ภาพของดัชนี SET50 ที่ลดลงสะท้อนให้เห็นว่าหุ้นขนาดใหญ่มีการปรับตัวลดลงมากกว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ทำให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยไม่มีความสดใสเลย แม้รัฐบาลพยายามจะออกมาตรการมากระตุ้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน เช่น การแจกเงินดิจิทัล การออกกองทุนวายุภักษ์ การผลักดันโครงการ Jump+ หรือการเสนอแปลงกองทุน LTF เป็นกองทุน Thai ESGx เป็นต้น หรือไปจนถึงการพยุงเศรษฐกิจฐานราก อย่างโครงการคุณสู้เราช่วย
รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงิน ด้วยการเซอร์ไพรส์ตลาดจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แต่หุ้นไทย ยังต้องเจอกับสถานการณ์และปัจจัยลบอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้ อย่าง ภาวะเศรษฐกิจ การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หรือทิศทางของราคาหุ้นนั้น
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังมองหาและเลือกเครื่องมือในการลงทุนได้ด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ด้วย เช่น DR, DW, ETFs, REIT หรือแม้แต่ Futures หรือ Options ผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX)
แต่ที่วันนี้เราจะมาพูดถึงคือ Put Options ป้องกันพอร์ต ช่วงตลาดขาลง เป็นข้อมูลจาก บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ โดย ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.อินโนเวสท์ เอกซ์
Options คือ ตราสารที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในระยะเวลาและราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
- Call Options (สิทธิในการซื้อ)
- Put Options (สิทธิในการขาย)
โดยผู้ซื้อสามารถเลือกใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้
ปัจจุบัน TFEX ได้เปิดให้ซื้อขาย Options โดยมีดัชนี SET50 เป็นสินค้าอ้างอิง หรือที่เรียกว่า SET50 Index Options ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการคุ้มครองพอร์ตหรือป้องกันความเสี่ยงสามารถใช้การซื้อ Put Options เพื่อสร้างกลยุทธ์ช่วงตลาดขาลง เพียงจ่ายค่าพรีเมี่ยม ก็ได้รับสิทธิในการขายตามราคาที่กำหนดไว้สำหรับล็อคกำไรหากตลาดมีการปรับตัวลง
ขณะเดียวกันหากตลาดปรับตัวขึ้น นักลงทุนก็สามารถเลือกที่จะไม่ใช่สิทธิ Put Options ดังกล่าวได้ โดยนักลงทุนจะขาดทุนจำกัดเพียงแค่ค่าพรีเมี่ยม คล้ายกับค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไปก่อนหน้าแล้ว
ตัวอย่างการใช้ Put Options ในตลาดขาลง คือ ดัชนี SET50 ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 760 จุด นักลงทุนกังวลว่าดัชนี SET50 มีโอกาสปรับลดลงไปต่ำกว่า 700 จุดในอนาคตอันใกล้ จึงเลือกซื้อ Put Options ตัว S50H25P750 ซึ่งจะหมดอายุเดือนมีนาคม 2568 โดยจ่ายค่าพรีเมี่ยมที่ 14.8 จุด เพื่อรับสิทธิในการขายที่ 750 จุด โดยหากดัชนี SET50 ปรับลดลงไปตามที่คาดจริงก็สามารถใช้สิทธิดังกล่าวเพื่อเป็นการคุ้มครองพอร์ตไว้ได้ (https://www.settrade.com/th/derivatives/quote/S50H25P750/overview)
แต่ถ้าดัชนีปรับตัวขึ้นสวนทาง นักลงทุนก็สามารถเลือกไม่ใช้สิทธิ ซึ่งจะเท่ากับนักลงทุนขาดทุนจำกัดตามค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป โดยในปัจจุบันจะมีช่วงห่างของราคาใช้สิทธิที่ 25 จุด แต่เนื่องจาก Options มีวันหมดอายุ จึงควรพิจารณาเลือก Options รุ่นที่เหมาะกับเวลาที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ต รวมถึงพิจารณาสภาพคล่องของ Options รุ่นดังกล่าวประกอบด้วย
จะเห็นว่า Put Options เป็นเครื่องมือคุ้มครองพอร์ตการลงทุนในช่วงตลาดขาลง โดยที่สามารถกำหนดจุดป้องกันความเสี่ยงได้ตามต้องการผ่านการเลือก Strike Price ที่เหมาะสม ที่สำคัญ คือ การขาดทุนที่จำกัดเพียงค่าพรีเมี่ยมที่จ่ายไป ทำให้ไม่ว่าตลาดจะผันผวนรุนแรงเพียงใด นักลงทุนก็ยังคงมีเพดานความเสียหายที่ชัดเจน และมีความยืดหยุ่นของ Options ที่สามารถเลือกใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ ทำให้ยังคงมีโอกาสรับผลตอบแทนเต็มที่หากตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น เปรียบเสมือนการจ่ายเบี้ยประกันในจำนวนที่จำกัดเพื่อคุ้มครองมูลค่าการลงทุนทั้งพอร์ตการลงทุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SCB FM มอง Fed ลดดอกเบี้ยกลางปีจากเศรษฐกิจที่ชะลอ
แบงก์ชาติ ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราว กระตุ้นอสังหาฯ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Put Options คุ้มครองพอร์ตหุ้น ช่วงตลาดผันผวน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com