โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ (Antepartum depression) คืออะไร?

HonestDocs

อัพเดต 07 ต.ค. 2562 เวลา 19.14 น. • เผยแพร่ 07 ต.ค. 2562 เวลา 19.14 น. • HonestDocs
โรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ คืออะไร? เกิดขึ้นจากอะไร? มีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง? โรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ อันตรายหรือไม่? มีภาวะแทรกซ้อน อะไรบ้าง? อ่านได้ที่นี่

การตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและตื้นตันใจสำหรับผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้ว่าที่คุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล สับสน เครียด และซึมเศร้าได้ โดยพบว่าประมาณ 1 ใน 4 ของหญิงที่ตั้งครรภ์ ประสบกับโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ (Antepartum depression)

โรคซึมเศร้าเป็นอาการป่วยทางจิตที่พบได้ทั่วไป ส่งผลให้คุณมีความรู้สึกด้านลบที่รุนแรง มีอารมณ์เศร้า สูญเสียความมั่นใจ หมดความสนใจในสิ่งต่างๆ รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า ซึ่งอาการเหล่านี้รบกวนชีวิตความเป็นอยู่และการทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันเป็นระยะเวลานาน

บ่อยครั้งโรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์มักไม่ได้รับการวินิจฉัย เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นภาวะฮอร์โมนผิดปกติที่พบได้ทั่วไปในคนท้อง ซึ่งโรคซึมเศร้าที่ไม่ได้รับการรักษาอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคุณแม่เองและเด็กในท้องได้ 

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

โดยทั่วไปแล้ว โรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์มักเกิดจากภาวะสุขภาพจิตและการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอื่นๆ ระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น สภาพร่างกาย การนอนหลับ และการรับประทานอาหารก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ได้ ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ มีดังนี้

  • เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน 
  • ขาดคู่ชีวิตหรือการดูแลจากคนรอบข้างระหว่างการตั้งครรภ์
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์
  • เคยถูกทารุณกรรมหรือเคยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
  • มีประสบการณ์ชีวิตที่ก่อให้เกิดความเครียด
  • มีปัญหาทางการเงิน ขัดสนเรื่องค่าใช้จ่าย
  • มีพฤติกรรมติดสารเสพติด
  • รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
  • เคยสูญเสียลูกมาก่อนหน้านี้หรือแท้งลูก
  • วิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวทารก เช่น ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากการตั้งครรภ์
  • ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม

อาการของโรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์

อาการของโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์นั้นคล้ายคลึงกับอาการโรคซึมเศร้าทั่วๆ ไป คุณอาจมีอาการดังต่อไปนี้ติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์

  • รู้สึกเศร้าไม่หายและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
  • ไม่มีสมาธิ มีปัญหาเกี่ยวกับการจดจำหรือการตัดสินใจ
  • รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า และรู้สึกผิด
  • หมดความสนใจ ไม่รู้สึกสนุกในกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่เคยชอบ
  • อ่อนเพลีย
  • นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
  • ฉุนเฉียวง่าย
  • มีความคิดเรื่องการฆ่าตัวตาย
  • การรับรู้รสชาติอาหารเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน กินมากหรือน้อยจนเกินไป หรืออาจเบื่ออาหาร
  • มีพฤติกรรมเสี่ยง ประมาทในการใช้ชีวิต

ภาวะแทรกซ้อนของโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์

หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคซึมเศร้ามีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง และมีภาวะครรภ์เป็นพิษเนื่องจากความดันโลหิตสูงระหว่างการตั้งครรภ์ มากกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่เป็นโรคซึมเศร้า

นอกจากนี้ ผู้หญิงที่เป็นโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิด[โรคซึมเศร้าหลังคลอด](https://www.honestdocs.co/what-is-postpartum-depression)สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นในผู้หญิงประมาณ 15% ที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร 

จากรายงานของสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ หากไม่ได้รับการรักษา โรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์โดยเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดภาวะต่อไปนี้

  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร
  • เด็กที่คลอดออกมามีน้ำหนักตัวน้อย
  • การคลอดก่อนกำหนด
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • ความบกพร่องด้านการเรียนรู้ของทารก

การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์

การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าในช่วงตั้งครรภ์อาจเป็นเรื่องยาก บางครั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างอาจไม่สังเกตเห็นความผิดปกติเลยก็ได้ เพราะอาการคล้ายคลึงกับอาการที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ทั่วไป เช่น มีปัญหาด้านการนอนหลับ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ความต้องการทางเพศลดน้อยลง เป็นต้น ดังนั้น คุณควรปรึกษาแพทย์ หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการตั้งครรภ์หรือโรคซึมเศร้ากันแน่ 

การรักษาโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์

โรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้โดยมีหลักการรักษาเหมือนโรคซึมเศร้าทั่วไป การรักษาต่างๆ มีแนวทางดังนี้

  • การให้คำปรึกษาหรือการใช้เทคนิคเฉพาะทางเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้น เช่น การบำบัดด้านความคิดและพฤติกรรม (CBT) การบำบัดด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เป็นต้น
  • การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนต่างๆ
  • การบำบัดด้วยการกระตุ้นสมอง เช่น การกระตุ้นด้วยคลื่นไฟฟ้า (Electroconvulsive therapy) ซึ่งเป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าชนิดอ่อนเข้าสู่สมอง
  • การใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า แต่วิธีนี้มีความเสี่ยงต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์ จึงต้องคำนึงถึงประโยชน์และเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียจากการใช้ยานี้อย่างถี่ถ้วน

นอกจากนี้ การรักษาแบบธรรมชาติบำบัด เช่น การเล่นโยคะ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน และการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ก็มีส่วนช่วยรักษาโรคซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ได้

👨‍⚕️⚕️👩‍⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id 

💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @honestdocs หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้

📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ

เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง

ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...