โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คนขับซูเปอร์คาร์ให้ปากคำ ยันไม่ได้เมา หากผิดพร้อมเยียวยา

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 23 เม.ย. เวลา 20.38 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. เวลา 10.15 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

สน.ธรรมศาลา 23 เม.ย. – คนขับซูเปอร์คาร์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันไม่ได้เมา ด้านพ่อทำใจรถ 34 ล้านบาท เหลือแต่ซาก ย้ำหากลูกผิด พร้อมเยียวยาคู่กรณีเต็มที่

นายเฟียส อายุ 23 ปี คนขับรถเฟอร์รารี่ พร้อมด้วยแฟนสาวและพ่อ ได้เดินทางมายัง สน.ธรรมศาลา เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์รถเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ และรถกระบะ ขับพุ่งชนกันจนทำให้รถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์ไฟไหม้เสียหายทั้งคัน

พ่อของน้องเฟียส เป็นตัวแทนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้น้องยังมีอาการตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ น้องได้ขับรถกลับจากส่งแฟนสาวย่านศาลายาและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านแถวพุทธมณฑล สาย 2 แล้วประสบอุบัติเหตุ จึงได้รีบโทรแจ้งให้ตนมาที่เกิดเหตุทันที

เมื่อตอนมาถึง พบว่าตัวน้องมีอาการแน่นหน้าอกและตกใจกลัว พร้อมเล่าให้ฟังว่า ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุ ลูกชายขับอยู่เลนขวาสุด กลับถูกรถกระบะตู้ทึบขับในเชิงปาดหน้าขึ้นมา ลูกจึงพยายามเบรครถด้วยความตกใจ แต่ดันเสียหลักไปพุ่งชนท้ายรถกระบะแล้วเสียหลักหมุนไปชนกับรถเบนซ์ที่ตามหลังมา เป็นเหตุให้ศีรษะและหน้าอกกระแทกกับพวงมาลัย

ปรากฏว่ารถเบนซ์มาทับบนหลังคารถเฟอร์รารี่ของลูกชาย ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ลูกชายได้พยายามออกมาจากรถ โดยมีพลเมืองดีให้การช่วยเหลือ หลังจากนั้นตนจึงได้รีบพาลูกชายไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ โดยลูกชายไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรุนแรงที่อวัยวะภายใน ส่วนอาการแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกอาจเกิดจากภาวะตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อในคำพูดของลูกชายทั้งหมดและไม่ตัดสินว่าใครเป็นคนผิดเป็นคนถูก แม้ว่าในที่เกิดเหตุตนจะเห็นรอยเบรครถของลูกชายบนกลางถนนเลนขวา แต่ตนขอรอพยานหลักฐานและการสอบสวนจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะภาพวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ชี้ชัดว่าใครเป็นคนผิดเป็นคนถูก

ทั้งนี้ ไม่ว่าตำรวจจะชี้ชัดว่าฝ่ายตนเองจะผิดหรือถูกก็ตาม ตนก็พร้อมยินดีที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยารถกระบะและรถเบนซ์ทั้งตามกฎหมายและตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะถ้าทั้งสองฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนก็พร้อมพูดคุยและให้การช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามกรณีนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากฝั่งลูกชายตนเองที่บาดเจ็บ

ในส่วนคู่กรณีนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้พบเจอกับฝ่ายรถกระบะที่ สน.ธรรมศาลา ซึ่งฝั่งรถกระบะอ้างว่าเขาขับรถมาตามปกติแล้วถูกชนด้านท้าย เมื่อตนสอบถามเรื่องของการขับรถปาดหน้า ฝั่งกระบะก็ยืนยันว่าไม่มีการขับปาดหน้าแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นนี้ก็คงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน แต่โดยภาพรวมการพูดคุยกับฝ่ายกระบะเป็นไปได้ด้วยดีและไม่ได้มีการโต้เถียงอะไรกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องรอความชัดเจนจากทางตำรวจ แต่ทางฝั่งรถเบนซ์นั้น ตนยังไม่พบและยังไม่ได้ติดต่อแต่อย่างใด

สำหรับรถเฟอร์รารี่นั้น เป็นรถของครอบครัวซื้อมาได้ประมาณ 1 ปี ในราคาประมาณ 34 ล้านบาท ซึ่งโชคดีที่มีประกันภัยชั้น 1 ทางครอบครัวจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะมองว่าเป็นเพียงแค่ทรัพย์สินนอกกาย ปัจจัยสำคัญที่สุดคือชีวิตของคนมากกว่า แต่มีเพียงลูกชายที่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปกติแล้วพฤติกรรมการขับรถของลูกชายอยู่ในสายตาของตนโดยตลอด ตนมักจะไม่ให้ลูกชายขับรถไปไหนมาไหน เว้นแต่ไปทำธุระส่วนตัวถ้าจำเป็นและตนก็ตักเตือนลูกตลอดทุกครั้งว่า อย่าขับรถเร็ว เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องคอยตักเตือนลูกในเรื่องการขับรถ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ลูกเคยมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบ้างเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องปกติของคนขับรถทั่วไป สำหรับรถเฟอร์รารี่คันนี้ ลูกไม่เคยขับรถไปเกิดอุบัติเหตุเลยจนกระทั่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนเรื่องดื่มสุราขณะขับรถนั้น ยืนยันว่าลูกชายไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว หากลูกดื่มสุราลูกจะไม่ขับรถ เมื่อคืนนี้ลูกก็ไม่ได้ดื่มสุราแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันฝ่ายคนขับรถเบนซ์และรถกระบะที่เป็นคู่กรณีในเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างเดินทางมาที่ สน.ธรรมศาลา เพื่อพูดคุยเจรจาเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน.-415- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...