โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่เอา! รัฐแก้ปัญหา “ฝุ่น” ยังไงก็โดนด่า แล้วตกลงต้องทำยังไง?
เรื่องฝุ่นยังไม่หายชาวเน็ตก็ตีกันวุ่นวายไม่จบนอกจากฝุ่นพิษที่ถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆรัฐบาลไทยก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงไม่แพ้กันในการแก้ปัญหาฝุ่นพิษชนิดที่ผู้เขียนเองแม้ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของรัฐบาลยังออกจะสงสารว่าเกิดเป็นนายกบ้านเรานี่มันยากเหมือนกัน! อยากจะขยับแก้ปัญหาอะไรยากที่จะมีคนเห็นใจสุดท้ายก็จะถูกขุดเรื่องที่เคยทำแล้วไม่ถูกใจขึ้นมาพูดอยู่ดี เรียกได้ว่าโดนด่าตั้งแต่ยังไม่ได้ลอง ทั้งที่หลาย ๆ นโยบายก็ฟังดูเข้าท่า ถ้าได้ดำเนินการอย่างสม่ำเสมออาจจะดีก็ได้ แต่หลาย ๆ ฝ่ายก็ดูจะไม่ฟังสักเท่าไหร่
เครดิตภาพ: https://www.thaipost.net/main/detail/28420
ปิดโรงเรียน = โอ้ย!ใครจะเลี้ยงลูก?
ทั้งที่นโยบายนี้ดีทั้งในแง่ลดความตึงเครียดของการจราจรที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องกรูกันขับรถไปรับไปส่งลูก ซึ่งนี่คือสาเหตุอย่างหนึ่งที่มีส่วนอย่างมากต่อปัญหาฝุ่นพิษในกรุงเทพ ทั้งในแง่สุขภาพพลานามัยของเด็ก ๆ ที่อ่อนแอกว่าเราและยังระมัดระวังน้อย ดูแลตัวเองได้ไม่ดี หากต้องมาเผชิญสภาพฝุ่นที่รุนแรงก็อาจเจ็บป่วยและส่งผลกระทบไปยังผู้ใหญ่ที่ต้องมาดูแล พร้อมกันนั้น นายกฯ ก็กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด กระทรวงศึกษาธิการเองก็ตั้งคณะกรรมการศูนย์ประสานงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขึ้นมาเพื่อเกาะติดวิกฤติฝุ่นของโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงทุกวันโดยมีภารกิจจะต้องให้โรงเรียนรายงานสถานการณ์ฝุ่นไม่เกิน 15.00 น. ของทุกวัน ซึ่งก็ถือว่าครอบคลุมทุกด้านและทันใจ ปลอดภัยกับเด็ก ๆ ถ้าหากทำได้จริง ถือได้ว่าเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาจุดนี้
นอกจากนี้อาจกล่าวได้ง่าย ๆ ว่า การหยุดการเรียนการสอน ยังช่วยลดระยะเวลาที่ประชาชนทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่จะต้องออกจากบ้านมาสู้ฝุ่นในช่วงเวลาเช้าซึ่งความหนาแน่นของฝุ่นรุนแรงมากที่สุด
ฟังแล้วก็ดูจะดีกว่าเสีย แต่อย่างที่บอกนายกไทยทำอะไรก็โดนด่า ไม่เกิน 2 วันหลังจากนั้นก็มีผู้ปกครองบางส่วนออกมาโวยว่าแบบนี้ ใครจะเลี้ยงลูก! เพิ่มภาระ! ซึ่งผู้เขียนก็รู้สึกว่า ฝุ่นเนี่ยมันหน้าที่รัฐบาลเขาก็รับผิดชอบ แต่ลูกหลานมันคือหน้าที่ของคุณอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมเรื่องนี้รัฐบาลกลายเป็นคนรับเคราะห์ล่ะ?
ปิดโรงงาน = ไหนบอกไม่เจอควันดำ?
โรงงานอุตสาหกรรม คือ ต้นกำเนิดใหญ่อีกอย่างของฝุ่นพิษ ถ้าได้พักการทำงานไปซะบ้าง ก็น่าจะดีกับสถานการณ์โดยรวม เพราะควันนั้นมากเหลือเกิน มากจนช่วงแรกที่มีการลงพื้นที่ไปตรวจกันยันโรงงานแล้วมีข่าวว่าไม่เจอควัน ก็โดนด่าจนหนาหูว่า ไม่เจอได้ยังไงกัน
พอวันนี้รัฐบาลออกมาประกาศว่าหลังจากตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 100,000 โรงงาน พบโรงงานที่มีความเสี่ยง 1,700 โรงงาน และโรงงานที่ต้องปิดปรับปรุงมาตรฐาน จำนวน 600 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่ต้องใช้ทั้งแก๊สและถ่านหิน ซึ่งก็ขอให้หยุดดำเนินงานไปก่อนและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
ผู้เขียนเห็นด้วยกับนโยบายนี้เป็นอย่างมาก เพราะฝุ่นควันที่โรงงานปล่อยสู่อากาศมีจำนวนมาก หากหยุดดำเนินการเป็นหลักร้อยแน่นอนว่าสถานการณ์เรื่องฝุ่นน่าจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเพราะแหล่งกำเนิดคือโรงงานซึ่งอยู่กระจาย ๆ กันออกไปหยุดสร้างกันฝุ่นสักพัก
แต่ก็นั่นล่ะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านคอมเมนต์การเมืองในบ้านเราก็มาออกตัวแรงกันตามช่องทางต่าง ๆ อย่างอุ่นหนาฝาคั่งว่า นี่ไงสุดท้ายก็ออกมายอมรับว่าเจอแล้ว ไหนบอกไม่มีควันดำ จะปิดทำไม!
ก็สุดท้ายเจอแล้ว สั่งปิดแล้ว ปิดพร้อมกันตั้งครึ่งพันโรงงานทีเดียวด้วย ยังไม่ถือว่าแก้ปัญหาอีกหรือ?
มิหนำซ้ำ คนโรงงานบางส่วนยังออกโรงด่ากันเต็มสูบว่า ฉันเสียรายได้! เขียนมาถึงตรงนี้ก็เหนื่อยอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่นายก ก็หน้ามืดจนต้องร้องหายาดมยาหอมแล้ว
เครดิต: https://workpointnews.com/2019/02/06
ทุกภาคส่วนล้วนต้องช่วยกันสิ
จริงอยู่ในช่วงแรกรัฐบาลดูนิ่งเฉย ยังขยับตัวช้าไม่แน่ใจว่าเกิดจากเรื่องข้อมูลหรือประเด็นไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหมือนภาครัฐขยับ ภาคเอกชนและประชาชนก็ควรจะรับลูกหรือทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองอย่างเต็มความสามารถ ทำเท่าที่เราทำได้เหมือนกัน แล้วก็ต้องพิจารณานโยบายของภาครัฐอย่างเป็นกลางบ้าง อะไรที่มันขัดใจอาจจะต้องเปิดใจหน่อย เพราะสุดท้ายปลายทางคือความอยู่รอดของเราทุกคน เพราะหากฝุ่นก่อนนี้มันกระทบไปมาก ๆ เข้า ไม่ใช่แค่นายกจะอยู่ให้เราไล่หรือไม่ เราเองก็อาจจะไม่มีเรี่ยวแรงไปไล่นายกแล้ว
พอเกิดวิกฤติขึ้นมา ทางรอดทางเดียวคือเราต้องจับมือกัน ถึงเวลานั้นจะมาวิพากษ์วิจารณ์กันยังไม่สาย เพราะอย่างน้อยก็ยังรักษาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่โดยรวมไว้อยู่
ยอมรับเถิดว่าปัญหานี้ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแก้ได้ฝ่ายเดียว และการเอาแต่วิจารณ์ด้วยอารมณ์มักไม่นำไปสู่การแก้ไขอะไรเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://mgronline.com/politics/detail/9620000004843
http://www.newtv.co.th/news/27649
https://www.thaipost.net/main/detail/28420
ความเห็น 170
Concorde_4
ลาออกไปพีที่สุดไม่ต้องบ่น เพราะไม่มีใครเลือกเข้ามา
12 ก.พ. 2562 เวลา 11.19 น.
ลาออก อย่างนี้ต้อง ลาออก รู้แล้วรู้รอดไป
11 ก.พ. 2562 เวลา 21.42 น.
Anusak Ngokkham
เขาด่าก็แสดงว่าเขาเกลียด เขาบ่นเพราะเขาเบื่อท่าน ก็ลาออกสิคับยังมีหน้ามาถามอีก
08 ก.พ. 2562 เวลา 12.34 น.
ต้น..เมืองชล
ท่านโดนตำหนิ มาเยอะล่ะ .. ขอให้กำลังใจ
ขออนุญาติแนะนำ
สิ่งที่ท่านต้องรู้ คือ เรื่องสุขภาพ ประเด็นนี้มันจุดติด
เพราะมันเกี่ยวกับทุกคน (อากาศไม่ดี ฝุ่น pm 2.5)
แต่สิ่งที่ท่านไม่รู้ คือมันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของท่าน
ท่านมีทุกอย่าง สามารถสั่งการหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้ทันที?
ถามจริง ต้นเหตุ ของฝุ่น แต่ละเขตแต่ละพื้นที่มันเกิดจากตัวใดบ้าง และมากสุด แต่ละเขตคืออะไร
รู้ยัง? ถ้ายังไม่รู้ ก็จะทำอะไรไม่ได้ ครับ
08 ก.พ. 2562 เวลา 11.13 น.
ก็ไอ้คนเรื่องมากก็เรื่องมากนะพุดกันจังด่าๆท่านจังวันๆไม่ทำการทำงานกันบ้างหรอไง คอยจะด่ากันจังเลยเรื่องเยอะนะพวกมึง
08 ก.พ. 2562 เวลา 10.06 น.
ดูทั้งหมด