โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ลบหลู่หรือส่งเสริม? เห็นด้วยหรือไม่ เมื่อ 'ของขลัง' ถูกนำมาแปรรูป

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 28 เม.ย. 2564 เวลา 17.12 น. • AJ.
ภาพโดย wirestock / www.freepik.com
ภาพโดย wirestock / www.freepik.com

เพิ่งเป็นประเด็นร้อนไปหมาดๆ สำหรับ 'ขนมอาลัวพระเครื่อง' ขนมจากร้านขายขนมแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ตัวขนมมีรูปร่างเหมือนพระเครื่องสมชื่อ เมื่อทำออกมาวางจำหน่าย ปรากฏว่ามีผู้สนใจสั่งซื้อจำนวนมาก หลายคนชื่นชมในความสร้างสรรค์ของเจ้าของร้าน กลายเป็นกระแสแชร์ต่อๆ กันโลกอินเทอร์เน็ตถึงความแปลกใหม่และโดดเด่นของขนมอาลัวเจ้านี้

แต่ไม่นานหลังจากเป็นไวรัล ก็มีกระแสตีกลับว่าขนมในลักษณะนี้ไม่เหมาะสม ชาวพุทธหลายคนบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบาป ที่จะเกิดกับคนทำ และคนกิน

สวัสดีค่ะ🙏😊 ขออนุญาติตอบรวมๆตรงนี้ก่อนนะคะ​ เดี๋ยวจะไปรับออเด้อในข้อความอีกที #อาลัวพระเครื่อง กล่องละ100.-…

Posted by มาดามชุบ on Tuesday, April 27, 2021

ขอบเขต - ของขลัง

ประเด็นความอ่อนไหวของพุทธศาสนามีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะในหมู่ชาวพุทธ ก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่รู้สึก 'รับได้' เมื่อเห็น 'สิ่งศักดิ์สิทธิ์' ทั้งหลายถูกนำมาแปรรูป ด้วยแนวคิดว่าคำสอนและแก่นแท้ของศาสนาสิที่สำคัญ เครื่องรางของขลังต่างๆ เป็นเพียงสิ่งสมมติไม่ใช่หรือ กลับกันในหมู่ชาวพุทธที่รู้สึก 'สะเทือนใจ' ก็ให้เหตุผลว่าศาสนาเป็นของสูง ต้องเคารพ รวมถึงจำเป็นต้องช่วยกันทำนุบำรุงสืบไป

เราจึงรวบรวมตัวอย่างกรณีที่มีความ 'หมิ่นเหม่ทางศีลธรรม' แบบที่แม้จะเป็นชาวพุทธที่ไม่เคร่งมาก (อย่างเรา) ก็ยังแอบขบคิดว่าการกระทำเหล่านี้ ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สังคมมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง?

ฟิลเตอร์ 'เศียรพระพุทธรูป' บนอินสตาแกรม

ย้อนไปราว 2-3 ปีที่แล้ว อินสตาแกรม (Instagram) ออกฟีเจอร์ใหม่ที่เราสามารถใช้กล้องของแอปฯ ถ่ายหน้าของเราโดยแอปฯ จะใช้ระบบ AR คำนวณนำรูปภาพต่างๆ มาแทนใบหน้าเราได้ หนึ่งในฟิลเตอร์ที่คนมากมายเอามาถ่ายภาพคือฟิลเตอร์ 'พระพุทธรูป' ที่เปลี่ยนใบหน้าเราให้กลายเป็นพระพุทธรูป โดยศิลปินที่สร้างฟิลเตอร์ดังกล่าว ปฏิเสธที่จะลบผลงานตามคำขอของชาวพุทธที่เข้าไปทักท้วง ประเด็นฟิลเตอร์นี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นในหมู่ชาวไทย แต่กลับได้รับความนิยมมากๆ ในกลุ่มวัยรุ่น

View this post on Instagram

A post shared by Junji Suzuki (@bma_japan)

เสื้อ Supreme คอลเล็กชัน 'หลวงพ่อคูณ'

ซูพรีม (Supreme) แบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์จากนิวยอร์ก ออกคอลเล็กชันใหม่ประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิปี 2021 เป็นเสื้อแจ็กเกตพิมพ์ 'ยันต์หลวงพ่อคูณ' อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ตรงกลางหลัง สำหรับแบรนด์ซูพรีม สายแฟชั่นต่างรู้กันว่าไม่ว่าจะผลิตสินค้าใดออกมา ก็เป็นอันฮ็อตฮิตติดตลาด หรือไม่ก็เป็นไวรัลโด่งดังในความจัดจ้านเสมอ ส่วนประเด็น 'ยันต์หลวงพ่อคูณ' ก็มีชาวพุทธจำนวนหนึ่งออกมาท้วงติง แต่ที่ยังมีข้อกังขาคือในด้านกฎหมาย เพราะทางวัดบ้านไร่ได้ออกมาชี้แจงว่าแบรนด์ซูพรีมไม่ได้มาขอลิขสิทธิ์ไปใช้ในเชิงธุรกิจแต่อย่างใด

เสื้อคอลเล็กชั่น “Blessings Ripstop Shirt” จาก Supreme
เสื้อคอลเล็กชั่น “Blessings Ripstop Shirt” จาก Supreme

ดรามาการ์ตูนเรื่อง 'Saint Young Men เมื่อศาสดาขอลาพักร้อน'

การ์ตูนเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับศาสดาทั้งสองคือ พระเยซู และ พระพุทธเจ้า ที่ลงมาใช้ชีวิตธรรมดาๆ บนโลกมนุษย์ โดยสอดแทรกมุกตลก และเรื่องราวจากพระคัมภีร์ รวมถึงพุทธประวัติอย่างเนียนๆ อย่างไรก็ตามการ์ตูนเรื่องนี้ 'ไม่ใช่' การ์ตูนความรู้ แต่สร้างออกมาในเชิง 'การ์ตูนแก๊ก' มากกว่า เมื่อชาวพุทธไทย (ส่วนหนึ่ง) ทราบเรื่องก็ต่อต้านอย่างหนัก และมีการร้องเรียนไปยังกระทรวงสารสนเทศ รวมถึงกระทรวงต่างประเทศให้จัดการกับการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต กรุงโตเกียว ก็ได้แจ้งกลับมาว่าการ์ตูนเรื่องดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างสูง และไม่มีกระแสต่อต้านจากชาวญี่ปุ่น

ภาพจากการ์ตูนเรื่อง Saint Young Men
ภาพจากการ์ตูนเรื่อง Saint Young Men

แต่ประเด็นนี้อาจจะแตกต่างจากบริบทความเป็นพุทธไทยอยู่บ้าง เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนับถือพุทธนิกายมหายาน ซึ่งพระสงฆ์จะใช้ชีวิตลักษณะเดียวกับฆราวาสในหลายด้าน และรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นเองก็ให้อิสระทางความคิดและการแสดงออกในเชิงศาสนาอย่างเต็มที่

ยังมีสินค้า และงานศิลปะ จำนวนมากที่ถูกผลิตออกมาในเชิง 'เลียนแบบ' เหล่าของขลังและมีลักษณะใกล้เคียงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งรูปปั้น รูปหล่อ ไปจนถึงรอยสัก ผ้าห่ม รองเท้า ซึ่งทุกครั้งที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกแชร์ หรือเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ต ก็เกิดปรากฏการณ์ 'ชาวเน็ตไม่ปลื้ม' และมักมีดรามาถกเถียงระหว่างชาวพุทธด้วยกันตามมาเสมอ อย่างในกรณี 'ขนมอาลัว' ที่กำลังเกิดขึ้นก็เช่นกัน

'อาลัวพระเครื่อง' เรื่องถกเถียงว่าบาป-ไม่บาป?

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่าขนมอาลัวเป็นสิ่งไม่เหมาะสม และไม่สมควรนำมาทำเป็นรูปพระเครื่อง พร้อมเตรียมทำหนังสือชี้แจงร้านขนมเจ้าของอาลัว ให้เหตุผลว่ารูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล และเครื่องสักการบูชา

เช่นเดียวกับ นางสุชาดา หิรัญภัทรานันท์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม เห็นตรงกับนายณรงค์ ว่าการนำพระเครื่องไปทำเป็นขนมไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำว่าถ้าจะทำ อาจเลือกอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น ปู กุ้ง มาครีเอตแทน ทั้งยังชี้ว่าหากขนมเสียและนำไปทิ้ง อาจมีสัตว์มากัดกิน ซึ่งยิ่งไม่เหมาะสม

ด้าน พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วัดป่าดอยแสงธรรมฐาณสัมปันโน ให้ความเห็นผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก สรุปความว่าไม่เหมาะสม เพราะพระพุทธรูปนับเป็นวัตถุมงคลที่ชาวพุทธเคารพนับถือ หากนำไปทำอาหารสำหรับเคี้ยวกิน ถือเป็นการกระทำมิบังควร แสดงถึงความไม่เคารพ และเป็นบาป

ถามว่า ทำขนมแบบนี้ขาย จะเป็นบาปไหม? แล้วคนที่ซื้อไปกินจะบาปไหม? . คำตอบ : ก็ต้องดูที่เจตนาของการทำ…

Posted by พระครูนิรมิตวิทยากร สุวพานนท์ on Wednesday, April 28, 2021

ด้านตัวแทนพระพุทธศาสนาอีกท่าน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ คิดต่างโดยตั้งคำถามว่าสำนักงานพุทธฯ มองว่าขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่ไม่ชี้แจงว่า 'ไอ้ไข่' ที่อยู่ในวัดแต่คนพากันไปจุดประทัดบูชานั้นเหมาะสมหรือไม่ ก่อนกล่าวถึงกรณีการบูชาราหู บูชาพญานาค การลงนะหน้าทอง รวมถึงการครอบครู (ในวัดดังๆ) ว่าเหมาะสมหรือไม่

ล่าสุดร้านขนมเจ้าของเรื่องออกมาชี้แจงว่าที่ทำไปเป็นเพียงการค้าขาย มีเจตนาดีและไม่ได้ต้องการความโด่งดัง ไม่ได้หวังกำไร แต่ทำเท่าที่มีกำลัง และอยากให้ทุกคนสนใจที่ฝืมือและความใส่ใจในกระบวนการทำของเธอมากกว่า พร้อมประกาศปิดรับออเดอร์ชั่วคราวไปแล้ว

และเมื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวเน็ต ก็พบว่ามีส่วนหนึ่งที่มองว่าการนำ 'สิ่งศักดิ์สิทธิ์' มาแปรรูป นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ศาสนาดูเป็นเรื่อง 'ใกล้ตัว' และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำส่งเสริมให้ศาสนาอยู่คู่กับสังคมอย่างเป็นมิตรสืบไป

แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับ 'ของขลังแปรรูป'?

หมายเหตุ : โปรดใช้ความระมัดระวังในการคอมเมนต์ และหลีกเลี่ยงคำหยาบคาย รวมถึงถ้อยคำโจมตีศาสนาหรือผู้เห็นต่าง (Hate Speech)

อ้างอิง :

prachachat.net

vogue.co.th

FB Page : พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช, พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ, มาดามชุบ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 344

  • คุณชาญ
    พระเครื่องหรือพระพุทธรูปไม่ใช่ของขลัง การร่ำลือถึงพุทธคุณถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ถ้าคุณนำของขลังเช่นปลัดขิกหรืออะไรแนวๆนี้ไปแปรรูปก็คงไม่มีใครว่า แต่การนำรูปเคารพของพระพุทธเจ้าที่เป็นสิ่งเคารพบูชาของชาวพุทธฝ่ายหนึ่งไปทำในสิ่งไม่สมควรถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ชาวพุทธฝ่ายที่คิดว่าจะยึดมั่นเฉพาะพระธรรมไม่เคารพบูชาพระพุทธรูปรวมทั้งคนที่ไม่มีศาสนาที่ไม่เคารพสิ่งใดเลยนั้นถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ไม่มีสิทธิมาข้องเกี่ยวหรือนำรูปเคารพที่ผู้อื่นเคารพบูชาไปทำสิ่งไม่เหมาะสมหรือหาประโยชน์ใส่ตัวแบบนี้นะครับ
    28 เม.ย. 2564 เวลา 18.15 น.
  • su
    คริสต์เผยแพร่ศาสนา โดยใช้สัญลักษณ์กางเขน การเสียสละชีวิตของพระเยซู และความเจริญทางการแพทย์ช่วยมนุษย์ อิสลาม ก็เผยแพร่ โดยความจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ ผู้ชายสามารถมีภรรยาได้ 4 คนเพื่อให้ศาสนาเขามั่นคง ไปดาวะ ไปละหมาดวันล่ะ 5 เวลา ตื่นตี 4 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่คนพุทธเอามาทำขนมเป็นของกิน ทำห้อยคอบูชา บอกว่าไม่ดี แต่เอามาทำขนมกินบอกว่าดี ไม่มีคนในศาสดาใด เขาทำลายหรือหลบลู่ศาสนาตัวเอง ได้เท่ากับ คนพุทธเทียม
    28 เม.ย. 2564 เวลา 18.35 น.
  • Nirvana 🌸🌼🍍🍥🍡🍭🍬
    ไม่เหนด้วยค่ะ เอาพระพุทธเจ้ามาทำรูปขนม #มากัดกินเหมือนปรามาสพระพุทธเจ้า โยนวาง อาจตกที่พื้น วางที่นั่ง โดนเหยียบฯลฯ #แม้แต่มาทำพวงกุญแจก้ไม่ควร ระวังผลนะค้ะ #ทำไมคิดได้กันแต่เรื่องไม่ควรทำ
    28 เม.ย. 2564 เวลา 17.26 น.
  • Boy999
    ไม่เห็นด้วย/ไม่เหมาะสม ประเทศไทยเมืองพุทธครับ
    28 เม.ย. 2564 เวลา 18.26 น.
  • No-te
    ลองทำเป็นขนมรูป ไม้กางเขน ดูบ้างไหมครับ หรือรูปของสัญลักษณ์ โอม หรือ อิสลาม ดูบ้างครับ ได้เท่าเทียม อยากรู้ว่า ถ้าเป็นศาสนาอื่นเค้าจะว่าไหมครับ แต่เอาจริงๆศาสนาจะเสื่อมก็อยู่ตามยุคสมัย ตามความเชื่อ ถ้าคนเข้าวัดไหว้พระ เค้าเห็นรูปพระพุทธแล้วไหว้ก็คงไม่เห็นด้วย แต่คนที่ขอบฟังธรรมเชื่อในคำสอนมากกว่าก็คงมองว่าเห็นด้วย แล้วแต่มุมมองครับ แล้วแต่ความเชื่อความศรัทธาครับ เอาอารัวรูปพระเครื่องให้สุนัขทาน ดูว่าเหมาะไหมครับ หรือเดินเหยียบอารัวรูปพระเครื่องเหมาะสมไหม ว่าเหมาะไหมครับ แล้วแต่มุมมองจริงๆครับ
    28 เม.ย. 2564 เวลา 18.11 น.
ดูทั้งหมด