ปวีณาจับมือ ปคบ.บุกจับร้านบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมผู้ต้องหา 3 ราย จ.ปราจีนบุรี
ปราจีนบุรี - ปวีณาจับมือ ปคบ.บุกจับร้านบุหรี่ไฟฟ้าข้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้ของกลางบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยา อะไหล่แทงค์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก มูลค่านับแสนบาท พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ. เข้าจับกุมร้านเหลือง เป็นร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าที่แพร่ระบาดอยู่ข้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้ของกลางบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมน้ำยา อะไหล่แทงค์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก มูลค่านับแสนบาท พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายธนพิพัฒน์ รุ่งโรจนรากร อายุ 34 ปี นางพัชนี รุ่งโรจนรากร อายุ 60 ปี นายนพวิญ รุ่งโรจนรากร อายุ 63 ปี ทั้ง 3 คนเป็นครอบครัวเดียวกัน และนายสิทธิชัย (ไม่ทราบนามสกุล) ไม่ทราบอายุ เป็นลูกจ้างและนำของกลางพร้อมผู้ต้องหาเข้ากรุงเทพมหานคร
สำหรับร้านเหลือง เป็นร้านที่ตั้งอยู่ถนน 3079 หมู่ที่ 9 ต.ศรีมหาโพธิ ห่างจากโรงเรียนศรีมหาโพธิ เพียง 200 เมตร เป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นว่า “ตู้เหลือง” มีเด็กวัยรุ่นเดินเข้าออกเป็นประจำเหมือนร้านสะดวกซื้อ สืบเนื่องจากป้าของเด็กชาย ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอศรีมหาโพธิ เข้าร้องทุกข์ต่อประธานมูลนิธิปวีณาฯว่า หลานชายอายุ 12 ปี มาเรียนที่โรงเรียนนี้ได้ 2 เดือน ทราบว่า เงินในบัญชีของหลานมีเงินอยู่ 16,000 บาท เงินหายไป 6,000 บาท เมื่อถามหลานจึงรู้ว่า นำไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้าและซื้อแจกเพื่อนจนเงินหมด หลานไม่กล้าขัดขืน เพราะเป็นเด็กใหม่ ป้าจึงมาปรึกษามูลนิธิฯ ขอให้ช่วยดำเนินการกับร้านที่ขายของให้นักเรียนด้วย นางปวีณา จึงประสานกับ ผบก.ปคบ.และวางแผนเข้าทำการจับกุมดังกล่าว
สำหรับการดำเนินคดีกับร้านเหลือง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 และ “ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้าในราชอาณาจักรจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่า เป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้องตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายธนากร ศรีทา อายุ 16 ปี ลูกจ้างที่ร้านเหล็ก ซึ่งอยู่ติดกับร้านเหลือง กล่าวว่า ผมก็เป็นลูกจ้างร้านเหล็ก ทำงานส่งเหล็กเก็บกวาดร้านและก็ขายน้ำ อยู่ตรงนี้ ซึ่งอยู่ติดกับร้านเหลืองที่เป็นเจ้าของเดียวกัน ผมรู้นิดเดียวว่า ร้านนี้ขายอะไรบ้าง คนที่เป็นเจ้าของก็เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 34 ปี ชื่อเล่นว่า ปีเตอร์ ชื่อจริงไม่ทราบ ผมเรียกเขาว่า ลูกพี่ ตรงนี้เขาทำมาประมาณ 4-5 เดือน ผมก็รู้ว่าเขาจำหน่ายของแบบนี้ แรก ๆ ช่วง 3 เดือนแรกก็จะมีนักเรียนมาซื้อ ตอนนี้หลังจากที่โดนแล้ว เราก็ไม่ขายให้นักเรียน เราให้บอกต่อว่า ไม่ขายชุดนักเรียนแล้ว ให้เขากลับไปเปลี่ยนชุดมาก่อน พวกเดินกลับบ้านผ่านทางนี้ก็มี ผมก็บอกรีบ ๆ เดินไปเลย เดี๋ยวมีคนมาถ่ายรูป
-------------------------
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์