สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการเตรียมขึ้นภาษียานยนต์และอะไหล่ยนต์จากต่างประเทศ ในอัตรา 25% โดยภาษีรถยนต์จะมีผลก่อนในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ตามด้วยชิ้นส่วนยานยนต์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง ในเดือน พ.ค. ท่ามกลางความวิตกกังวลจากหลายฝ่าย ว่าจะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศขึ้นราคารถยนต์ ว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการ คือยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น และบริษัทผลิตรถยนต์กลับมาตั้งฐานการผลิตในอเมริกามากขึ้น
ดังนั้น หากบริษัทผลิตรถยนต์ต่างประเทศขึ้นราคาสินค้าของตัวเอง "จะเป็นผลดี" อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่า มาตรการภาษีรถยนต์ของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการค้ายานยนต์เข้าสู่สหรัฐ ซึ่งมีการนำเข้ามากถึง 16 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.13 ล้านล้านบาท) เมื่อปี 2567
ปัจจุบัน ประมาณ 50% ของรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐ เป็นสินค้าซึ่งประกอบภายในประเทศ ในส่วนของรถยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศนั้น ครึ่งหนึ่งมาจากแคนาดาและเม็กซิโก ส่วนที่เหลือมาจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี ซึ่งล้วนเป็นประเทศพันธมิตรและคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ จึงมีการวิเคราะห์ว่า มาตรการภาษีครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ กับกลุ่มประเทศเหล่านี้.
เครดิตภาพ : AFP