โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

"สน.บางซื่อ" ประชุมเร่งรัด ปม ตึก ‘สตง.ถล่ม’ เร่ง ติดตามเอกสารชุดในการแก้แบบที่พบความผิดปกติ

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 28 เม.ย. เวลา 07.10 น.

"สน.บางซื่อ" ประชุมเร่งรัด ปม ตึก ‘สตง.ถล่ม’ เร่ง ติดตามเอกสารชุดในการแก้แบบที่พบความผิดปกติ ในการแก้แบบครั้งที่ 4 กับ 6 เตรียมเรียก 40 วิศวกร เข้าสอบปากคำ โดยมีสน.บางซื่อร่วมสอบ

เวลา 13.00น. วันที่ 28 เม.ย. 2568 ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ภายหลังพลตำรวจตรีสมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรีเจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ร่วมกันประชุมถึงแนวทางการดำเนินคดีเหตุที่เกี่ยวข้องกับตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มที่ สน.บางซื่อ โดยใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ขณะที่ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 รายงานจากที่ประชุมวันนี้ ว่า ในช่วงเวลา 09.00 น. คณะพนักงานสอบสวนได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการร่วมปฏิบัติการกับทางดีเอสไอ เรื่องของการอายัดตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 24 ตู้ เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานว่า มีส่วนไหนเป็นอย่างไร มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกันอย่างไรบ้าง ส่วนตู้ไหนที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็จะส่งกลับคืนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนข้อมูลในตู้คอนเทนเนอร์ คาดว่าน่าจะมีเอกสารในการก่อสร้างตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ รวมไปถึงข้อมูลของบริษัทซัพต่างๆ ซึ่งการทำงานในแต่ละวัน ก็จะมีรายละเอียดในส่วนต่างๆ อยู่แล้ว โดยคณะพนักงานสอบสวนจะนำทุกอย่างมาประกอบเข้าในสำนวนคดี พร้อมยืนยันว่าตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ได้ถูกขนย้ายออกไปไหนแน่นอน เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สอดส่อง และดูแลอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย หลังก่อนหน้านี้มีการจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มชาวจีนที่ได้ลักลอบเข้าไปขนเอกสารออกมาแล้ว

ในประเด็นที่ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ได้เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ และได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับบริษัท PKW เรื่องของการใช้ชื่อบุคคล ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องหรือการปลอมแปลงรายชื่อในชิ้นงานที่แก้ไข และเสนอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่นั้น ได้มีการประสานไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่แล้ว อยู่ระหว่างการรอต้นฉบับตัวจริงส่งกลับมา แต่เบื้องต้นก็ได้รับเอกสารมาบางส่วน

ขณะที่ในส่วนของประเด็นคืบหน้าการสอบสวนการปลอมแปลงลายเซ็นของวิศวกรในการแก้แบบก่อสร้างปล่องลิฟท์นั้น คณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW ไปครบถ้วนแล้ว ไม่มีอะไรต้องสอบปากคำเพิ่มเติม เหลือเพียงนำเอกสารมาเทียบเคียง และส่งให้กับทางสภาวิศวกรแห่งประเทศไทยตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่นายพิมล มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการออกแบบตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่นั้น ได้เข้ามาให้การกับตำรวจเมื่อวันที่ 22 เมษายนแล้ว เบื้องต้นพบความเกี่ยวข้องในฐานะที่ปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ และได้ค่าจ้างเพียงงวดเดียว ส่วนการดำเนินการเป็นของวิศวกรเป็นหลัก

สำหรับเอกสารในการแก้แบบที่ดีเอสไอพบความผิดปกติ ในการแก้แบบครั้งที่ 4 และครั้งที่ 6 นั้น คณะพนักงานสอบสวนจะต้องเร่งติดตามเอกสารชุดนี้ มาประกอบการพิจารณา แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการแก้แบบที่ปล่องลิฟท์ ซึ่งเป็นเอกสารชุดที่นายสมเกียรติ อ้างว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็นในการเซ็นรับรองเอกสารดังกล่าว

นอกจากนี้ประเด็นของนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พีเอ็นซิงค์โครไนซ์ จำกัด 1 ในกิจการร่วมค้า PKW ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ จ้างควบคุมงานก่อสร้างนั้น ทราบว่า เจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ส่วนรายละเอียดเรื่องการนำเอกสารมาให้กับพนักงานสอบสวนนั้น ขอให้อยู่ในสำนวนคดี

อย่างไรก็ตามการเก็บพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นเศษปูน เศษเหล็กในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้มีการส่งไปตรวจแล้ว 2 ล็อต แต่ผลยังไม่ออก และขณะนี้อยู่ระหว่างส่งไปตรวจเพิ่มในล็อตที่ 3

ทั้งนี้เรื่องของการออกหมายจับหรือหมายเรียกนั้น ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ดีเอสไอ จะมีการเรียกสอบปากคำวิศวกรทั้งหมด 40 คน โดยจะเริ่มทยอยสอบปากคำในพรุ่งนี้ เป็นต้นไป ซึ่งทางคณะพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ จะเข้าไปร่วมสอบปากคำด้วย

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...