โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ตลท. เมิน “ห้ามชอร์ตเซล” เล็งยกระดับใช้เอไอตรวจจับความผิดปกติ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 08 พ.ย. 2566 เวลา 10.17 น. • เผยแพร่ 08 พ.ย. 2566 เวลา 10.17 น.

“ภากร” ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย เมินใช้มาตรการห้ามทำธุรกรรมขายชอร์ตเซลหุ้นไทย เหมือนกับตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ชี้ติดตามข้อมูลทุกทรานแซกชั่นทั้ง “ชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรดดิ้ง” ยังไม่พบความผิดปกติ เล็งยกระดับใช้เอไอตรวจจับความผิดปกติ นำข้อมูลเปิดเผยให้นักลงทุนใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อใช้วิเคราะห์ในการตัดสินใจ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะกรรมการด้านบริการการเงินของเกาหลีใต้ (FSC) ออกมาตรการห้ามทำการขายชอร์ตหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี KOSPI 200 Index และดัชนี KOSDAQ 150 Index ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.2566 ไปจนถึงเดือน มิ.ย.2567

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่มีเหตุผลจะใช้มาตรการห้ามขายชอร์ตเซลเหมือนกับตลาดหุ้นเกาหลีใต้ โดยมองว่าการจะปรับกลไก (mechanism) เรื่องการชอร์ตเซล หรือโปรแกรมเทรดดิ้ง รวมทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นด้วยความถี่สูง (High Frequency Trading: HFT) จะใช้ความเชื่อไม่ได้

จะต้องพิจารณาตามข้อมูลเป็นสำคัญว่าส่อให้เห็นพฤติกรรมที่คิดว่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน หรือส่งผลให้ตลาดมีความบิดเบือนไปจากความเป็นจริงหรือไม่

ทั้งนี้ต้องเน้นว่าการศึกษาเรื่องเหล่านี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯดำเนินการอยู่ตลอด และไม่ได้ดำเนินการเพียงผู้เดียว แต่ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยนำข้อมูลมาแปรียบเทียบกันอยู่เสมอ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยังไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้

“เรามีการดูข้อมูลทุกวันและทุกทรานแซกชั่น และมีการสอบถามสมาชิกบริษัทหลักทรัพย์ ประเมินพฤติกรรมของนักลงทุน ตัวอย่างแสดงให้เห็นชัดเจนอย่างเรื่องการชอร์ตเซล ที่มักจะพูดว่ามี Naked Short Sell จากต่างประเทศ

แต่จากข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีเพียง 1-2 เคสเท่านั้น แต่ปีนี้ยังไม่พบการกระทำผิด ซึ่งการทำ Naked Short Sellเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และขอย้ำว่าเราติดตามดูอยู่ตลอดเวลา และจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน” นายภากรกล่าว

ส่วนโปรแกรมเทรดดิ้งในปัจจุบันก็มีสัดส่วนต่อมูลค่าการซื้อขายประมาณกว่า 30% ของมูลค่าการซื้อขาย โดยสัดส่วนของ HFT มีสัดส่วนประมาณ 10% ซึ่งมีการตรวจสอบดูแลตลอด ยังไม่พบความผิดปกติ จึงอยากให้มั่นใจเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างจุลภาคของตลาดหลักทรัพย์ เพราะให้ความสำคัญมาก

“ที่ผ่านเราสิ่งที่เราทำคือตรวจจับ (detection) เคสต่าง ๆ ให้ได้เพื่อฟ้องร้อง ในอนาคตเราจะทำยิ่งกว่านั้นคือใช้เอไอ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาและให้ข้อมูลกับนักลงทุนอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เช่น ตอนนี้หุ้นที่ชอร์ตมากสุดคือหุ้นอะไรใน 10 ชื่อแรก

ตอนนี้โปรแกรมเทรดดิ้ง 10 หุ้นมากสุด แต่จะไม่เป็นการบอกว่าทำผิด แต่เปิดเผยให้เห็นว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น นักลงทุนควรระวัง เพื่อวิเคราะห์ในการตัดสินใจ” ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...