โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตรัง จับแล้วมือค้อนทุบหัวฆ่าโหดพ่อค้าปลาสวยงาม กลางงานลอยกระทงกันตัง ทิ้งศพกลางงาน หลักฐานชัด จุดทิ้งมือถือ-โผล่กดเงินสดผู้ตาย

77kaoded

เผยแพร่ 24 ธ.ค. 2567 เวลา 16.41 น. • 77 ข่าวเด็ด

ตรัง จับแล้วมือค้อนทุบหัวฆ่าโหดพ่อค้าปลาสวยงาม กลางงานลอยกระทงกันตัง ทิ้งศพกลางงาน หลักฐานชัด จุดทิ้งมือถือ-โผล่กดเงินสดผู้ตาย หลังลูกสาวร้องผ่านโซเชี่ยล คดีไม่คืบ หวั่น ไม่ได้รับความเป็นธรรม เผย ประวัติโชกโชนลงมือศพที่ 3 ตร.เค้นสอบ ยังให้การปฏิเสธ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Stan Janjira" ได้โพสต์เพื่อขอความเป็นธรรมให้พ่อที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ และสะเทือนขวัญไปทั่วจังหวัดตรัง โดย เพจดังอีซ้อขยี้ข่าว รวมทั้งได้ร้องทุกข์ผ่านเครือข่ายชมรมเสียงประชาชน(สปช.) และชาวตรังจำนวนมากได้ช่วยกันแชร์ต่อ จนมีคนสนใจติดตามความคืบหน้าคดีเป็นจำนวนมาก โดยเฟสบุ๊คของผู้เป็นลูกสาวระบุข้อความว่า “เช้าวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 พี่ชายขับรถร้องไห้โฮ บอกกับเราว่าพ่อเสียแล้ว พ่อเป็นลมที่ร้านขายปลาของพ่อ พ่อได้ไปตั้งร้านขายปลาสวยงามที่งานลอยกระทงกันตัง จังหวัดตรัง ริมฝั่งแม่น้ำกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง 6-15 พฤศจิกายน 2567 ชื่อร้านเก้าหน้าฟาร์ม ระหว่างนั่งรถเราก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนๆ พ่อที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในงานโทรมาแจ้งข่าวเรื่อยๆ จนได้ข้อมูลมาว่า กระเป๋าสะพายพ่อหายไปพร้อมเงิน บัตรประชาชน โทรศัพท์มือถือ

“เราเอะใจว่าพ่อโดนฆ่าหรือเปล่า เลยบอกพี่ชายว่าพ่อโดนฆ่าแน่เลย เราไปถึงจุดเกิดเหตุคือเลือดพ่อเต็มร้าน ภายในร้านไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือข้าวของกระจัดกระจายเลย ไม่มีร่องรอยการเก็บอะไรเลย เราเลยสงสัยตำรวจได้เก็บหลักฐานหรือรอยนิ้วมือคนร้ายจากศพพ่อหรือยัง และคดีผ่านมาเดือนเศษแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าใดใดจึงกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม”เฟสบุ๊คผู้เป็นลูกสาวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้เผยแพร่ข้อมูลผ่านเพจระบุ จากกรณี คนร้ายใช้อาวุธทำร้ายนายสุชีพ ช่อระชู อาย 67 ปี ชาว ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าขายปลาสวยงามเสียชีวิตบริเวณร้านขายปลาสวยงามริมสวนสาธารณะ ถ.รัษฎา ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ในงานลอยกระทงกันตังที่ผ่านมา ในช่วงน่ำรุ่งของวันที่ 16 พ.ย.67 จากการสืบสวนสอบสวนของ สภ.กันตัง และชุดสืบกองกำกับสืบฯ ภ.จว.ตรัง ทราบว่าคนร้ายคือนายอดุลย์(สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ชาว ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ และสามารถจับกุมตัวได้ในวันนี้ (24 ธ.ค.67) ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

รายงานข่าวจากชุดสืบสวน แจ้งว่า ชุดสืบสวนแกะ รอยจากพยานหลักฐานต่างๆจนสามารถติดตามจับกุมตัวนายอดุลย์ได้ โดยนายอดุลย์ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุได้ประกอบอาชีพพ่อค้าขายน้ำอัดลมภายในงานคาราวานขายสินค้าเร่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่ได้มาเช่าพื้นที่ขายของภายในงานลอยกระทงซึ่งเป็นงานประจำปีของอ.กันตัง ร้านอยู่ติดกัน และมีปัญหากระทบกระทั่งกัน แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุ มีประวัติอาชญากรรมมาแล้วโชกโชน เคยต้องคดีฆ่าคนตายมาแล้วถึง 2 คดี โดยการสังหารโหดพ่อค้สปลาสวยงามล่าสุดถือเป็นคดีที่ 3 โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมก้าวร้าวและชอบใช้ความรุนแรง และมีปัญหาเรื่องเงินทองมาโดยตลอด จนติดค้างค่าเช่าแผง เป็นหนี้สินรุงรัง

โดยวันเกิดเหตุเป็นช่วงวันสุดท้ายของงานลอยกระทงคือวันที่ 15 ธ.ค67 บรรดาผู้ค้าขายต่างๆก็เตรียมเก็บข้าวของอุปกรณ์ โดยทางผู้ตายต่างก็กำลังเก็บของ จึงเป็นจังหวะที่ผู้ตายไม่ทันได้ระวังตัว ทำให้ผู้ก่อเหตุลอบเข้ามาใช้ค้อนตีเข้าที่ศีรษะ และตามตีซ้ำอีกจำนวนหลายครั้ง จนเลือดกระเซ็นไปทั่ว ก่อนจะขโมยเอาทรัพย์สินทั้งบัตรเอทีเอ็ม เงินสด และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหลบหนีไป และทิ้งศพผู้ตายเอาไว้กลางงาน กระทั่งมีผู้มาพบศพในช่วงเช้า

รายงานข่าวแจ้วอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีปรากฏพบภาพของคนร้าย ขณะนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปทิ้ง และวนมากดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ปรากฏพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ตลอดจนเวลาในการก่อเหตุ และการทิ้งหลักฐานตลอดจนการกดเงินสดมีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังมีพยานบุคคลให้ข้อมูล อย่างมีความสอดคล้องถึงความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาได้ อย่างไรก็ตามในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ สำหรับความคืบหน้าคดีจะรายงานให้ทราบต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...