“กบข.” เพิ่มน้ำหนัก “หุ้น” ปี24 เป็น 22.62% คิดเป็นเงินกว่า 1.1 แสนล้านบาท... พร้อมเพิ่มน้ำหนัก “หุ้นไทย” แตะ 5.89% แซงหน้า “หุ้น EM” เรียบร้อย !!!
สาระ Fund วันละนิด: สำหรับ “กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)” นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ของไทย สิ้นปี2024 ที่ผ่านมา บริหารเงินกองทุนส่วนของสมาชิกกว่า 4.9 แสนล้านบาท ทำผลตอบแทนให้สมาชิกได้ 4.12% สูงกว่าเป้าหมายชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10ปีย้อนหลัง บวก 2% (เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี 0.9%)
และยังมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน “หุ้น” ขึ้นเป็น 22.62% จากปี23 ที่ 16.40% คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 1.1 แสนล้านบาท โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค นำมาโดย “หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว” 12.46% (ปีก่อน 8.12%), “หุ้นไทย” 5.89% (ปีก่อน 4.32%) และ “หุ้นตลาดเกิดใหม่” 4.27% (ปีก่อน 3.96%)
ในปี25 นี้ ท่ามกลางภาวะตลาดการลงทุนที่ผันผวนมากขึ้นและท้าทาย กบข. ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนใน “สินทรัพย์เติบโต” (Growth Asset) ซึ่งรวมถึง “หุ้น” ในทุกตลาดด้วยเช่นกัน
แล้วหน้าตา 10 หุ้นเด่น ใน “พอร์ตหุ้นไทย-หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว” ของกบข. ในปี24 มีหุ้นอะไรบ้างนั้น ทางทีมงาน ‘Wealthy Thai’ได้รวบรวมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
“หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว” คิดเป็น 12.46% ในพอร์ตหุ้นกบข. พบ “7 นางฟ้า” มาครบครัน
“พอร์ตหุ้น”ของกบข. สิ้นปี24 นั้น มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้น 111,192.91 ล้านบาท คิดเป็น 22.62% ของเงินกองทุนส่วนของสมาชิก 491,569 ล้านบาท (ลงทุนตราสารหนี้ 56.76%, สินทรัพย์ทางเลือก 20.62%) โดยกระจายลงทุนใน “หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว” 61,249.50 ล้านบาท (12.46%), “หุ้นไทย” 28,953.41 ล้านบาท (5.89%) และ “หุ้นตลาดเกิดใหม่” อีก 20,990.00 ล้านบาท (4.27%)ตามลำดับ
จะเห็นว่า ส่วนใหญ่อยู่ใน “หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว” เป็นสำคัญ และ 5กลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนมากสุด คิดเป็น 77.93% ของพอร์ต ประกอบด้วย 1) Information Technology 25.71%, 2) Financials 15.89%, 3) Consumer Discretionary 12.97%, 4) Health Care 12.12%และ 5) Communication Services อีก 11.24% ตามลำดับ
“สำหรับหุ้น 10ตัวแรกที่ลงทุนนั้น มีน้ำหนักในพอร์ตประมาณ 29.53% ที่น่าสนใจ คือ “7 นางฟ้า” มากันครบ ได้แก่ Microsoft 4.31%, Apple 3.88%, Amazon 3.64%, Google (Alphabet) 3.56%, Facebook (Meta) 3.44%, NVIDIA 3.22% และ TESLA 1.38% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมี TSMC 3.20%, Unitedhealth Group 1.57% และ J.P.Morgan1.33% ซึ่งล้วนเป็นหุ้น Supper Stock ระดับโลกทั้งนั้น”
ทั้งนี้ ในปี24 ที่ผ่านมา “แผนหุ้นต่างประเทศ” สามารถทำผลตอบแทนได้ดีทีเดียว +15.45%
“กบข.” ปรับน้ำหนัก “หุ้นไทย” ขึ้นเป็น 5.89%…ถือ “ADVANC” มากสุด 7.59%
มาต่อกันที่ “หุ้นไทย” กันบ้าง หลังตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาจนเกินพื้นฐาน หุ้นหลายตัวมีมูลค่าที่น่าสนใจ ทาง กบข.ก็มองเป็นจังหวะในการเข้าลงทุนโดย “เลือกหุ้นรายตัว” (Selective) ไม่ได้ลงเป็นตะกร้าหุ้นแต่ประการใด พร้อมเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยขึ้นเป็น 5.89% จากปีก่อนที่ 4.32% เท่านั้น
โดย 5 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนมากสุด มีสัดส่วนรวมกัน 69.16% ประกอบด้วย 1) ธนาคาร 21.40%, 2) พลังงานและสาธารณูปโภค 21.15%, 3) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 10.85%, 4) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8.29% และ 5) การแพทย์ 7.47% และ ตามลำดับ
“โดยหุ้น 10 ตัวแรกที่กบข.ลงทุนมากสุดในพอร์ตหุ้นไทย มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 38.94% ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้นำในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่ถือเกิน 3% ก็มี ADVANC 7.59%, GULF 5.89%, AOT 5.14%, BDMS 4.14% และ SCB 3.69%ตามลำดับ”
ทั้งนี้ ในปี24 “แผนหุ้นไทย” ทำผลตอบแทนติดลบเล็กน้อย -0.36%
จะเห็นว่า “การจัดสรรเงินลงทุน” (Asset Allocation) ยังเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในเรื่องของการลงทุนระยะยาว ในส่วนของ “หุ้น” เอง กบข. ก็มีการกระจายไปทั้ง “หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว”, “หุ้นตลาดเกิดใหม่” และ “หุ้นไทย” ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างในการลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไปได้เป็นอย่างดี ในปีนี้ กบข. เองยังคงมีมมุมมองเชิงบวกกับการลงทุนในหุ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกัน