อ้างป่วยฟังไม่ขึ้น แพทย์ ยัน พ่อโหดฆ่าลูก 5 ศพ มีสติสัมปชัญญะครบ

เช้าข่าว 7 สี - คดีพ่อโหดฆ่าลูกตัวเอง 5 คน ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพาตัวผู้ต้องหาไปตรวจสภาพจิต ฝากขัง ค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่พักเก่า รวมไปถึงการค้นหาโครงกระดูกของเด็ก 2 คน ที่ตอนนี้พบมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึง 40 ชิ้นแล้ว ก่อนอื่นไปดูหนึ่งในหลักฐานที่ตรวจพบในห้องพักอะพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 48 กรุงเทพมหานคร กันก่อน จดหมายฉบับนี้ ตำรวจสันนิษฐานว่า เขียนโดยภรรยาคนที่ 2 ที่มีลูกกับผู้ต้องหา 5 คน มีข้อมูลเปิดเผยออกมา 2 ฉบับ ฉบับแรก เนื้อหาเป็นเชิงตัดพ้อ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทำให้คนที่เขียนจดหมายเข้าใจว่า เขา ซึ่งน่าจะหมายถึงตัวผู้ต้องหา ไม่ได้อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีการทำอะไรบางอย่างที่ทำให้คนเขียนเกือบตาย พร้อมกับตัดพ้อว่า เขาไม่เคยรัก ไม่เคยสงสารเราเลยจริง ๆ จดหมายอีกฉบับ ใจความเป็นการสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื้อหาโดยสรุปน่าจะเป็นการที่คนเขียนได้ตัดสายโทรศัพท์ของผู้ต้องหา แล้วเกิดการทะเลาะโต้เถียงกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นต้องสาบานขอให้มีอันเป็นไป หรือได้รับความทรมานหากโกหก จดหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ สะท้อนคำบอกเล่าผลการสอบปากคำผู้ต้องหา ภรรยาคนที่ 2 และภรรยาคนที่ 4 ที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวนเข้ม จนผู้ต้องหาเปลี่ยนใจยอมให้การรับสารภาพว่าที่ผ่านมาได้ทำร้ายภรรยาและลูกสาว อายุ 12 ขวบ เป็นประจำ ด้วยการตี จับกดน้ำ ใช้มีด หรือไขควงลนไฟ แล้วจี้ตามร่างกาย สาเหตุมาจากความหึงหวงที่ภรรยาไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง แล้วอ้างกับภรรยาว่า ทนเสียงเด็กร้องไม่ได้ ตัดพ้อว่าตัวเองตกงาน มีประวัติป่วยอาการทางจิตเวช ไม่มีเงินซื้อนม ซื้ออาหารให้ลูก และยังยอมรับ ว่าตนเองได้ลงมือฆ่าลูก 3 คนจริง ส่วนอีก 2 คน อ้างว่ามีอาการป่วยแล้วเสียชีวิต จึงให้ภรรยานำศพลูกใส่ถุงไปทิ้งที่ย่านสายไหม แต่เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหามีการอ้างเรื่องอาการป่วยจิตเวช ก็เลยทำให้ตำรวจต้องพาตัวไปตรวจประวัติอาการป่วยทางจิตเวช ที่โรงพยาบาลที่ผู้ต้องหาเคยมีประวัติการรักษามาก่อน จึงพาตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญา พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าผลการทำแบบทดสอบ พบว่าผู้ต้องหามีสติสัมปชัญญะ รู้สำนึกถูกผิด ไม่มีอาการของคนหลงผิด เชื่อได้ว่าขณะลงมือก่อเหตุยังมีสติดี รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร หลังตรวจอาการทางจิตเวชเรียบร้อย ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาจากห้องสืบสวน และไปนำตัวผู้ต้องหาคนที่ 4 ที่อยู่ในห้องควบคุม ไปขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่หน้า สน.บางเขน ระหว่างการพาตัวไปขึ้นรถ ผู้ต้องหายอมรับว่าได้ลงมือฆ่าลูกตัวเองจริง ปฏิเสธไม่ได้บังคับภรรยาร่วมก่อเหตุด้วย ส่วนภรรยาคนที่ 4 มีอาการเดินร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้น ตำรวจขออำนาจศาลาอาญาฝากขังใน 3 ข้อหา ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นทำลายศพ พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว ส่วนภรรยาคนที่ 2 ที่มีลูกกับผู้ต้องหา 5 คน ตำรวจยังคงกันตัวสอบสวนในฐานะพยาน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากภรรยาคนนี้ให้การว่าถูกสามีบังคับให้นำศพลูกไปทิ้ง และถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด ซึ่งผลการตรวจร่างกายก็พบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายจริง ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม วานนี้ 21 ก.ย. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจค้นอะพาร์ตเมนต์ 4 แห่ง ในซอยพหลโยธิน 52, 65, 69 และ 71 ซึ่งเป็นห้องพักที่ผู้ต้องหาและภรรยาเคยเช่าอาศัยอยู่ด้วยกันในอดีต โดยบางจุดพบว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ จึงต้องรอประสานเข้าทำการตรวจค้นอีกครั้ง ระหว่างการตรวจค้น ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในผู้ดูแลหอพัก ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหากับภรรยาเข้ามาพักอาศัยอยู่ช่วงปี 2557-2561 ซึ่งทางอะพาร์ตเมนต์ มีกฎห้ามนำเด็กเล็กเข้ามาอยู่อาศัย เพราะเกรงจะรบกวนผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาก็สังเกตเห็นว่าทั้ง 2 คน จะพาเด็กมาเล่นเฉพาะช่วงเช้า และช่วงเย็นจะพากันออกไปที่อื่น จนช่วงปี 2561 ผู้ต้องหามีปากเสียงกับผู้เช่าห้องข้าง ๆ จนถูกตักเตือน จากนั้นก็พากันย้ายออกไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ค้างชำระค่าห้อง 2 เดือน รวมถึงค่าน้ำ-ค่าไฟด้วย ส่วนเรื่องการขุดหาเศษซากโครงกระดูก ที่คาดว่าเป็นชิ้นส่วนของศพทารก ที่ผู้ต้องหาให้ภรรยานำใส่ถุงดำไปทิ้งบริเวณที่รกร้าง พื้นที่เขตสายไหม หลังจากพบชิ้นส่วนคล้ายกระดูกมนุษย์ 2 ชิ้น ผลการตรวจค้นเพิ่มเติม พบกระดูกชิ้นส่วนคล้ายของเด็ก รวมแล้วประมาณ 40 ชิ้น แบ่งออกเป็น 3 กอง กองที่ 1 เป็นกระดูกขนาดใหญ่ ลักษณะแบน 2 ชิ้น สันนิษฐานเป็นส่วนกะโหลก กองที่ 2 มี 4 ชิ้น สันนิษฐานว่าเป็นท่อนแขน หรือขา และกองที่ 3 มีมากกว่า 30 ชิ้น เป็นกระดูกชิ้นเล็ก เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจพิสูจน์ DNA ต่อไปคาดว่าประมาณ 3-5 วัน จะทราบผลการตรวจเปรียบเทียบกระดูกกับ DNA ของพ่อและแม่ กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #เช้าข่าว7สี #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS Facebook Ch7HD: https://facebook.com/Ch7HD Ch7HD News: https://facebook.com/Ch7HDNews Twitter Ch7HD: https://twitter.com/ch7hd YouTube Ch7HD: https://www.youtube.com/c/ch7hd CH7HD News: https://youtube.com/c/CH7HDNews TikTok Ch7HD: https://www.tiktok.com/ch7hdofficial Ch7HD News: https://www.tiktok.com/ch7hd_news Instagram Ch7HD: https://www.instagram.com/ch7hd/ Ch7HD News: https://www.instagram.com/ch7hd_news/