โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ทำไมร้านปาจิงโกะไม่ผิดกฎหมาย ทั้งที่มันคือการพนันชัด ๆ ? - เพจ Eak SummerSnow

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 17.37 น. • เพจ Eak SummerSnow

ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่น ไม่ก็ดูหนังหรือละครญี่ปุ่นก็คงจะเคยเห็นร้านในญี่ปุ่น ที่ดูข้างนอกก็เหมือนร้านเกม มีตู้ ๆ เต็มร้านไปหมด ป้ายหน้าร้านมีไฟสีสันสดใส มีเสียงเพลงดังอยู่ตลอดเวลา แต่เอ๊ะ ! ทำไมข้างในมีแต่ลุง ๆ ป้า ๆ นั่งเล่นตู้เกมทั้งนั้นเลย เขานั่งเล่นอะไรกันอะ ?

เจ้าร้านเหล่านั้นมันคือ “ร้านปาจิงโกะ” (パチンコ) นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ร้านปาจิงโกะกำลังเป็นประเด็นอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะเป็นร้านที่ยังคงมีคนเยอะตลอดเวลา ในขณะที่ร้านอื่น ๆ ต้องปิดเพื่อป้องกันไวรัส แต่ร้านปาจิงโกะส่วนใหญ่ก็ยังคงเปิด ทางการก็ไม่สามารถบังคับให้ปิดได้ ทำให้ร้านปาจิงโกะกลายเป็นศูนย์รวมตัวกันของลุง ๆ ป้า ๆ ในญี่ปุ่นในช่วงที่ทุกคนควรจะกักตัวอยู่ในบ้านแบบนี้ 

จนชาวญี่ปุ่นหลายคนเริ่มกังวลว่าร้านปาจิงโกะนี่แหละจะเป็นศูนย์รวมแห่งการระบาดของไวรัส…เพราะอะไรร้านปาจิงโกะถึงยังสามารถเปิดอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว มันคือการพนันที่ดูยังไงก็ผิดกฎหมายชัด ๆ ? วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องนี้กันครับ

ปาจิงโกะถือเป็น 1 ใน 3 ของธุรกิจที่ ”คล้าย ๆ” การพนันแต่ไม่ผิดกฎหมายในญี่ปุ่น ต่อจากไพ่นกกระจอกและแข่งม้า ซึ่งร้านปาจิงโกะเขาพยายามวางตัวเองให้อยู่ในรูปแบบของธุรกิจบันเทิงเช่นเดียวกับร้านเกม ไม่ใช่การพนัน…

จะว่าไป ปาจิงโกะ มันก็เหมือนเป็นร้านเกมสำหรับผู้ใหญ่แหละครับ ถ้าเหล่าเด็ก ๆ วัยรุ่นไปรวมตัวกันอยู่ที่ร้านเกมเซนเตอร์ ผู้ใหญ่ก็จะมารวมตัวกันอยู่ที่ร้านปาจิงโกะนี่แหละ จริง ๆ แล้วร้านเกมเซนเตอร์สำหรับเด็ก ๆ มันก็มีการพนันเข้ามาเกี่ยวหน่อย ๆ อยู่แล้วนะครับ เช่นเกมตู้แบบคีบตุ๊กตา ถ้าคีบไม่ได้ก็จะเสียเงินฟรี คีบได้ในไม่กี่ครั้งก็ได้กำไร เวลาคีบแล้วยังไม่ได้ซักทีก็จะเกิดหน้ามืด มีความผีพนันเข้าสิง แบบว่าลองอีกครั้งน่า อีกครั้งน่า จนเหรียญแทบเกลี้ยงกระเป๋ากันตลอดกว่าจะได้ซักตัว

เจ้าร้านปาจิงโกะที่ถือว่าเป็นร้านเกมสำหรับผู้ใหญ่ วิธีการเล่นเขาก็มีอยู่หลายแบบนะครับ แต่ที่นิยมกันก็จะเป็นตู้แบบดีดลูกเหล็กลงช่อง และแบบสล็อต ปัจจุบันมีแบบดิจิตอลเพิ่มขึ้นมาหลายแบบ แต่ที่คนนิยมเล่นก็ยังเป็นแบบดีดลูกเหล็กกับสล็อตนี่แหละ เพราะคนชินกันมากกว่า มั่นใจว่าจะเล่นแล้วได้มากกว่าเสีย (ก็คนที่เล่นส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีอายุ แล้วก็เล่นกันมานานแล้วอะเนอะ) 

จุดประสงค์ของคนมาเล่นปาจิงโกะก็มีทั้งอยากผ่อนคลาย เล่นสนุก ๆ แต่บางคนเล่นจนติด บางคนก็จริงจังถึงขั้นทำเป็นอาชีพเลยก็มี ส่วนมือใหม่ หรือนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ที่อยากรู้อยากเห็นเข้าไปลองเล่น ส่วนใหญ่ก็จะเหมือน ๆ กัน คือกลับออกมาในสภาพหมดตัวกันถ้วนหน้า พร้อมลูกอมเป็นของปลอบใจสองสามเม็ด

ส่วนวิธีเล่นจะไม่ขอเล่าอะไรมาก เพราะยังไงการพนันก็คือการพนัน แล้วผมก็ไม่ได้สนับสนุนให้ใครเล่นการพนัน แต่ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้คือเรื่องราวของ “ความเนียน” ที่ทำให้ร้านปาจิงโกะไม่ผิดกฎหมายในญี่ปุ่นนะครับ 

สำหรับคนที่ยังสงสัยว่าปาจิงโกะมันคือการพนันใช่ไหม ก็ต้องขอตอบตรงนี้เลยว่า “ใช่ครับ” มันคือการพนันเห็น ๆ เลย จ่ายเงินไป ของที่ได้กลับมาก็คือได้เงินหรือหมดตัว เหมือนกับการพนันอื่น ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ปาจิงโกะสามารถอยู่ได้ทุกมุมในประเทศญี่ปุ่นโดยที่ไม่ผิดกฎหมาย ก็เพราะความพยายามเลี่ยงกฎหมาย หรือความเนียนของมันนั่นแหละ

คือถ้าเป็นการพนันอื่น ๆ เราจ่ายเงินไปเล่นชนะได้เงินมา มันก็จบแค่นั้น แต่ถ้าเป็นบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายในประเทศที่การพนันถูกกฎหมายก็อาจจะมีระบบชิปเข้ามา เราเดินเขาไปจ่ายเงินแลกชิปพนัน วางเงินเดิมพัน ชนะได้ของรางวัลมาเป็นชิป แล้วก็ค่อยเอาชิปนั้นไปแลกกลับมาเป็นเงิน 

ปาจิงโกะก็ใช้ระบบที่คล้าย ๆ การแลกชิปในบ่อนคาสิโนนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่ามีความเนียนเพิ่มขึ้นกว่านั้นอีกชั้น เพราะร้านปาจิงโกะที่เราเห็นนั้น จริง ๆ เขาเหมือนมี 3 ร้านเปิดอยู่ด้วยกันแบบเนียน ๆ ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ เพื่อเลี่ยงกฎหมายครับ ซึ่งมันก็จะมีวิธีหลายแบบแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน แต่ที่นิยมทำกันก็จะประมาณนี้

เริ่มจากในส่วนแรกก็จะเป็นส่วนที่เราเห็นกัน เป็นส่วนที่ให้คนเข้าไปนั่งเล่น โดยก่อนจะเล่นก็จะนำเงินไปแลกเป็นลูกเหล็กที่เคาเตอร์แล้วก็ไปเล่น ถ้าเล่นแพ้หมดตัวก็จะหยุดลงตรงนั้น แต่ถ้าชนะได้รางวัลก็จะได้มาเป็นลูกเหล็กที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า ก็ให้เอาลูกเหล็กกลับไปให้พนักงาน เขาก็จะตรวจนับลูกเหล็กด้วยเครื่องแล้วก็ออกใบเสร็จมาให้ เราก็นำใบเสร็จนั้นไปแลกเป็น “การ์ด” ซึ่งการ์ดนี้ไม่สามารถเอาไปแลกเป็นเงินสดได้ แต่เขาจะให้เอาไปแลกเป็นของรางวัล ขนม ทิชชู่ ของใช้ทั่วไปจากอีกร้านหนึ่ง 

ตรงนี้ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็อาจจะเดินออกจากร้านมาแบบงง ๆ พร้อมทิชชู่ ลูกอมในมือและมีคำถามว่า นี่อิหยังวะ เล่นมาตั้งนานได้ลูกอมกับทิชชู่ ? นั่นเป็นเพราะเรายังไม่ได้เดินไปยังร้านที่ 3 ของปาจิงโกะครับ !!

ส่วนที่ 3 นี่จะเป็นส่วนที่ลึกลับที่สุดของร้านปาจิงโกะ เพราะมันจะตั้งอยู่นอกร้าน เป็นเคาเตอร์ลึกลับที่เราจะมองไม่เห็นแม้กระทั่งว่ามีคนอยู่ข้างในไหม ตรงส่วนนี้คือเคาเตอร์สำหรับแลกเงินนั่นเอง ซึ่งเราก็จะเอาของที่ได้จากร้านที่สองไปแลกกลับมาเป็นเงินจากร้านที่สาม บางร้านคือเอาของไปแลกเป็นเงินจริง ๆ เลย เพราะร้านที่สามนี่จะทำตัวเนียนเป็นร้านรับซื้อของเก่าธรรมด๊าธรรมดา ไม่ได้เป็นการพนันจริง ๆ นะ บังเอิญเปิดร้านรับซื้อของเก่าอยู่ตรงนี้พอดีเฉย ๆ 

ของที่ได้มาก็จะเวียนกลับไปยังร้านที่สองนั่นแหละ แต่ในปัจจุบันหลายร้านก็ออกเป็นใบเสร็จจากร้านที่สองมาให้เอาไปแลกที่ร้านที่สามได้เลย ไม่ต้องแบกของออกมาให้ลำบาก ยื่นกระดาษเข้าไป พนักงานผู้ลึกลับก็จะดึงกระดาษเราเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ส่งเงินกลับมา ส่วนลูกอม ทิชชู่นี่ก็แถมให้เอากลับบ้านไปเลย ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็จะบอกว่าเขาไม่ผิดกฎหมาย เพราะจดทะเบียนร้านคนละแบบกัน แล้วก็ไม่ได้รู้จักกัน แค่มาอยู่ใกล้ ๆ กันเฉย ๆ เนียน ๆ ไปแบบนี้ อืมมม เชื่อก็ได้แหละแก

เอ๊ะ ! แล้วถ้าถามว่าตำรวจเขาไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าร้านมันมีระบบเนียนแบบนี้อะ ? คือขนาดคนนอกอย่างเรายังรู้เป็นฉาก ๆ แบบนี้ ทำไมตำรวจเขาจะไม่รู้ล่ะครับ เขาก็รู้เหมือนที่เรารู้นั่นแหละ เพียงแต่ว่าเขาก็เอาหูเอานาเอาตาไปไร่ อารมณ์ก็คล้าย ๆ บ้านเราที่บอกว่าตรวจจับที่พัทยาไม่เจอการขายบริการ ตรวจจับหน้ากากอนามัยเกินราคาก็ไม่พบอะไรประมาณนั้น 

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าธุรกิจเทา ๆ ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เบื้องหลังก็จะมียากูซ่าหรือผู้มีอิทธิพลเข้ามาเอี่ยวอยู่เสมอ ตำรวจญี่ปุ่นเขาก็ไม่ค่อยอยากจะมีปัญหากับแก๊งยากูซ่าอยู่แล้ว ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแบบทุกวันนี้ อีกอย่างหนึ่งก็คือธุรกิจปาจิงโกะนี่ถือเป็นธุรกิจบันเทิงที่สร้างรายได้ นำเงินเข้าประเทศจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

แต่จากสถิติแล้ว ก็พบว่าร้านปาจิงโกะในญี่ปุ่นเริ่มมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ครับ ทั้งนี้ก็เพราะว่าส่วนใหญ่คนที่ยังเล่นปาจิงโกะอยู่ก็จะมีแต่ขาประจำทั้งนั้น ร้านใหม่ ๆ ที่เปิดมาหวังจะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาก็ประสบสภาวะขาดทุนจนต้องปิดกิจการไปหลายร้านเช่นกัน ดังนั้นร้านที่ยังเจริญรุ่งเรืองอยู่ได้ในปัจจุบันจึงเป็นร้านที่เปิดมานานหรือเป็นขาใหญ่ในย่านนั้น ๆ

แม้จะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดของญี่ปุ่นไปแล้ว แต่ร้านปาจิงโกะส่วนใหญ่ก็ยังคงเปิดทำการตามปกติ และทางการญี่ปุ่นก็ทำได้แค่ “ขอความร่วมมือ” จากร้านปาจิงโกะให้ปิดไปบ้างก็เท่านั้น แต่กลายเป็นว่าเราก็เห็นภาพชาวญี่ปุ่นต่อแถวยาวเหยียดเพื่อจะได้เข้าไปเล่นปาจิงโกะในร้านอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าตอนนี้ไวรัสจะระบาดจนถึงขั้นวิกฤตแล้วก็ตาม

เฮ้อ ก็เป็นกันซะแบบนี้แล้วไวรัสมันจะหายเมื่อไรล่ะเนี่ย !

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook :Eak SummerSnow

Youtube : Eak SummerSnow

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0