โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

‘ร่องรอยดิจิทัล’ เรื่องต้องรู้ ของคนชีวิตติดออนไลน์!!

เดลินิวส์

อัพเดต 30 มี.ค. เวลา 12.06 น. • เผยแพร่ 30 มี.ค. เวลา 05.06 น. • เดลินิวส์
‘ร่องรอยดิจิทัล’ เรื่องต้องรู้ ของคนชีวิตติดออนไลน์!!
ในโลกดิจิทัลทุกวันนี้ ที่ผู้คนใช้ชีวิต “ติดออนไลน์” ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตถึงเกือบ 10 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อเเรียน ทำงาน หรือ ความบันเทิง

ในโลกดิจิทัลทุกวันนี้ ที่ผู้คนใช้ชีวิต “ติดออนไลน์” ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตถึงเกือบ 10 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะใช้เพื่อเเรียน ทำงาน หรือ ความบันเทิง โดนเฉพาะ ท่องโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง

การใช้งานเหล่านี้ ล้วนทิ้ง ‘ร่องรอยดิจิทัล’ หรือ ‘รอยเท้าดิจิทัล’ (Digital Footprint) ไว้ ซึ่งร่องรอยดิจิทัล เกิดขึ้นจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านอุปกรร์ต่าง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกบันทึกไว้และสามารถติดตามย้อนกลับได้ ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

อาทิเช่น การใช้งาน เพื่อ อัปโหลดข้อมูลส่วนตัว ไฟล์งาน รูปภาพ การเข้าดูเว็บไซต์ต่างๆ กดไลก์ โพสต์ข้อความ แชร์รูปภาพ เป็นต้น การกระทำเหล่านี้ได้กลายเป็น 'ร่องรอยดิจิทัล' ที่ได้บ่งบอก ถึงพฤติกรรมการใช้งานโลกดิจิทัล ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ

ประเภทของร่องรอยดิจิทัล

ข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า ระบุว่า เราสามารถแบ่ง “ร่องรอยดิจิทัล” ออกเป็น2 ประเภทหลัก ๆ คือ

1.ร่องรอยดิจิทัลแบบไม่ตั้งใจ (Passive Digital Footprint) คือ ร่องรอยที่มีการเก็บโดยอัตโนมัติจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โดยอาจไม่เปิดเผยข้อมูลโดยตรงแต่อาจถูกนำไปใช้ในทางการตลาด เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ (Browsing History) ,ประวัติการค้นหา (Search History) ,บันทึกคำค้นหาที่เราเคยใช้ ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน เช่น เวลาที่ใช้ ความถี่ในการใช้งาน ,Cookies คุกกี้หรือไฟล์ขนาดเล็กที่เว็บไซต์เก็บไว้ในอุปกรณ์ของเรา เพื่อจดจำข้อมูลการใช้งานและปรับแต่งประสบการณ์ใช้งาน และIP Address หรือ หมายเลขของอุปกรณ์ที่เราใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

2.ร่องรอยดิจิทัลแบบตั้งใจ (Active Digital Footprint) คือ ข้อมูลที่เราจงใจสร้างและเผยแพร่บนโลกออนไลน์ด้วยตัวเอง โดยตั้งใจให้คนอื่นเห็นหรือเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ เช่น การโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะข้อความ รูปภาพ วิดีโอ การแสดงความคิดเห็น หรือรีวิวสินค้า/บริการ บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีเมลที่เราส่งให้ผู้อื่น และโปรไฟล์ออนไลน์ ทั้งข้อมูลส่วนตัวและประวัติที่เราสร้างขึ้นบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงการสมัครสมาชิกเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลส่วนตัวของเราเพื่อสมัคร

ตระหนักถึงความสำคัญ

จะเห็นได้ว่าเมื่อเราใช้งานเน็ตท่องโลกออนไลน์ ล้วนแล้วแต่มีการทิ้ง “ร่องรอยดิจิทัล” จึงต้องตระหนักถึงความสำคัญทำให้เข้าใจ พร้อมรับมือและจัดการกับร่องรอยดิจิทัลได้อย่างถูกวิธียิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่เราโพสต์วันนี้ อาจมีผลต่อชีวิตของเราในวันข้างหน้าได้ ข้อมูลจากเอ็ตด้า ระบุว่า “ร่องรอยดิจิทัล” อาจจะมีผลกระทบต่อชีวิตเราได้ในหลายๆ ด้าน อาทิเช่น

“การหางาน” โดย นายจ้างในยุคนี้มักจะค้นหาชื่อของผู้สมัครงานบน Google ก่อนเรียกสัมภาษณ์? หากเรา มี ร่องรอยดิจิทัลที่ไม่เหมาะสม เช่น โพสต์แสดงความเกลียดชัง รูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือความคิดเห็นเชิงลบ อาจส่งผลเสียต่อโอกาสในการได้งานของคุณ

ส่วนในเรื่อง “การศึกษา”มหาวิทยาลัยหรือสถาบันต่าง ๆ อาจตรวจสอบร่องรอยดิจิทัลของผู้สมัครทุนการศึกษา โพสต์ที่แสดงถึงทัศนคติที่ไม่ดี อาจทำให้เราพลาดโอกาสสำคัญ

ส่วนเรื่อง “ความสัมพันธ์” ต้องตระหนักว่าโพสต์เก่าๆ ที่เราลืมไปแล้ว อาจกลับมาทำร้ายความสัมพันธ์ส่วนตัวได้อย่างไม่คาดคิด เช่น การถูกขุดโพสต์ในอดีตขึ้นมา

และประเด็นที่สำคัญ คือ “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว” เพราะหากเรามีการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปบนโลกดิจิทัล อาจทำให้เราตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ ถูกขโมยข้อมูล (Identity Theft) หรือถูกคุกคามทางไซเบอร์ (Cyberbullying) ได้ ทั้งหมด ที่กล่าวมา ถือเป็นเรื่องที่อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเราได้

อย่างไรก็ตามในทางกลับกลับ ร่องรอยดิจิทัล ก็อาจส่งผลดี หากใช้อย่างฉลาดและถูกวิธี ก็สามารถสร้างโอกาสมากมาย เช่น การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล ด้วยการสร้างร่องรอยดิจิทัล ด้านการเงินการลงทุนผ่าน แชร์บทความวิเคราะห์การลงทุนที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ สร้างเครือข่ายในวงการการเงิน และได้รับโอกาสเป็นวิทยากรและที่ปรึกษาการลงทุน หรือ การสร้างธุรกิจออนไลน์ ผ่านการรีวิวร้านอาหารจนกลายเป็นอาชีพ จนสามารถสร้างรายได้หลักจากการรีวิว เป็นต้น

วีธีจัดการร่องรอยดิจิทัล

เอ็ตต้าแนะนำวิธีสร้างและจัดการร่องรอยที่จะเป็นเรื่องบวกต่อชีวิตติดออนไลน์ของเรา โดย เริ่มต้นง่าย ๆ ดังนี้

1.คิดก่อนคลิก ถามตัวเองก่อนโพสต์ว่า "สิ่งนี้จำเป็นไหม?" "ถ้าคนอื่นมาเห็นจะส่งผลกระทบอะไรกับฉันในอนาคต?" "ฉันจะรู้สึกอย่างไรถ้าข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ?"

2.ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ตรวจสอบและตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในทุกแพลตฟอร์มอย่างรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทุกอย่างสู่สาธารณะ

3.ทำความสะอาดร่องรอย ลบประวัติการค้นหาและคุกกี้เป็นประจำ รวมทั้งค้นหาชื่อตัวเองบน Google อยู่เสมอ เพื่อลบบัญชีที่ไม่ใช้งานแล้ว แก้ไข หรือลบข้อมูลที่ไม่ต้องการให้ปรากฏ

4.เครื่องมือช่วยจัดการ พิจารณาใช้เครื่องมือหรือบริการที่ช่วยจัดการข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ เช่น Google Alerts ที่แจ้งเตือนเมื่อมีการกล่าวถึงชื่อคุณ หรือ BrandYourself ที่ช่วยจัดการชื่อเสียงออนไลน์ รวมทั้งใช้ VPN ในกรณีต้องใช้ Wi-Fi สาธารณะ เมื่อต้องการเช้าถึงข้อมูลส่วนตัว เนื่องจาก VPN ช่วยให้บุคคลที่ 3 เข้าถึงหรือติดตามกิจกรรมออนไลน์ของเราได้ยากขึ้นและหมายเลข IP ที่แท้จริงจะถูกปิดบังไว้

5.คิดระยะยาว สร้างร่อยรอยดิจิทัลที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่คุณต้องการสร้างในระยะยาว มุ่งเน้นการโพสต์เนื้อหาที่เป็นประโยชน์ สร้างสรรค์ และสะท้อนตัวตนในแง่บวก

6.ตระหนักถึง PDPA ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) เพื่อให้รู้สิทธิและหน้าที่ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา

เราสามารถเรียนรู้ที่จะสร้างร่องรอยดิจิทัลที่เป็นประโยชน์กับตัวเราได้ แล้วเราจะใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยยิ่งขึ้น!!

จิราวัฒน์ จารุพันธ์