เจ๊รัตน์-ป้าไพ งดสาบานเปลี่ยนเป็นกล่าวคำแสดงความบริสุทธิ์แทน หลังมีผู้ทักท้วง ด้าน ตร.รับคำร้องทุกข์เป็นคดีอาญาแล้ว เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแจ้งข้อหาแม่ค้าลอตเตอรี่
กรณีเมื่อ วันที่ 6 มีนาคม 2564 นางไพมณี พลราชม อายุ 57 ปี อาชีพค้าขายในเขตเทศบาลนครสกลนคร เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ว่าตนเองนั้นถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 เลขรางวัล 835538 งวดวันที่ 1 มี.ค 2564 แต่ลอตเตอรี่อยู่กับคนขายจากการจองไว้แต่คนขายปัดบอกว่าขายไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 มี.ค.64 นางรัตนา ภูละคร แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ได้เดินทางมาถึงที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เป็นคนแรก เพื่อรอพิธีสาบาน โดยรัตนาแต่งกายด้วยชุดสีขาว แสดงถึงความบริสุทธิ์
ส่วนทางด้านนางไพมณี พลราชม ผู้ที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้แต่งกายด้วยชุดนางรำภูไทและเป็นชุดที่สวมใส่ในวันที่ 24 ก.พ. 2564 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ซึ่งไพมณี เดินทางมาถึงที่วัดเวลาประมาณ 08.50 น. โดยก่อนทำพิธีสาบาน ทางเจ้าหน้าที่ของวัดพระธาตุเชิงชุม ได้มาพูดคุยทำความเข้าใจกับทั้งสองคนว่า ห้ามสาปแช่ง หรือพูดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน ขณะที่ทำพิธีสาบานต่อหน้าองค์พระประธาน พระพุทธรูปในโบสถ์
เมื่อถึงเวลา 09.00 น. ทั้งสองฝ่ายได้นั่งหน้าพระประธาน คือ หลวงพ่อพระองค์แสน ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวสกลนครเพื่อกล่าวคำสาบาน ซึ่งนางไพมณี เป็นผู้ที่เริ่มสาบานก่อน โดยป้าไพ กล่าวว่า ที่ตนมาวันนี้ตนไม่ได้มาสาบาน ตนมาเพื่อหาลอตเตอรี่ที่ตนซื้อไปว่าอยู่ที่ไหน ให้คนที่ซื้อไปเอามาคืนถ้าไม่ถูกรางวัลตนก็จะได้ยอมรับความจริง ถ้าถูกรางวัลก็ให้มาตกลงกัน ตนไม่เคยคิดที่จะมาสาบาน หรือสาปแช่งให้ต้องมีคนตายภายใน 5 วัน 7 วัน
ด้านเจ๊รัตน์ กล่าวว่าวันนี้ได้มาแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ไป ไม่ได้เอาไว้ที่ญาติพี่น้อง ไม่รู้ว่าลอตเตอรี่ตัวนั้นเป็นเลขอะไร และไม่เห็นตอนที่ไพมณีเขียนชื่อด้านหลังลอตเตอรี่ แต่ได้ยื่นปากกาให้จริง เมื่อเขาจองแล้วแต่เขาไม่มารับตนจึงจำเป็นต้องขายออกไป
นางไพมณี ผู้ที่อ้างว่าตนเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กล่าวหลังกล่าวคำอธิษฐานเสร็จว่า วันนี้ตนได้มาไหว้พระ และมาแสดงความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้เป็นการมาสาบาน เพราะการสาบานจะต้องสาปแช่งกัน ตนไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น
ด้าน นางรัตนา กล่าวหลังกล่าวคำอธิษฐานเสร็จว่า ที่มาสาบานวันนี้ มาตามคำท้าของไพมณี แต่พอไพมณีไม่สาบานก็รู้สึกเสียใจ และได้พูดกล่าวแสดงความบริสุทธิต่อหน้าองค์พระประธาน วัดพระธาตุเขิงชุมแล้ว สำหรับส่วนตัวก็น้อยใจทำไมไพมณีต้องไปแจ้งความ ทั้งที่พูดคุยกันได้ก็น่าจะมาพูดคุยกันก่อน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ตนได้รับความเสียหาย ทั้งโลกมองตนว่าตนยักยอกลอตเตอรี่ไปแล้ว
หลังจากนั้นป้าไพก็ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นที่ท้ารัตนามาสาบาน แล้วตนไม่สาบานแต่กลับพูดกล่าวคำอธิษฐานแทนนั้น ป้าไพบอกว่ามีพระที่นับถือให้คำแนะนำว่าไม่อยากให้มีการสาบแช่งกัน เพราะจะเป็นกรรมเวรต่อกัน และวัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ที่คนกราบไหว้ จึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นสถานที่สายแช่งกัน อีกทั้งตอนเช้าที่มาถึงวัดก็มีลูกศิษย์วัดให้คำแนะนำเช่นเดียวกัน ตนจึงไม่อยากสาบาน ซึ่งป้าไพก็ยืนยันว่าถ้าเขาอยากนัดกันตนมาสาบานใหม่ตนก็ยินดี ตนไม่ได้โกรธ แต่เท่าที่ตนเห็นท่าทีเขาวันนี้ ตนไม่สบายใจ เพราะรัตนาเอาญาติมาสาบานด้วยเยอะ ทำให้คนไม่สบายใจ เหมือนมีคนพารัตนาพูดทุกคำ เหมือนเขาไม่ได้ทำออกมาจากใจจริง ส่วนเรื่องคดี ตนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าเคลียร์กันได้ตนก็อยากคุยกัน แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจต่อไป
ต่อมาเวลา 11.00 น. ป้าไพได้นำนางเพ็ญศรี ไพศาล อายุ 60 ปี และ นางมุกดา วงศ์ธันยพร อายุ 44 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นนางรำที่ร่วมรำบวงสรวงองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มีการตกลงซื้อขายลอตเตอรี่กันระหว่างป้าไพกับเจ๊รัตน์ ซึ่งทั้งสองเป็นพยานฝ่ายป้าไพเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองคนเปิดเผยว่าให้การตามข้อเท็จจริงในส่วนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ก.พ.
แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ชุดสืบสวน สภ.เมืองสกลนครได้วางแนวทางการสืบสวนโดยมุ่งเน้นไปที่ต้นตอที่มาของลอตเตอรี่ที่เจ๊รัตน์รับมาขายว่ามีแหล่งที่มาจากที่ใด ซึ่งจากคำให้การเจ๊รัตน์อ้างว่าได้มาจากหลายๆ ที่ ซึ่งก็ต้องสืบว่าเป็นที่ใดบ้าง เพื่อตรวจสอบถึงต้นขั้วลอตเตอรี่ รวมถึงข้อมูลที่รอจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อาจบ่งชี้ถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดได้
สำหรับความคืบหน้าคดีในวันนี้ พันตำรวจเอกตรีวิทย์ ศรีประภา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ระบุว่า ตอนนี้ทางตำรวจได้รับคำร้องทุกข์ของนางไพมณีเป็นคดีอาญาแล้ว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา คือ เจ๊รัตน์มีพฤติการณ์เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ โดยก็จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับเจ๊รัตน์ต่อไป
ล่าสุดได้สอบปากคำพยานฝ่ายนางไพมณีไปแล้ว 3 ปาก คือ นางสาวกัณฑ์ทิพย์ เนาว์ศรีสอน นางเพ็ญศรี ไพศาล และนางมุกดา วงศ์ธันยพร ทั้งหมดเป็นนางรำที่อยู่ในเหตุการณ์ และจากการพูดคุยกับนางไพมณีด้วยตัวเอง นางไพมณีระบุว่าประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยไม่อยากดำเนินคดี แต่ทางตำรวจได้แจ้งให้เจ้าตัวทราบตามขั้นตอนของกฎหมายว่า จะต้องดำเนินคดี และต้องแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายเรียกนางรัตนาก่อน ถึงจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งนางไพมณีก็รับทราบและเข้าใจดี.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ตร.ขอ “อายัด” แล้วพิสูจน์หวย 12 ล้านบาท ค้นบ้าน “ป้ารัตน์” ยึดรายชื่อลูกค้า
- ป้าไพนางรำ ท้าสาบานพระ แม่ค้าขายหวย ปมชวด 12 ล้าน
- ป้ารัตน์เจอยักยอกคดีหวย 12 ล้านบาท ตร.จ่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ปะทะฝีปากในวัด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
ความเห็น 13
สุภาพ
งง แต่คำพูดว่า จำได้ว่าหวยที่ตัวเองเขียนชื่อใว้ถูกรางวัล ที่1 ทั้งไที่หลักฐานก็ไม่มี ถ่ายรูปใว้ก็ไม่มี ตำรวจยังรับทำคดี สงสัยว่างมสก
13 มี.ค. 2564 เวลา 16.48 น.
Panda
หลักฐานไม่มีซักอย่าง เงินก็ไม่ขวนขวายไปจ่ายแต่แรก ทั้งที่ไม่เคยซื้อเชื่อ แม่ค้าเคยแต่ขายเชื่อกับคนอื่น ถ้าจะเก็บไว้เองหรือขายให้คนอื่นทำไมจะทำไม่ได้ ไม่จ่ายตังถ้าไม่ถูกคงชักดาบ
13 มี.ค. 2564 เวลา 17.25 น.
Charuvan
ไม่เข้าใจตำรวจ ซื้อของไม่จ่ายตัง อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของได้
13 มี.ค. 2564 เวลา 17.00 น.
Lek Tawan
เพราะความโลภ.
13 มี.ค. 2564 เวลา 16.46 น.
ขอให้ล๊อตเตอรี่จงหายสาปสูญไปเถอะ น่ารำคาญ
13 มี.ค. 2564 เวลา 16.38 น.
ดูทั้งหมด