โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชาวบ้าน 13 ชุมชนริมกก ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล-ผวจ.เชียงราย เดือดร้อนหนักถูกห้ามสัมผัสน้ำ

Khaosod

อัพเดต 30 เม.ย. เวลา 08.46 น. • เผยแพร่ 30 เม.ย. เวลา 08.37 น.
ชาวบ้าน 13 ชุมชนริมกก ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล-ผวจ.เชียงราย เดือดร้อนหนักถูกห้ามสัมผัสน้ำ

ชาวบ้าน 13 ชุมชนริมกก ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล-ผวจ.เชียงราย เดือดร้อนหนักหลังถูกห้ามสัมผัสน้ำปนเปื้อนสารหนู แถมไร้หน่วยงานรัฐให้คำแนะนำ ยันโดนน้ำแล้วเป็นผื่นคัน

วันที่ 30 เม.ย.2568 ชาวบ้านในนามเครือข่ายสิทธิชุมชนจังหวัดเชียงราย ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอให้เร่งรัดและติดตามการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากกรณีแม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษ โดยเฉพาะสารหนูที่มีปริมาณเกินมาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในแหล่งน้ำ ที่สำคัญคือจะส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกกทั้งทางตรงและทางอ้อม

ในหนังสือที่ส่งถึง ผวจ.เชียงรายระบุว่า ในปัจจุบันมีการแจ้งไม่ให้ประชาชนสัมผัสกับน้ำในแม่น้ำกกเนื่องจากเป็นอันตราย ซึ่งสร้างหวาดกลัว วิตกกังวล ต่อชาวบ้านและประชาชน ทั้งที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งน้ำกกหรือบริเวณใกล้เคียง หรือแม้กระทั่งประชาชนที่ใช้ประโยชน์จากน้ำแม่น้ำกก เช่น น้ำประปา หรือชลประทานที่รับน้ำมาจากแม่น้ำกก โดยเฉพาะในชุมชนพื้นที่ตำบลแม่ยาว ตำบลห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย และอีกหลายชุมชนตลอดสายของแม่น้ำกก

“เราเห็นว่าการทำความเข้าใจกับชุมชนที่ใช้ประโยชน์กับแม่น้ำกกและสื่อสารกับกลุ่มคนทั่วไปได้เข้าใจถึงสถานการณ์และการแก้ไขปัญหายังไม่ทั่วถึงและล่าช้า สร้างความเดือดร้อนในเรื่องอื่นๆตามมาในการดำรงชีวิตประจำวัน พวกเรามีความกังวลและเป็นห่วงประเด็นการดำเนินการแก้ไขปัญหาและสถานการณ์แม่น้ำกก”หนังสือร้องเรียนระบุ

ชาวบ้านเครือข่ายสิทธิชุมชนระบุว่า

  • ชุมชนอย่างน้อย 13 ชุมชน ได้แก่ บ้านรวมมิตร บ้านสามเส้า บ้านออบเสือแหวน บ้านใหม่พัฒนา ต.แม่ยาว อ.เมือง และบ้านห้วยกุ่ม บ้านห้วยเจริญ บ้านถ้ำศิลา บ้านจะคือ บ้านห้วยริน บ้านหาดยาว บ้านจะเด้อ บ้านแก่นหลวงนอก บ้านแสนตอ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย ไม่สามารถใช้น้ำจากแม่น้ำกกได้อุปโภคและบริโภคได้ตามปกติ นอกจากนั้นไม่สามารถใช้น้ำทำการเกษตร รวมถึงน้ำบ่อน้ำบาดาลที่ชาวบ้านใช้บริเวณริมน้ำกก ซึ่งคาดว่าจะมีสารพิษและเป็นอันตรายเนื่องจากมีความสัมพันธ์กับน้ำในแม่น้ำกก
  • ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริง และแนะนำการรับมือหรือแก้ไขปัญหา และเข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ แต่ละแห่งที่มีในชุมชนริมแม่น้ำกก เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้ข้อเท็จจริงและเกิดความมั่นใจและมีความปลอดภัยในการใช้น้ำ
  • การตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ผ่านมาชาวบ้านได้ติดตามแต่ในข่าวสาร ซึ่งเป็นเพียงการตรวจคุณภาพน้ำไม่ได้ตรวจสอบตะกอนดิน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมสารพิษที่เจือปนในน้ำ โดยเมื่อน้ำแห้งหรือในฤดูน้ำหลากก็จะทำให้ตะกอนดินปะปนในน้ำได้ตลอดเวลา ที่สำคัญยังไม่มีหน่วยงานไหนยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่าสารพิษหรือสารหนูในแม่น้ำกก มีมาก่อนการตรวจพบหรือกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
  • ไม่สามารถจับสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลา หอย ปู กุ้ง หรือสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ มาเป็นอาหารตามวิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำที่เคยเป็นมาแต่ดั้งเดิม เนื่องจากกลัวอันตรายจากสารพิษ นอกจากนั้นแหล่งอาหารตามธรรมชาติเช่น ผักกูด ผักหนาม ผักบุ้ง ฯลฯที่ขึ้นบริเวณริมน้ำ ชาวบ้านไม่สามารถเก็บหาเพื่อมาใช้เป็นอาหารได้ตามปกติ นอกจากยังมีพืชผักที่ชาวบ้านปลูกเองโดยใช้น้ำแม่น้ำกกมารดให้พืชผักเติบโต
  • เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับชาวบ้าน บ้านแคววัวดำ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีคนสัมผัสน้ำกกและเกิดผื่นคันขึ้น จนถึงปัจจุบัน ยังไม่หายจากอาการดังกล่าว ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเกิดสารพิษที่มีในแหล่งน้ำหรือไม่ทำให้ชาวบ้านยิ่งมีความวิตกกังวลมากขึ้น ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือมาตรวจสุขภาพของคนในชุมชนโดยตรง เพื่อให้รู้ว่ามีสารพิษตกค้างกับชาวบ้านจากการใช้น้ำจากแม่น้ำกกหรือไม่ ถึงแม้จะว่าในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่าสารพิษ หรือสารหนู ไม่พบหรือไม่เกินมาตรฐาน
  • กิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชนที่ใช้แม่น้ำกก เช่น แพ ปางช้าง หรือโฮมสเตย์ริมน้ำ ไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เนื่องจากนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ผู้ประกอบการเองมีความหวาดกลัวกับสารพิษในแม่น้ำกก

“ทั้งหมดเป็นความวิตกกังวล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ชาวบ้านทั้งชาติพันธุ์ คนเมืองต่างมีความสัมพันธ์การใช้ประโยชน์จากแม่น้ำกกมาตั้งแต่อดีตยาวนาน แต่ขณะนี้กำลังเกิดสถานการณ์วิกฤตเป็นพิษ แต่การให้ข้อมูลกับชาวบ้าน การแก้ไขปัญหายังมีความล่าช้า ไม่ทั่วถึง และขาดการมีส่วนร่วม”หนังสือระบุ

ทั้งนี้ชาวบ้านและเครือข่ายสิทธิชุมชนเชียงรายขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ดังนี้

  • ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพบสารพิษหรือสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก โดยให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแต่ละชุมชน ได้แก่ในแม่น้ำกกที่ชุมชนตั้งอยู่บริเวณชุมชน น้ำบ่อหรือน้ำบาดาลที่อยู่ริมแม่น้ำกก ตรวจสอบตะกอนดินในแม่น้ำกกบริเวณชุมชน ตรวจสอบสารพิษในแปลงเกษตรหรือพื้นที่เพาะปลูกที่ใช้น้ำหรืออยู่ริมแม่น้ำกก หรือพื้นที่ที่ถูกอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2567 เช่น นาข้าว ฯลฯ
  • ให้รัฐบาลและจังหวัดเร่งรัดการแก้ไขที่เกิดขึ้นโดยด่วน ได้แก่แก้ไขและจัดการแหล่งที่มาของสารพิษ สารหนู เร่งด่วนเร่งรัดดำเนินการหาแนวทางแก้ไข้ปัญหาต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้านผู้เดือดร้อน เรื่องแหล่งอาหารเป็นพิษและขาดแคลนแหล่งอาหารชุมชน จากการปนเปื้อนสารหนูและให้มีการตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจหาสารหนูกับชาวบ้านที่ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำกก เนื่องจากจะส่งผลกระทบระยะยาว
  • ให้การประปาจังหวัดเชียงราย ได้ชี้แจงการประปาที่ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกกที่ปลอดภัยต่อประชาชนหรือชุมชน ที่ใช้ประโยชน์ประปาอย่างทั่วถึง อีกทั้งชี้แจงการกำจัดสารพิษหรือสารหนูที่มีปนเปื้อนในน้ำจากแม่น้ำกก
  • ให้จังหวัดสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกเป็นพิษ โดยมีตัวแทนประชาชนและผู้เดือดร้อนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ชาวบ้าน 13 ชุมชนริมกก ยื่นหนังสือถึงรัฐบาล-ผวจ.เชียงราย เดือดร้อนหนักถูกห้ามสัมผัสน้ำ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...