โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘ปชน.’ พร้อมอภิปรายงบฯ 69 ชี้ไม่ตอบโจทย์อนาคต เชื่อ ‘เพื่อไทย’ ไม่กล้าเร่งถกสถาบันเทิงครบวงจร

The Reporters

อัพเดต 23 เม.ย. เวลา 05.56 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. เวลา 05.56 น.

วันนี้ (23 เม.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของพรรค สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ เรียบร้อยแล้ว โดยมีการแบ่งหน้าที่และมอบหมายประเด็นอภิปรายให้ สส. แต่ละคน ซึ่งมี นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ เป็นผู้ดูแลเนื้อหาหลัก ทำให้พรรคมั่นใจว่าจะสามารถอภิปรายและเสนอข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ ว่างบประมาณปี 2569 ควรจัดสรรอย่างไรให้ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศมากที่สุด

ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่า การอภิปรายของพรรคจะไม่ได้มุ่งเน้นเพียงงบประมาณโครงการใดโครงการหนึ่ง เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะชี้ให้เห็นภาพรวมว่าการจัดสรรงบประมาณในปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์อนาคตของประเทศได้ ท่ามกลางบริบทโลกและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพรรคจะนำเสนอแนวทางใหม่ๆ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจและการเกษตร ซึ่งเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรรอคำตอบว่ารัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร

ส่วนที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า หากในการประชุมสมัยวิสามัญ พิจารณางบประมาณฯ ปี 2569 รวมถึงร่าง พ.ร.ก. 2 ฉบับเสร็จสิ้นแล้ว ยังสามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อได้นั้น น่าจะยังเร็วเกินไป เพราะผลการศึกษาเรื่องความเสี่ยง ทั้งเรื่องการฟอกเงิน และการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมถึงปัญหาที่จะตามมาอย่างการติดการพนัน น่าจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่านี้ในการศึกษาอย่างรอบด้าน จึงเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรหยิบขึ้นมาพิจารณา แม้รัฐบาลจะถือเสียงข้างมาก แต่ความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลในเรื่องนี้ยังแตกต่างกันอยู่ คิดว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมีบทเรียนที่จะพยายามผลักดันเข้าสภาฯ แต่สุดท้ายพรรคร่วมไม่เห็นด้วย จึงไม่ควรจะรีบเร่งจนเกินไป