โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ลุย “หุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ” ในตลาด “NASDAQ” ง่ายๆ ผ่าน...“กองทุนดัชนี” !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 22.23 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2564 เวลา 16.18 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

คงมีนักลงทุนหลายคนที่เริ่มรู้จักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับ “กองทุนรวมดัชนี (Index Fund)” ไม่ว่าจะมาจากการศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองหรือการเรียนรู้และศึกษาผ่านการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ
ซึ่งจะรู้ได้ว่า “กองทุนรวมดัชนี” สามารถจะอ้างอิงกับดัชนีของสินทรัพย์อะไรก็ได้ ในส่วนของ “ดัชนีหุ้น” เองหุ้นที่ถูกคิดคำนวณในดัชนีบางตลาดจะมีความหลากหลายด้านอุตสาหกรรมหรือบางตลาดก็จะมีอุตสาหกรรมที่ไม่มากนักทำให้ย่อมมีทั้ง ‘ข้อดี’ และ ‘ข้อเสีย’ ที่แตกต่างกันออกไป
แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนอิงตามธีมที่เป็นกระแสของโลกหรือตามกระแสที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็อาจจะสงสัยว่าการลงทุนใน “กองทุนรวมดัชนี” ที่ลงทุนสไตล์ Passive Fund” นั้นจะเหมาะสมหรือไม่ จะสู้สไตล์ Active Fund” ได้มั้ย?
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงมี “กองทุนรวมดัชนี” ที่น่าสนใจมาแบ่งปันข้อมูลให้กับนักลงทุนหรือผู้อ่านที่กำลังมองหาการลงทุนอิงตามกระแสหรือเทรนด์ในอนาคตอย่าง “กลุ่มเทคโนโลยี” มาแชร์ให้ฟังกัน

“กองทุนดัชนี”…อีกทางเลือกคว้าโอกาสลงทุนใน “หุ้นเทคโนโลยี” ตลาด NASDAQ

โดยตลาดที่เราพูดถึงในข้างต้นก็คงมีผู้อ่านพอเดาออกว่าเป็นตลาดประเทศอะไรแต่คนที่อาจจะยังไม่เข้าใจนั้น ตลาดหุ้นดังกล่าวก็คือ Nasdaq-100” ที่ในปัจจุบันถือเป็นตลาดที่รวม ‘หุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของโลก’เข้าไว้ในที่เดียว
“ซึ่งฟังดูอาจจะอลังการไปบ้าง แต่ความจริงนั้นในปัจจุบันหลังจากเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ไว้ส่งผลให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยการแก้ปัญหาด้านต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ ‘ธุรกิจเทคโนโลยี’ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในธีมเมกะเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า”
ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเป็นสิ่งตอกย้ำของแนวคิดข้างต้น บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาด Nasdaqก็ได้พิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นถึงผลประกอบการของบริษัทที่เติบโตได้ดีสวนทางกับธุรกิจอื่น ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq เป็นอีกดัชนีที่ทะยานทำ ‘จุดสูงสุดใหม่’อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

Invesco QQQ Trust” ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีได้ 18.01%

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ตลาด Nasdaq-100” จะเป็นอีกหนึ่งที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีกองทุนที่ลงทุนในตลาดนี้ทั้งที่เป็น Active Fund และ Passive Fund เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางเราจึงอยากจะหยิบยก “กอง ETF” ที่มีนโยบายลงทุนใน Nasdaq-100 ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย และมีค่าธรรมเนียมการลงทุนที่ถูกกว่ามาแนะนำกัน
โดยกอง ETFดังกล่าวที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯ มีอยู่ด้วยกัน 5 กอง แต่ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้มีแค่ 2 กอง ก็คือ Invesco NASDAQ 100 ETF”และ Invesco QQQ Trust”เพราะเป็นกองที่นักลงทุนไทยสามารถลงทุนได้ง่ายผ่านบลจ.ในไทย เป็นของ Invesco” ทั้งคู่
กองแรก Invesco QQQ Trust” เป็นกองที่การลงทุนส่วนใหญ่ในหุ้นตามดัชนี Nasdaq-100 หรือในอีกความหมายก็คือเป็นดัชนีที่รวมบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด 100 บริษัท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 ต.ค. 64) ได้ 18.01%
ซึ่งบลจ.ไทยที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยีทั้ง 100 แห่ง ผ่านกองทุนรวมก็จะมีตั้งแต่ ‘บลจ.บางกอกแคปปิตอล’ ภายใต้ชื่อ “กองทุนเปิดบีแคป หุ้นยูเอส เอ็นดี 100” หรือ BCAP-USND100”
และ ‘บลจ.กสิกรไทย’ กับ “กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดสะสมมูลค่า” หรือ K-USXNDQ-A(A)” ที่จะมีทางเลือกให้แก่นักลงทุนทั้งแบบ ‘ไม่จ่ายเงินปันผล’ และ ‘จ่ายเงินปันผล’ ในกอง K-USXNDQ-A(D)

Invesco NASDAQ 100 ETF” ทำผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 18.07%

ส่วนอีกหนึ่งกองก็คือ Invesco NASDAQ 100 ETF” ที่จะลงทุนในหุ้นของบริษัททั้งในและนอกประเทศสหรัฐฯ ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดทั้ง100 บริษัท แต่จะเน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำ ตั้งแต่ต้นปีทำผลตอบแทนได้ 18.07%
ซึ่ง ‘บลจ.ไทยพาณิชย์’ เป็นบลจ.เดียวที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ลงทุนผ่าน “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว (ชนิดสะสมมูลค่า)” หรือ SCBNDQ(A)” ที่ได้มีทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนตั้งแต่ ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และกองทุนชนิดเพื่อการออม (SSF)
“ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึงจะเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่แล้ว แต่หุ้นบางอุตสาหกรรมก็จะอาจจะให้ผลตอบแทนที่ไม่ได้หวือหวามากนัก จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่นักลงทุนเองก็ต้องหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นก็จะต้องหา ‘หุ้นธีมเมติก’ เข้ามาเสริมให้แก่พอร์ตลงทุน อย่าง ‘หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี’ในตลาด NASDAQ เป็นต้น”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...