‘การบินไทย’ มุ่งกลยุทธ์ Network Strategy ‘คีย์ซักเซส’ สร้างการเติบโต
ในตารางบินฤดูร้อนปี 2568 (30 มีนาคม-25 ตุลาคม) “การบินไทย” ให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารสู่ 63 เส้นทางบิน รองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศ และเชื่อมต่อหลากหลายจุดหมายปลายทางทั่วโลก
“กรกฎ ชาตะสิงห์” ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมของการบินไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ โดยปีนี้พบว่าตัวเลขยอดขายรวมในไตรมาส 1 อยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2567
และยังคงดีต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน 2568 โดยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Cabin Factor) อยู่ในระดับ 80-85% ซึ่งจากการขายล่วงหน้าสำหรับเดือนพฤษภาคมก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องเช่นกัน
“กรกฎ” บอกว่า ปัจจุบันการบินไทยมุ่งขายเส้นทางที่เป็นคอนเน็กติ้งมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางยุโรป ออสเตรเลีย จากเดิมที่ขายแต่เส้นทางเข้า-ออกประเทศไทยเป็นหลัก แต่ด้วยเป้าหมายที่อยากให้ประเทศไทยเป็นฮับการบิน ตามนโยบายของรัฐบาล การบินไทยจึงมองตลาด Beyond หรือมากกว่ากรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพและกระจายความเสี่ยง
เช่น ขายจากลอนดอน (อังกฤษ) เข้าซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) ขายจากซิดนีย์ไปเส้นทางในยุโรป จากในอดีตที่ขายแค่จากซิดนีย์มากรุงเทพฯ เป็นต้น
หรือเส้นทางอินเดีย ที่ก่อนหน้านี้ผู้โดยสารจะเข้ามากรุงเทพฯ ประมาณ 65-70% อีก 30-35% ต่อไปที่อื่น แต่วันสัดส่วนระหว่างเข้ากรุงเทพฯ กับเชื่อมต่อไปที่อื่นคิดเป็นสัดส่วน 50/50 เป็นต้น
สะท้อนชัดเจนว่า กลยุทธ์การขายแบบคอนเน็กติ้ง หรือ Network Strategy คือ “คีย์ซักเซส” ที่ช่วยสร้างการเติบโตให้กับ “การบินไทย” ในวันนี้อย่างมาก
และช่วยให้การขายของเส้นทางบินระยะไกล (Long Haul Flight) ปรับตัวดีขึ้นทุกเส้นทาง ที่สำคัญยังช่วยให้ยอดขายและอัตราการบรรทุกผู้โดยสารที่ปกติเป็นโลว์ซีซั่นปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ส่วนตลาดระยะใกล้ (Short Haul Flight) นั้น ตลาดที่ตกและหายไปมากที่สุดคือ จีน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ในระดับประมาณ 70% ทั้ง ๆ ที่คาพาซิตี้ของเส้นทางจีนขณะนี้ยังมีแค่ 60% ของคาพาซิตี้ปี 2562
อย่างไรก็ตาม เส้นทางเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นเส้นทางที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดของตลาดจีน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 75-80% บางช่วงสูงถึง 80% ขณะที่ปักกิ่งมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 70% เช่นเดียวกับ คุนหมิง เฉิงตู และกว่างโจว ที่ไม่ได้ดีนัก
นอกจากนี้ก็ยังมีตลาดเกาหลี สิงคโปร์ และฮ่องกง ที่ชะลอตัวเช่นกัน
โดยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยแค่ประมาณ 65-70%
ขณะที่เส้นทางสู่อินเดีย ซึ่งการบินไทยให้บริการมากกว่า 10 จุดหมายปลายทางนั้น ถือว่าผลตอบรับดีต่อเนื่องทุกเมือง มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยมากถึง 80-90%
ซีอีโอสายการพาณิชย์การบินไทยยังบอกด้วยว่า ทันทีที่เครื่องบินใหม่ Airbus A321 Neo (32 ลำ) เข้ามาเสริมตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป บวกกับเครื่อง A320 (ไทยสมายล์เดิม) ที่ปรับโฉมใหม่แล้วอีก 20 ลำ จะยิ่งทำให้ตลาดระยะใกล้ หรือ Short Haul ของ “การบินไทย” มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น
เมื่อโปรดักต์ที่ตอบโจทย์การเดินทางได้ดีขึ้น บวกกับกลยุทธ์ Network Strategy ที่แข็งแกร่งขึ้นจะยิ่งทำให้ “การบินไทย” สามารถบริหารกำไร หรือ Yield ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘การบินไทย’ มุ่งกลยุทธ์ Network Strategy ‘คีย์ซักเซส’ สร้างการเติบโต
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net