LINE ประเทศไทย จัดงาน “LINE Conference Thailand 2025” กางโรดแมปแผนการดำเนินงานในอนาคต เตรียมรุกอุตสาหกรรมสุขภาพ จับมือกลุ่มธุรกิจค้าปลีก พร้อมเปิดตัว 3 ฟีเจอร์ใหม่ในปีนี้ ประกอบไปด้วย “LINE Premium - LINE Gift - LINE Health” ทั้งนี้เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม และขยายบริการสู่รูปแบบใหม่ต่อยอดจากการเป็นแอปฯ แชทเดิม
นรสิทธิ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา LINE ประเทศไทยรุกตลาดในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่บริการทางการเงิน ทั้งการชำระเงิน LINE PAY, บริการ Banking อย่าง LINE BK ให้บริการสินเชื่อ ตลอดจนบริการเดลิเวอรี่อย่าง LINE MAN
“เรียกได้ว่า LINE ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย มีผู้ใช้งานกว่า 56 ล้านบัญชี โดยส่วนใหญ่ใช้ LINE เพื่อสื่อสารทั้งเรื่องงาน ในครอบครัว และการใช้ชีวิตส่วนตัว ทำให้ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันแชท แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกโมเมนต์การใช้ชีวิตของคนไทย” นรสิทธิ สิทธิเวชวิจิตร กล่าว
เปิดตัว “LINE Premium”
อย่างที่ทราบกันดีว่า ที่ผ่านมา LINE เปิดให้ใช้บริการฟรี พร้อมพัฒนาและปรับปรุงฟีเจอร์อย่างต่อเนื่องตามฟีดแบคของผู้ใช้ แต่เมื่อมีคำถามว่า “ขอมากกว่านี้ได้ไหม?” LINE ตอบรับด้วยบริการใหม่—แต่ครั้งนี้จะมาในรูปแบบของระบบสมาชิก จ่าย Subscription เป็นรายเดือน
เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “LINE Premium” ตอบโจทย์คนมีโลกหลายใบ ซึ่งจากการสำรวจของ LINE พบว่า ผู้ใช้งานแอปฯ มีหลากหลายด้าน โดยจะมียอดการเชื่อมต่อเฉลี่ยของแต่ละบุคคลที่กว่า 140 คอนเนคชั่น และ LINE Premium ก็ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ผู้ที่มีการใช้ชีวิตและติดต่อสื่อสารหลายรูปแบบ โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจดังนี้
App Icon Customization: ปรับแต่งไอคอนของแอปพลิเคชัน LINE ได้ตามสไตล์ที่ต้องการ
Font Alternation: เลือกและปรับแต่งฟอนต์ได้หลากหลาย เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้แชท
Multiple Profiles: สร้างโปรไฟล์รอง (Subprofiles) ได้สูงสุด 3 โปรไฟล์ แยกการใช้งานระหว่าง งาน, ส่วนตัว, และอื่น ๆ โดยสามารถกำหนดและแบ่งหมวดหมู่เพื่อนที่มีในแอปฯ ได้ตามไลฟ์สไตล์ในแต่ละโปรไฟล์ โดยจะมีการแจ้งเตือน (Notification) แยกออกจากกันในแต่ละโปรไฟล์อีกด้วย
Message Backup: สำรองข้อมูลแชทอัตโนมัติ แบ่งประเภทไฟล์อย่างเป็นระเบียบ ทั้งรูปภาพ วิดีโอ ตลอดจนเอกสาร ป้องกันไฟล์สูญหาย และสามารถเปิดดูได้ตลอดเวลา
โดยฟีเจอร์ LINE Premium นี้จะมีการเก็บรายเดือน มีราคาสมาชิกที่ 169 บาทต่อเดือน โดยจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เป็น Cash Shopping คูปองเงินสดมูลค่า 69 บาทต่อเดือนสำหรับใช้จ่ายบน LINE Shopping และจะได้รับส่วนลดค่าสั่งอาหารสูงสุด 1,000 บาท และส่งฟรีไม่จำกัดบน LINE MAN VIP
คาดว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้คนไทยได้ใช้งานกันในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 นี้ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่เปิดตัว LINE Premium โดยก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จมาอย่างล้นหลามจากจำนวนผู้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ในอนาคต LINE ประเทศไทยจะมีการอัปเดตฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างไร้รอยต่อ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มเงินค่าบริการรายเดือนอย่างแน่นอน
“LINE Gift” ฟีเจอร์ส่งของขวัญผ่านแชท
เนื่องจาก LINE ไม่ได้เป็นเพียงแอปฯ แชท แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การสื่อสารเต็มไปด้วยความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ หรือการส่งสติกเกอร์เป็นของขวัญเพื่อสร้างความสัมพันธ์ ล่าสุด LINE ได้ยกระดับการสื่อสารอีกขั้น ด้วย “LINE Gift” ฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญผ่านแอปฯ ได้ทันที
ด้วยวัฒนธรรมการให้ของขวัญเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันครบรอบ หรือแม้แต่การกระชับความสัมพันธ์ โดย 88% ของคนไทยให้ของขวัญในโอกาสต่าง ๆ และเกือบครึ่งหนึ่งเลือกให้ของขวัญผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่ต้องพบหน้ากัน ทั้งการสั่งผ่าน e-Commerce และส่งเดลิเวอรี่ไปให้
LINE Gift จะมีสินค้า 2 ประเภทหลัก คือ Voucher และ สินค้าเดลิเวอรี่ โดยสินค้าในแพลตฟอร์มจะมีการจับมือกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่ เช่น เครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ แบรนด์สินค้าชื่อดัง และกำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ รวมถึง SMEs ที่มีศักยภาพสูง
โปรเจกต์นี้ มีการต่อยอดจาก Use case ของไต้หวันซึ่ง LINE Gift ได้รับความนิยมอย่างมาก และบริการนี้คาดว่าจะมีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งอาจตรงกับ High Season ปลายปี คาดว่าในช่วงแรกผู้ใช้จะนิยมสินค้าหรือบัตรกำนัลที่มีราคาจับต้องได้ ก่อนจะขยายไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต
รุกตลาดสุขภาพ เปิดตัว “LINE Health”
“เพราะไทยยังขาดหมอ” แพทย์ในโรงพยาบาลปัจจุบันมีจำนวนน้อยมาก หรือคำนวณเป็นตัวเลขแล้ว พบว่าหมอประมาณ 1 คน (0.9 คน) ต้องดูแลผู้ป่วยมากถึง 1,000 คน ในขณะที่ทั่วเอเชีย พบว่า หมอประมาณ 2 คนต้องดูแลคนไข้ต่อ 1,000 คน ส่งผลให้ประชาชนที่ต้องการจะเข้าถึงบริการทางการแพทย์ทำได้ยากขึ้น เสียเวลาในการไปหาหมอมากขึ้น และทางด้านของหมอเองก็ต้องทำงานหนักขึ้น
จึงเป็นที่มาของ “LINE Health” บริการทางการแพทย์แบบออนไลน์ของ LINE ที่จะที่รวบรวมบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ ผ่านพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เปิดให้ใช้งานแล้วในระยะทดลอง
โดยร่วมมือกับ “Health at Work” ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษากับแพทย์ผ่านวิดีโอคอล วินิจฉัยโรค พร้อมมีบริการจ่ายยา นัดพบแพทย์ และออกใบรับรองแพทย์ได้ทันที อีกหนึ่งพาร์ทเนอร์คือ “OOCA” แพลตฟอร์มด้านสุขภาพจิต ที่จะให้คำปรึกษา วินิจฉัยและพบจิตแพทย์ได้ผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับ LINE Health นี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน LINE ที่ต้องการจะเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทางการแพทย์แบบออนไลน์ เพื่อลดข้อจำกัด สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาล หรือไม่มีเวลาเดินทางมาหาหมอ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับประกันต่าง ๆ ได้อีกด้วย
และเร็ว ๆ นี้ LINE Health จะเตรียมเปิดบริการ “Health Shop” ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมกับมีแผนจะขยายไปเชื่อมกับผู้ให้บริการอื่น ๆ อีกในอนาคต ตลอดจนเปิดให้บริการกับผู้ถือบัตรทอง เพื่อให้ครอบคลุมการบริการทั้งประเทศไทย
นอกจากนี้ ในช่วงเช้า LINE ประเทศไทย ยังได้มีการเผยกลยุทธ์บุกตลาดของสองธุรกิจ IP Business ภายในกลุ่มบริษัท LINE อย่าง “IPX” (หรือเดิมคือ LINE Friends) ที่ได้พัฒนาสู่การเป็นครีเอทีฟสตูดิโอผู้สร้างสรรค์และพัฒนาคาแรกเตอร์จนเป็นแบรนด์ และครองใจเหล่าแฟน ๆ ทั่วโลก
พร้อมกับเปิดแนวทางของ “LINE Webtoon” แพลตฟอร์มเว็บอ่านการ์ตูนรายใหญ่ในไทย ที่ได้เตรียมขยายโอกาสทางธุรกิจต่อยอดจากคอนเทนต์เว็บตูนสู่ IP Business เช่นเดียวกัน ซึ่งสองบริการก็พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์หลากหลายรูปแบบในปี 2568 นี้
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath