ไม่รู้เหมือนกันนะว่า คำว่า “รักตัวเอง” เริ่มฮิตกันขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือว่ามันเกิดจากจุดอิ่มตัวของผลรวมความพยายามที่สูญเปล่าที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทั้งกับตัวเราเอง หรือได้ยิน หรือรับฟังมาจากคนใกล้ตัว หรือเป็นเรื่องที่เราเห็นผ่านตาบ่อย ๆ ของคนเหงาบนโลกออนไลน์ จนเราทุกคนเริ่มรู้สึกคล้าย ๆ กันว่า เอ๊ะ..นี่ (พวก) เรากำลังทำอะไรกันอยู่
เรารักคนที่เขาไม่ได้รักเรา เราทุ่มเทให้กับคนที่ไม่ได้เห็นเราสำคัญ เราให้เวลากับคนที่ไม่เห็นค่า เรายอมรอคนที่เลือกเราเป็นตัวสำรอง เรายอมโดนหลอกทั้งที่ใคร ๆ ก็มองออกว่าจริง ๆ เป็นยังไง เราเป็นตัวเลือกให้เขาเสมอแม้เขาไม่เคยเลือกเราเลย เราวิ่งตามคนที่ไม่คิดจะหยุดรอ เอ๊ะ..นี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่
เรารักคนอื่นมากจนเราเจ็บเอง จนคนรอบข้างเราเป็นกังวล จนเพื่อนฝูงเป็นห่วงเป็นใย นั่นแหละ..จนมาถึงจุดหนึ่ง เราถึงได้รู้สึกว่านี่เรารักเขาซะจนกลายเป็นไม่รักตัวเอง เออ “รักตัวเอง” คนที่เราควรรักก่อนใคร แต่ดันเอาไว้สุดท้ายซะงั้น เมื่อนั้นคำว่า “รักตัวเอง” มันเลยเริ่มถูกพูดถึงกันขึ้นมาบ่อย ๆ …หรือเปล่านะ
มีคำสอนของพระเยซูประโยคหนึ่ง ที่แม้คนไม่ได้เป็นคริสตชนอย่างผม ก็น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง นั่นคือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”
จริง ๆ คำสอนนี้ของพระเยซู นัยยะที่สำคัญ คือการบอกว่า ถ้าโดยปกติเรารักตัวเองอย่างไร ก็ให้เราแสดงความรัก ความเอื้ออาทร ความปรารถนาดีต่อคนอื่นอย่างนั้นเช่นกัน คือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำดีต่อกันและกัน โลกเราจะได้มีสิ่งดี ๆ และความสุข
แต่ในอีกนัยยะหนึ่งที่ซ่อนอยู่นั้น เราอาจจะมองเห็นอีกความหมายหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กันเลย นั่นคือ
“ถ้าเราไม่รักตัวเอง แล้วเราจะไปรักคนอื่นได้อย่างไร”
แล้วมันเป็นไปได้ยังไง ที่คนเราจะไม่รักตัวเอง?
มันก็เป็นไปแล้วแหละครับ และน่าจะเป็นมาตลอดทุกยุคทุกสมัย เป็นกันมานานแล้ว เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ตัวกัน หรือไม่ก็รู้ตัวช้าเกินไป
จึงมีคำโบราณที่กล่าวเตือนไว้ว่า “ความรักทำให้คนตาบอด”
เมื่อตาบอดก็ย่อมหลงทาง เดินชนสิ่งกีดขวาง ตกหลุมตกบ่อ เจ็บเนื้อเจ็บตัวกันไปตาม ๆ กัน เวลาเรารักใครมาก ๆ เรามักจะเข้าข้างคนที่เรารัก หรือไม่เราก็จะเข้าข้างตัวเอง แต่เรามักไม่เข้าข้างความจริง
ต่อให้เขานิสัยไม่ดีกับคนอื่นไปทั่ว เราก็จะคิดว่า “แต่เขาดีกับเรานะ”
ต่อให้เขาเจ้าชู้ เราก็จะคิดว่า “มันก็มีบ้าง คนอื่น ๆ ก็เป็นนะ เดี๋ยวก็คงเลิก”
ต่อให้เขาโกหก เราก็คิดว่า “เขาขอโทษแล้ว และบอกว่าจะไม่ทำอีก”
เวลาคนเราเอาตัวเองเข้าไปใกล้กับอะไรมาก ๆ เราย่อมมองไม่เห็นภาพรวม บางทีใกล้ไป ก็มองไม่ชัด ไกลไปก็แทบไม่เห็นอะไร จมูกอยู่บนหน้าเราแท้ ๆ เรายังมองไม่เห็นมันเลย กระจกต่างหากที่ช่วยส่องให้เราเห็นชัด
เพื่อนต่างหากที่มักเป็นคนบอกเรา เตือนเราว่า “กลับมารักตัวเองเถอะ”
บางทีเราลืมไปนะครับว่า เราไม่มีทางรักคนอื่นได้ดีหรอก ถ้าขนาดตัวเราเอง เรายังไม่รักเลย
ถ้าเรารักคนอื่น แล้วตัวเราเจ็บปวด
ถ้าเรารักคนอื่น แล้วตัวเราไร้ค่า
ถ้าเรารักคนอื่น แล้วทำให้เราทำผิดศีลธรรม
ถ้าความรักของเรา มันทำร้ายคนอื่นที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว จนตัวเรากลับถูกดูถูกดูหมิ่น
ถ้าความรักของเรา ทำให้คนรอบตัวที่รักเรา พ่อแม่เพื่อนฝูงทุกข์ใจ ที่เห็นเราเศร้าเสียใจอยู่ทุกวัน
นั่นแหละ เรากำลังไม่รักตัวเอง และสุดท้ายเราก็จะไม่รับความรักกลับมาจากคน ๆ นั้นที่เราหวังหรอก เพราะเราเริ่มต้นผิด
กลับมาทำตัวเองให้มีคุณค่าก่อน รักตัวเองให้เป็น
รักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัวเอง แต่รักตัวเองคือมอบสิ่งดีที่คู่ควรให้กับตัวเอง ใส่ใจกับการทำชีวิตตัวเองให้มีสุขภาพจิตที่ดี เป็นคนที่คนอื่นอยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่เป็นคนที่วิ่งหาคนอื่นตลอดเวลา
ของดี ของมีค่า ของที่มันสง่างาม มีราคา จะมีคนยอมจ่ายราคาเพื่อให้ได้มันมาเสมอ
ดูแลตัวเอง จิตใจ ความคิดให้ดี วันหนึ่งคนที่เหมาะสมและคู่ควรจะปรากฎตัวมาเองครับ
กลับมารักตัวเองก่อน รักตัวเองให้เป็น แล้ววันหนึ่งจะมีคนรักเรา
ความเห็น 4
J.. E.. W🥢
รักตัวเองแล้วเหงา... หันมารักกะเราก็ได้นะ 😘
04 ต.ค. 2562 เวลา 04.00 น.
การเอาใจใส่ตัวเองบ้างย่อมทำให้คนรอบข้างเห็นคุณค่าในตัวของเรา.
04 ต.ค. 2562 เวลา 08.24 น.
ทำตามโจทย์ในใจของตัวเองเพราะคนที่ให้โจทย์ในใจของเรามาคือคนทีรักและหวังดีกับเรามากที่สุดอาจดูเหมือนคล้ายๆ คนที่ตามใจตัวเองเพราะเราคือ หัวใจที่ดี....ทำทุกๆ วันให้ดีที่สุด..ขอให้เชื่อในเซ้นท์ที่คุณมีติดตัดตัวมาตั้งแต่เกิด..ควรใช้เซ็นท์เหล่านี้ในการหาเนี้อคู่ของคุณ.
04 ต.ค. 2562 เวลา 23.15 น.
Jansom Rongrung
คนบางคนใม่เห่นค่าของความรัก
04 ต.ค. 2562 เวลา 04.07 น.
ดูทั้งหมด