และจะต้องเป็นของร้าน‘For Kee Restaurant’ เท่านั้นด้วย เราชอบตั้งแต่หน้าตาร้านที่ที่ดูโลคอล เป็นร้านทรงวินเทจสีขาวเล็ก ๆ อยู่ตรงหัวมุม หน้าร้านมีป้ายเมนูอาหารจีนติดอยู่ พร้อมชื่อร้านภาษาอังกฤษตัวโต ถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนเป็นฉากในหนังฮ่องกงยังไงอย่างงั้น เป็นเฟรมเก๋ ๆ ให้เรามีรูปไปอัปโซเชียลแต่เช้าเลย

⏰ เปิดจันทร์- เสาร์07:00 - 16:00 น. (ปิดวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

📍https://maps.app.goo.gl/89tf3ySuudVA33da8

พอเราเข้าไปนั่ง พี่พนักงานจะนำเมนูที่มีภาษาอังกฤษกำกับมาให้เราจิ้มเลือก อาหารจัดเสิร์ฟมาแบบสตรีท ๆ ไม่ได้เน้นจัดจานสวยแต่เน้นความฉ่ำวาวน่าอร่อย ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียวสไตล์ฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นข้าวพอร์คช็อปที่หมักหมูได้นุ่ม ผัดกับหอมใหญ่รสชาติเค็มหวานกลมกล่อม โปะไข่ดาวเยิ้ม ๆ กินกับซอสคล้ายแม็กกี้เพิ่มความหอมซีอิ๊วรสเค็มนัว ๆ เรียกว่าเป็นมื้อเช้าที่ทำจิตแจ่มใส พร้อมเที่ยวต่อได้ทั้งวัน

𝟎𝟎𝟓 วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหัน (𝐂𝐡𝐞 𝐊𝐮𝐧𝐠 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞)

วัดที่เป็นประหนึ่งสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกง แหล่งมูเตลูของเจ้าสัวจากหลายประเทศ ‘วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหัน’มีประวัติอยู่คู่ฮ่องกงมานานกว่า 300 ปี สร้างเพื่ออุทิศให้แก่ Che Kung ผู้บัญชาการทหารในราชวงศ์ซ่ง ผู้คอยคุ้มกันจักรพรรดิซ่งองค์สุดท้ายที่หลบหนีการรุกรานจากมองโกลมายังฮ่องกง และหลังจากที่สร้างวัดเสร็จ โรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ก็หายพอดี ผู้คนจึงเชื่อว่าท่านแชกงคือผู้ที่มาช่วยปกป้องรักษาชาวบ้านให้อยู่อย่างเป็นสุขนั่นเอง

⏰ เปิดทุกวัน 8:00 - 18:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/6yPgJUL1tzLsgxUs5

สำหรับการไหว้ขอพร ที่นี่จะเด่นเรื่องของความโชคดี ร่ำรวยเงินทอง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายโดยมีวิธีไหว้เป็นขั้นตอน ดังนี้

  • นำธูปมังกร3 ดอก ไปไหว้ฟ้าดินโดยหันหน้าออกนอกวัด ตั้งจิตอธิษฐาน แจ้งชื่อ, วัน/เดือน/ปีเกิด, อายุ, จุดประสงค์ในการมา จากนั้นหันหน้ากลับมาที่วัดแล้วปักธูปที่กระถางกลาง
  • ใช้ธูปดอกเล็ก ๆ อธิษฐานเหมือนกับข้อแรก แล้วนำธูปไปปักใส่ทั้ง3 กระถาง กระถางละ3 ดอก
  • ไหว้เจ้าที่ที่อยู่ประตูทางเข้า เก็บธูปไว้กับตัว3 ดอก ที่เหลือให้ปักที่กระถางกลางแจ้ง
  • เขียน ชื่อ-นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด คำขอพรลงบนกระดาษ และเข้าด้านใน
  • ไปที่หน้ารูปปั้นท่านแชกง ไหว้ด้วยธูปและใบที่เราเขียน พร้อมอธิษฐาน ระหว่างขอพรให้จ้องตาท่านด้วยความมุ่งมั่นด้วยนะ
  • ปักธูปและวางกระดาษไว้ที่ด้านหน้าของท่าน

และอย่าลืมไปเสริมสิริมงคลด้วยการหมุนกังหันของท่านด้วย โดยกังหันจะมีทั้งหมด4 ใบพัด แทนคำอวยพรด้านต่าง ๆ ทั้ง เดินทางอย่างปลอดภัย, สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว, โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา และความสมปรารถนา โดยเราจะต้องหมุนกังหัน3 รอบ โดยใช้นิ้วชี้ ถ้าชีวิตดีอยู่แล้วให้หมุนขวา แต่ถ้าชีวิตค่อนข้างแย่หรือเป็นปีชงให้หมุนซ้าย จบด้วยการตีกลอง3 ครั้ง เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย และให้คำขอพรของเราสมปรารถนา

𝟎𝟎𝟔 วัดหวังต้าเซียน (𝐖𝐨𝐧𝐠 𝐓𝐚𝐢 𝐒𝐢𝐧 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞)
Lucky in game แล้วก็ต้องLucky in love ด้วย และตัวช่วยที่หลายคนรีวิวว่าได้ผลแทบจะทันตาก็คือ ‘วัดหวังต้าเซียน’ หรือที่คนไทยเรียกว่าวัดด้ายแดง วัดจีนลัทธิเต๋าที่ชาวเมืองมักจะแห่มาไหว้ช่วงตรุษจีนเพื่อเสริมดวงก่อนเริ่มปีใหม่ แต่สาวไทยหน้ามนอย่างเราตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อมาขอพรเรื่องความรักโดยเฉพาะ กับเทพเจ้าหยุคโหลว เทพเจ้าแห่งจันทราผู้คอยเชื่อมคู่ครองผ่านด้ายแดง ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการขอพรครั้งนี้นั่นเอง

⏰ เปิดทุกวัน 07:30 - 16:30 น.

📍https://maps.app.goo.gl/TijxshV51k6Aixfu9

ขั้นตอนการขอพรเริ่มจากการคีบด้ายแดง โดยเอานิ้วโป้งกดปลายนิ้วนาง แล้วเอานิ้วก้อยสอดเข้าไปในรูของนิ้วนางทั้ง2 ข้าง แล้วไปคีบ "ด้ายแดง" ขึ้นมา1 เส้น ถ้าคีบด้ายแดงมาแล้ว ห้ามปล่อยด้ายหลุดมือเด็ดขาดจากนั้นเดินมาที่หน้าเทพเจ้าหยุคโหลว แล้วคำนับท่าน3 ครั้งเพื่อแสดงความเคารพ
.
ผู้หญิง:: เดินตรงไปยังรูปปั้นเจ้าสาวที่อยู่ด้านซ้าย คำนับ3 ครั้ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานเรื่องความรัก โดยบอกรายละเอียดของคู่ครองที่ต้องการได้เลย แล้วเดินไปฝั่งเจ้าบ่าวใช้มือที่ยังถือด้ายแดงอยู่ลูบเท้าเจ้าบ่าว3 ครั้ง อธิษฐานจิตขอให้ท่านเมตตาเรา แต่ไม่ต้องโค้งทำความเคารพ
.
ผู้ชาย:: เดินไปยังรูปปั้นเจ้าบ่าวที่อยู่ด้านขวาคำนับ3 ครั้ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานเรื่องความรัก โดยบอกรายละเอียดของคู่ครองที่ต้องการได้เลย แล้วเดินไปฝั่งเจ้าสาวใช้มือที่ยังถือด้ายแดงอยู่ลูบเท้าเจ้าสาว3 ครั้ง อธิษฐานจิตขอให้ท่านเมตตาเรา แต่ไม่ต้องโค้งทำความเคารพ
.
พอจบขั้นตอนนี้ให้ปล่อยมือจากด้ายแดงแล้วนำไปผูกติดกับด้ายแดงเส้นใหญ่บริเวณไหนก็ได้ ซึ่งการขอพรนั้นทำได้ทั้งคนโสดให้ได้เจอคู่ และคนมีคู่ให้มีความรักที่ยืนยาว

𝟎𝟎𝟕 𝐌𝐚𝐤’𝐬 𝐍𝐨𝐨𝐝𝐥𝐞
สำหรับอาหารอุ่นท้องที่สามารถจัดเป็นมื้อเที่ยง มื้อเย็น มื้อดึกได้แบบไม่ติด‘Mak’s Noodle’ ร้านที่เริ่มมาจาก Mak Woon-chi ราชาบะหมี่แห่งเมืองกวางโจวที่มีตำนานมาตั้งแต่ปี1920 ตกทอดมาสู่รุ่นลูกที่ย้ายมาอยู่ฮ่องกงและพัฒนาสูตรเกี๊ยวให้มีความเข้มข้นไม่เหมือนใคร เรียกว่าเป็นผู้ริเริ่มบะหมี่ฮ่องกงให้เป็นที่เลื่องลือเลยก็ว่าได้ แถมร้านยังคงรักษารสชาติดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี นักชิมอย่างเราจึงต้องมาลิ้มลองสักครั้ง

⏰ทุกวัน 10:00 - 23:30 น.

📍https://maps.app.goo.gl/azwZrFrPrL6iYzSq8

เราเลือกกินเมนูเด่นประจำร้านคือบะหมี่เกี๊ยวทั้งน้ำและแห้ง โดยเส้นจะลวกมาแบบเด้งกรุบไม่นิ่มจนเกินไป เป็นเส้นขนาดเล็กที่หอมกลิ่นไข่เย้ายวน สามารถโอบอุ้มรสชาติของซุปได้อย่างกลมกล่อม กินคู่กับเกี๊ยวชิ้นโตที่ภายในเป็นกุ้งสดหวานกรอบหอมกลิ่นทะเลถือเป็นรสชาติหมี่ฮ่องกงในอุดมคติจริง ๆ จานเคียงเราสั่งผักคะน้าฮ่องกง ผักคะน้าใช้ก้านอ่อนกรอบกำลังดี หอมกลิ่นน้ำมันหอย รสชาติหวานเค็มเข้มข้นกินตัดกับน้ำจิ้มรสเผ็ดที่เสิร์ฟมาให้ได้ถึงใจสุด ๆ

𝟎𝟎𝟖 𝐂𝐡𝐞𝐮𝐧𝐠 𝐇𝐢𝐧𝐠 𝐊𝐞𝐞 𝐒𝐡𝐚𝐧𝐠𝐡𝐚𝐢 𝐏𝐚𝐧-𝐅𝐫𝐢𝐞𝐝 𝐁𝐮𝐧𝐬

ยังไม่มูฟออนจากการกิน ขอแวะซื้อสตรีทฟู้ดดีกรีมิชลินไกด์กันก่อนที่ร้าน ‘Cheung Hing Kee Shanghai Pan-Fried Buns’ ซาลาเปาเซี้ยงไฮ้ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเสี่ยวหลงเปา ที่เขาเปลี่ยนจากการนึ่งเป็นนำไปทอดแทน แม้จะเป็นเมนูธรรมดา ๆ แต่ด้วยสูตรของร้านที่เน้นตั้งแต่ความเหนียวนุ่มหอมกลิ่นกระทะในตัวแป้ง เมื่อกัดไปจะเจอน้ำซุปที่พุ่งทะลักรสชาติหวานเค็มกลมกล่อม เบลนด์คู่กับเนื้อหมูหมักรสเข้มข้นที่อยู่ด้านในแล้ว กลายเป็นความบาลานซ์ที่ดีที่สุด โดยเขาจะมีไส้กุ้งให้เลือกด้วย อยากกินสองอย่างก็เลือกคละได้ แถมยังมีสาขาเยอะมาก อยากกินตรงไหนจิ้มแมปหาชื่อร้านได้เลย

⏰ เปิดทุกวัน09:00 - 21:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/9Tj6ocnWBTSGk5Ng8

𝟎𝟎𝟗 𝐇𝐨𝐧𝐠 𝐊𝐨𝐧𝐠 𝐂𝐮𝐥𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐂𝐞𝐧𝐭𝐫𝐞 / 𝐂𝐥𝐨𝐜𝐤 𝐓𝐨𝐰𝐞𝐫

เติมพลังกันเสร็จก็มาโพสท่าฟีลพระเอกลุคคูล นางเองลุคเท่ ณ ‘ Hong Kong Culture Centre’ แหล่งรวมงานวัฒนธรรมสำคัญ ๆ เป็นพื้นฐานของการพัฒนาศิลปะที่ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองเก๋ได้จนถึงทุกวันนี้ โดดเด่นด้วยอาคารกระเบื้องสีน้ำตาลขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเกาลูน ภายในนี้สามารถจัดแสดงงานศิลปะได้แทบทุกรูปแบบ ทั้งห้องแกลลอรี ฮอลคอนเสิร์ต โรงโอเปรา โรงละคร ฉายภาพยนตร์ ฯลฯ และแน่นอนว่าสายคอนเทนต์อย่างเราก็ไม่พลาดที่จะหามุมสวย ๆ ของอาคารมานำร่องให้เพื่อน ๆ ได้ตามรอยกัน

📍https://maps.app.goo.gl/YQWJFotugqqDFmPm8

อีกสปอตที่ถือเป็นไอคอนของเกาะฮ่องกง ‘Clock Tower’ หอนาฬิกาทรงวิกตอเรียนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟเกาลูนเมื่อราว ๆ ร้อยกว่าปีที่แล้ว ก่อนที่สถานีจะถูกย้ายไป หลงเหลือไว้เพียงหอนาฬิหานี้จนกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญว่าบริเวณนี้เคยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของฮ่องกง พอถ่ายรูปเป็นเฟรมคู่กับขอบเสาของ Hong Kong Culture Centre แล้ว เป็นมุมที่คูลจนอยากเปลี่ยนเป็นหน้าโปรไฟล์ตัวเองเลย

𝐃𝐚𝐲 𝟑

𝟎𝟏𝟎 𝐆𝐫𝐚𝐡𝐚𝐦 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭 𝐖𝐚𝐥𝐥 𝐀𝐫𝐭 - 𝐇𝐨𝐥𝐥𝐲𝐰𝐨𝐨𝐝 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭
เอาจริง ๆ ฮ่องกงเขาเก่งเรื่องการปรับพื้นที่ทรุดโทรมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แบบยืนหนึ่งอยู่นะ ถือเป็นแม่แบบของหลาย ๆ เมืองได้เลย เห็นได้ชัดจาก Graham Street Wall Art-Hollywood Street’ ช่วงถนนที่เต็มไปด้วยสตรีทอาร์ตแต่งแต้มบนพื้นผนังที่มีร่องรอบผุกร่อนตามกาลเวลา ที่แม้จะมีอยู่นานมาก ๆ แล้ว แต่ก็ยังเห็นนักท่องเที่ยวตั้งใจมาถ่ายรูปกันไม่หยุดหย่อน ขณะเดียวกัน เรายังได้เห็นเสน่ห์ของย่านเมืองเก่า แชะภาพกับร้านค้าหน้าตาคลาสสิก เป็นโลเคชันที่ถ่ายรูปได้สนุกสุด ๆ ไปเลย

📍https://maps.app.goo.gl/QotktrZhB3RHgzUS6

𝟎𝟏𝟏 𝐓𝐬𝐢𝐦 𝐂𝐡𝐚𝐢 𝐊𝐞𝐞 𝐍𝐨𝐨𝐝𝐥𝐞

ไหน ๆ ก็อยู่ย่านสตรีทอาร์ตแล้ว ก็แวะกินบะหมี่ร้านดังประจำมิชลินซะหน่อย‘Tsim Chai Kee Noodle’ ซึ่งเขาถูกบันทึกในบิบ กูร์มองด์มาหลายปีซ้อนมาก ๆ โดยร้านเปิดมาตั้งแต่ปี1998 กับการขายเมนูบะหมี่เพียงอย่างเดียว โดยจะมีท็อปปิงให้เลือก3 อย่าง คือ เกี๊ยวกุ้งชิ้นโตเต็มคำ เนื้อวัวหมักเท็กซ์เจอร์นุ่มจุยซ์ และลูกชิ้นปลาบดสุดเด้งเคี้ยวมันส์ สามารถเลือกมิกซ์ได้ตามชอบ แล้วแต่ละชิ้นที่โบกมาให้คือใหญ่มาก กินกับผัดผักเพื่อตัดรสชาติกันไปมารวมแล้วเป็นรสชาติชวนเคลิ้ม สมราคามาตรฐานฮ่องกง ไม่แปลกใจเลยที่กลายเป็นร้านฮิตติดลมบน

⏰ เปิดทุกวัน11:00 - 22:00 น.

📍https://maps.app.goo.gl/jZGSgdVK4YRe2tHt7

𝟎𝟏𝟐 วัดทินหัว หาดรีพัลส์เบย์ ( 𝐓𝐢𝐧 𝐇𝐚𝐮 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞 𝐑𝐞𝐩𝐮𝐥𝐬𝐞 𝐁𝐚𝐲)

วัดนี้สำหรับคนที่ต้องการขอพรแบบครอบจักรวาล ‘วัดทินหัว หาดรีพัลส์เบย์’ หลายคนอาจคิดว่าที่นี่มีแต่เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล แต่ความจริงเขาเต็มไปด้วยองค์เทพอีกมากมายทั้ง เจ้าแม่ทับทิม พระสังกัจจายน์ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี่ย แต่ละองค์ก็ให้พรในแต่ละเรื่อง มีทั้งโชคลาภ อายุยืนยาว ความรัก ซึ่งทางเราอยากสัมผัสชีวิตเศรษฐีสักครั้ง จึงมุ่งตรงมาที่เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี่ย เราแอบมีทริกเล็ก ๆ มาทำพิธีเสริมโชคลาภฝากเพื่อน ๆ ด้วยล่ะ

📍https://maps.app.goo.gl/KMqozxWLiGN9akWPA

นั่นคือการใช้ธนบัตร100 บาทไทยที่เป็นสีแดง อันเป็นสีมงคลหมายถึงความโชคดี หรือธนบัตรที่มีเลขลงท้ายด้วย1,2,8,9 มาตั้งจิตอธิษฐานเรื่องเงินทอง แล้วนำธนบัตรไปลูบที่เคราขององค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี่ยตั้งแต่ด้านบนจนถึงด้านล่าง แล้วมาสิ้นสุดที่ถุงใส่เงินของท่านที่อยู่บริเวณเอว จากนั้นนำธนบัตรเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน หรือตู้เซฟเก็บสมบัติของเรา กระซิบนิดนึงว่าใครอยากขอพรเรื่องลูก ก็สามารถมาขอพรกับพระสังกัจจายน์ที่ข้างกายเต็มไปด้วยเด็กน้อยได้ด้วยเช่นกัน

𝟎𝟏𝟑 𝐇𝐎𝐍𝐆𝐊𝐎𝐍𝐆 𝐃𝐔𝐓𝐘 𝐅𝐄𝐄

ก่อนจะล่ำลากันไป เรามาทิ้งทวนด้วยการละลายทรัพย์สักกรุบกับสินค้าปลอดภาษีที่ ‘HONGKONG DUTY FEE’ ภายในสนามบินรวมสินค้าราคาแสนดีเป็นของ Official ที่ถูกกว่าไทยกว่า 20% และยังมีคูปองลดเพิ่มอีก100 HKD (เมื่อซื้อครบ200 HKD ) จาก Summer Chill Hong Kong ครบครันทั้งขนม เครื่องประดับ เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำ ชอปเพลินประหนึ่งเดินในทุ่งดอกไม้ได้เลยค่ะสาว ๆเดี๋ยวเรามาเปรียบเทียบให้ดูว่าชอปอะไรไปบ้าง แล้วถูกกว่าที่ไทยเท่าไหร่

📍https://maps.app.goo.gl/phmtaNQudeuqcxkU8

เริ่มที่ครีมบำรุงสำหรับสาววัยสามสิบจากแบรนด์Clinique ตัวSmart Clinical Repair Wrinkle Correction Serum ขนาด75 ml ไทยขาย4,950 บาท ส่วนที่นี่752 HKD (3,317 บาท) ส่วนรูปแบบ Cream ขนาด50 ml ไทยขาย3,800 บาท ของเขา575 HKD (2,536 บาท) แถมซื้อครบ200 HKD ยังได้ลดอีก100 HKD ราคาดีจนอยากจะเหมาไว้ใช้สัก 2 ชุด

ยังมีThe POREfessional Face Primer ไพรเมอร์ตัวดังจากBenefit ที่ไทยขายอันละ1,500 บาท ส่วนที่นี่ 3 อัน624 HKD (2,752 บาท) หรือตกอันละ915 บาทเท่านั้น ราคากรี๊ดมากกก!! มาถึงลิปตัวโปรดของสาวดิออร์DIOR ADDICT LIP GLOW OIL ที่ไม่คิดว่าจะลด ก็ยังถูกกว่าไทยนิดหน่อย จาก1,650 บาท เหลือ340 HKD (1,499 บาท) เท่านั้นเอง

𝟎𝟏𝟒 𝐑𝐚𝐦𝐚𝐝𝐚 𝐇𝐨𝐧𝐠 𝐊𝐨𝐧𝐠 𝐆𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐕𝐢𝐞𝐰

สำหรับที่หลับนอนที่เราฝากตัวฝากใจตลอดทริปนี้คือ‘ Ramada Hong Kong Grand View’ โรงแรมเซอร์วิสเลิศ โลเคชันปัง!! ด้วยความเป็นโรงแรมใหญ่มีห้องมากกว่า300 ห้อง เขาจึงครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งสระว่ายน้ำwi-fi คาเฟ่ ฟิตเนส พร้อมมุมวิวอ่าววิคตอเรียซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของฮ่องกง รอบ ๆ เต็มไปด้วยตลาดสดสุดโลคอล สัมผัสความเรียลของเมือง แถมไม่อดตายเพราะมีร้านอาหารทะเล ร้านริมทาง ผักผลไม้ให้เลือกกินเพียบ การเดินทางก็ง่าย ใกล้ทั้งป้ายรถบัสสายที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวป็อป ๆ ได้ และห่างจากMRT สถานีNorth Point เพียง5 นาทีเท่านั้น

📍https://maps.app.goo.gl/f4wgjHY8KhTCKRYn9

ตั้งแต่เที่ยวฮ่องกงมาทั้งชีวิต บอกเลยว่าทริปนี้คุ้มที่สุดแล้วจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินราคาหลักพันที่พาเราบินนุ่ม ๆ พร้อมปรนเปรอเราด้วยอาหารอุ่นร้อน น้ำหนักกระเป๋า เลือกที่นั่ง และบริการดี ๆ จากพี่แอร์คนสวยแถมบินมาตรงกับเทศกาลลดราคาทั้งเกาะมากถึง70-80% แล้วยังมีคูปองจากSummer Chill Hong Kong ได้ทั้งตั๋วเดินทางซื้อ1 แถม1 ส่วนลดร้านค้ามากถึง500 HKD ใครกำลังหาที่เที่ยวสำหรับเปย์ตัวเองทั้งกิน ชอป มู บินตามมาได้เลย แคมเปญดี ๆ แบบนี้มีถึง15 กันยายน67 หรือจนกว่าคูปองจะหมดเท่านั้นนะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น