JWD ลั่นรายได้ปีนี้โต 10% เล็งขายธุรกิจอาหารในไต้หวัน
JWD ลั่นรายได้ปีนี้โต 10% เล็งขายธุรกิจอาหารในไต้หวัน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 มี.ค. 63 12:33 น.
JWD ตั้งเป้ารายได้ปี 63โต 10% บันทึกรายได้ท่าเรือชายฝั่ง-ขนส่งสินค้าทางรถไฟ จับตา COVID-19 หากแพร่ระบาดนานถึงไตรมาส 3/63 จ่อทบทวนเป้าธุรกิจอีกรอบ เล็งขายหุ้นธุรกิจอาหารในไต้หวัน หันเน้นธุรกิจโลจิสติกส์
นาย ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 10% โดยธุรกิจให้บริการท่าเรือชายฝั่งในนิคมฯจะสามารถดำเนินการได้ในปีนี้ ทำให้มีบันทึกรายได้ ประกอบกับจะมีรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟที่คาดว่าในปีนี้จะขยายตัวได้ดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจให้บริการคลังสินค้า และห้องเย็น รวมถึงการจัดเก็บสินค้าอันตรายที่เป็นธุรกิจยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการใช้เฉลี่ยมากกว่า 80%
อย่างไรก็ตามบริษัทยังติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 หากลุกลามไปถึงช่วงไตรมาส3/63 อาจจะต้องปรับเป้าหมายอีกครั้ง เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัท อาจจะต้องมีการปรับลดกำลังการผลิต และจะกระทบต่ออัตราการใช้คลังสินค้าของบริษัท ดังนั้นที่ผ่านมา บริษัทจึงได้วางกลยุทธ์ใ ไม่พึ่งพาธุรกิจคลังสินค้าเพียงอย่างเดียว ล่าสุดในธุรกิจบริษัทบริการรับฝากและบริหารยานยนต์ บริษัทได้รับงานจากลูกค้าใหม่ 3 ราย คิดเป็นมูลค่างานที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้รวมกว่า 130 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาขายหุ้นในสัดส่วน 60% ที่ถืออยู่ในบริษัท Chi Shan Long Feng Food Co., Ltd. (ประเทศไต้หวัน) ซึ่งประกอบธุรกิจ Food servic หลังจะกลับไปเน้นลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ถึงแม้ว่าบริษัทดังกล่าวจะลงทุนในธุรกิจตัดผักเพื่อเป็นวัตถุดิบให้กับผู้ประกอบการอาหารในไต้หวัน แต่าไม่น่าจะช่วยสร้างผลกำไรให้เติบโตเท่าที่ควร
บริษัทมีแผนจะซื้อกิจการโลจิสติกส์ และธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน จำนวน 2แห่ง คาดได้ข้อสรุปปีนี้ นอกจากนี้ มีแผนจะขายสินทรัพย์เข้ากองรีท มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ภายในปี 64 ซึ่งจะเป็นคลังสินค้าประเภท Built-to-suit โดยปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่คลังสินค้าประมาณ 1ล้านตร.ม.และได้ทำการขายไปแล้วกว่า 30,000 ตร.ม.
ลักษณะธุรกิจของ JWD
บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการทางด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรภายในภูมิภาคอาเซียน ครอบคลุมประเทศ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย แบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ได้แก่ (1) บริการรับฝากและบริหารสินค้า ทั้งบนพื้นที่ทั่วไปและพื้นที่เขตปลอดอากร โดยแบ่งสินค้าที่ให้บริการได้ 4 ประเภทคือ สินค้าทั่วไป สินค้าอันตราย รถยนต์และสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง (2) บริการขนส่งสินค้าในประเทศ และขนส่งสินค้าข้ามแดน (3) บริการขนย้ายให้กับบุคคลและองค์กรทั้งในและต่างประเทศ (4) บริการจัดการเอกสารและข้อมูล เช่น บริการรับฝากข้อมูล บริการรับฝากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บริการทำลายเอกสาร และบริการขนส่งเอกสาร เป็นต้น (5) ธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ให้เช่าอาคารสำนักงานและคลังสินค้า บริการซัพพลายเชนสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรายงาน โดย สันติภาพ เกตุสร้อย เรียบเรียง โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.comอนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
ดูข่าวต้นฉบับ