เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3(ผบก.น.3) พ.ต.อ นพรัตน์ สินมา รอง ผบก น.3 พ.ต.อ.ดร.พรเทพ สูติปัญญา รอง ผบก น.3 พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า ผกก.สน.ลำหิน พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี, พ.ต.ท.บำเพ็ญ นามฉวี สว.สส.สน.ลำหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุม นายพีระพัฒน์ หรือบิน เกตุสุวรรณ์ อายุ 35 ปี นายชัยวัฒน์ หรือตี๋ เซิงเจ๋ อายุ 35 ปี และนายปรานพ หรือมาน เกตุมณี อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 1กญ – 8965 ราชบุรี ทะเบียน ฬธล – 913 กรุงเทพมหานคร และ ทะเบียน ฬฉฬ – 873 กรุงเทพมหานคร บัตรห้อยคอ มีตัวหนังเสือเขียนด้านหน้า ตำรวจนครบาล ภายในมีบัตรประจำตัวอาสาสมัครตำรวจบ้าน ระบุชื่อนายพงษ์สันต์ รุงสุข และหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ 1 ใบ
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่่ผ่านมาผู้เสียหายสัญชาติอินเดีย แจ้งความว่าถูกนายพีระพัฒน์ กับพวกอ้างตัวเป็นตำรวจและร่วมกันปล้นทัพย์เอารถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 3กฒ 6468 กทม. หลบหนีไป ต่อมาวันที่ 6 พฤศจิกายน ผู้เสียหายสัญชาติ อินเดีย แจ้งตำรวจ สน.มีนบุรี ว่าถูกคนร้าย 3 คน ร่วมกันปล้นทรัพย์เอารถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 1กญ – 8965 ราชบุรี และวันที่ 8 ธันวาคม ผู้เสียหายชาวต่างชาติ แจ้งว่าถูกคนร้ายชิงทรัพย์ เอารถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 9 กผ – 6322 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป
ผบก.น.3 กล่าวอีกว่าชุดจับกุมสืบสวนทราบว่าคดีดังกล่าวน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มนายพีระพัฒน์ เป็นผู้ก่อเหตุ จึงสืบสวนติดตามตัวนายพีระพัฒน์ พร้อมพวกต่อมาชุดจับกุมติดตามตัวไปบ้านเลขที่ 148/1031 ซอยราคำแหง 190 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พบนายพีระพัฒน์ ขณะนั้นมีนายปรานพ ขับขี่รถจักรยายนต์ฮอนด้าทะเบียน ฬธล – 913 กรุงเทพมหานคร ใช้ก่อเหตุ มาจอดบริเวณหน้าบ้านพักนายพีระพัฒน์ จึงสอบถามรับสารภาพว่าร่วมกับนายชัยวัฒน์ จึงจับกุม โดยก่อนก่อเหตุนายชัยวัฒน์ อ้างตัวว่าเป็นตำรวจและนายปรานพ ลงไปถีบรถจักรยานยนต์คันที่ผู้เสียหายขับขี่อยู่ล้มลง โดยนายปรานพ ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ดังกล่าวจริง และก่อนหน้าเคยก่อเหตุท้องที่ สน. มีนบุรี 3 คดีสน. ลำหิน 4 คดี สน. หนองจอก 1คดีและสน. ลาดพร้าว 1 คดี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
