10 อย่างไม่จำเป็น ที่ควรตัดออกจากชีวิตให้ไว

รู้ไหม..บางทีคนเราก็มีเรื่องไม่สำคัญในชีวิตมากเกินไป ทั้งที่ไม่จำเป็น ไม่สำคัญ แถมยังบั่นทอนการใช้ชีวิต แต่เราก็มักเลือกที่จะเก็บสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ เพื่ออะไรกันก็ไม่รู้

เก็บ..ทั้งที่ไม่จำเป็น

คิด..ทั้งที่ไม่สำคัญ

สุดท้ายชีวิตก็มีแต่เรื่องที่เป็นขยะที่ทำให้เราเดินหน้าไปต่อไม่ได้ ลองสำรวจตัวเองดูว่าคุณมี 10 อย่างไม่จำเป็นต่อชีวิตเหล่านี้หรือไม่ ถ้ามีก็รีบ ๆ ตัดออกจากชีวิตไปซะ แล้วเดินหน้าต่อ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าซักที

1. อัตตา

คือตัวตน มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่เรียกว่าอัตตาอยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่สั่งสมมาในชีวิต ท่านพุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า “อย่าเห็นอะไร ๆ เป็น “ตัวกู” หรือ “ของกู” แต่จงทำอะไร ๆ ด้วยความรู้ตัวอย่างแจ่มแจ้ง แล้วเราก็จะไม่เป็นทุกข์”

2. ความยึดมั่น ถือมั่น

ถัดไปจากการตัดอัตตาทิ้งไปแล้ว ก็ต้องตัดความยึดมั่น ถือมั่นทิ้งไปด้วย ยึดมั่นในที่นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ตัวเอง แต่เป็นการเอาตัวเองไปผูกยึดกับคนหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างถาวร แม้แต่ร่างกายก็แค่ยืมมาใช้เท่านั้น เมื่อหมดอายุขัยก็ต้องคืนร่างกายนี้ไป ดังนั้นยึดถือไว้ก็มีแต่หนัก ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย

3. คนที่ไม่สำคัญ

ลองนึกดูให้ดี บางทีเราก็มีคนไม่สำคัญในชีวิตมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคนรักเก่าที่ตัดไม่ขาดหรือเพื่อนไม่ดีที่เลิกคบไม่ได้ซะที คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะคอยบั่นทอนกำลังใจในการใช้ชีวิตเรา แต่ยังฉุดพรากตัวเราให้เดินหน้าต่อไปไม่ได้ซักที เพราะมัวแต่ยึดติด ทางที่ดีคือตัด ๆ ออกไปซะบ้าง คนไม่ดีคบไปก็เปล่าประโยชน์ มีแต่จะพาเราไปพบเจอแต่เรื่องไม่ดี เข้าทำนองคบคนพาล พาลพาไปหาผิดนั่นแหละ

4. อดีตที่ไม่น่าจดจำ

คิดไว้เสมอว่าอดีตก็คืออดีต โดยเฉพาะอดีตที่ผิดพลาด ไม่น่าจดจำ จะย้อนไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้ เราทำได้แค่เพียงเก็บอดีตเหล่านั้นไว้เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ที่คอยสอนตัวเองไม่ให้ผิดพลาดซ้ำ ๆ ซาก ๆ อีก แต่อย่าเก็บมาคิดจนทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี

5. ปัญหาที่แก้ไม่ได้

บางคนไม่รู้ว่าบางปัญหาก็ไม่ได้มีไว้แค่ แต่มีไว้ให้เรายอมรับและอยู่กับมันให้ได้ต่างหาก เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ อย่าเพิ่งตั้งหน้าตั้งตาแก้ให้สำเร็จในคราวเดียว การทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้หมดพลังชีวิตและเครียดโดยใช่เหตุไปซะเปล่า เมื่อรู้แล้วว่าปัญหานั้นแก้ไม่ได้ สิ่งที่เราต้องทำก็คือเลิกคิด เลิกแก้ แต่ให้หาทางที่จะอยู่กับปัญหานั้นอย่างสงบสุขแทน

6. ความคิดแง่ลบ

ผลวิจัยในต่างประเทศระบุว่าคนเรามีความคิดไม่ดีหรือความคิดลบมากกว่าความคิดในแง่บวกซะอีก และความคิดแง่ลบก็จะทำให้เกิดจินตนาการร้าย ๆ ที่ทำให้เรามองโลกในแง่ร้ายโดยไม่รู้ตัว พอมองโลกแง่ร้ายมากเข้าก็เป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิต ทำให้ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรซักอย่าง ที่สำคัญก็คือเราจะไม่สามารถมีความสุขกับอะไรได้สักอย่าง เพราะความคิดของเราจะจมดิ่งอยู่แต่กับเรื่องร้าย ๆ นั่นเอง

7. ความกลัวที่จะผิดพลาด

ความกลัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนทุกคนมีความกลัวด้วยกันทั้งนั้น แต่ต้องไม่ใช่ความกลัวที่จะผิดพลาดจนไม่กล้าเริ่มอะไรซักอย่าง เพราะความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลัวที่จะผิดพลาด ก็หมายความว่าเราไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จได้เลย ทางที่ดีอย่ากลัวที่จะทำผิด แต่ให้กลัวที่จะไม่ได้ทำจะดีกว่า

8. นิสัยแย่ ๆ

เราทุกคนมีนิสัยด้านลบในตัวด้วยกันทั้งนั้น ทั้งความขี้เกียจ เห็นแก่ตัว ขี้วีน ฯลฯ บางคนรู้ทั้งรู้แต่ก็ปล่อยให้เจ้านิสัยแย่ ๆ เหล่านี้เกาะกินจนกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง ซึ่งนิสัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมาย แต่บ่อยครั้งที่ยังมาบั่นทอนความก้าวหน้าในชีวิต สิ่งที่เราทำได้ก็คือเราต้องรู้จักตัวเอง รู้ว่านิสัยเราเป็นยังไง อะไรที่รู้ว่าแย่ ว่าผิดก็ต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้นิสัยแย่ ๆ มาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต

9. ความคิดของคนอื่น

บ่อยครั้งที่ความคิดของคนอื่นทำให้เรารู้สึกแย่โดยไม่จำเป็น ทั้งที่ความจริงแล้วความสุขของเราต่างหากที่จะควรจะมาเป็นอันดับหนึ่ง อย่าเอาความคิดของใครมาทำให้เราเป็นทุกข์ เค้าจะคิดยังไงก็เป็นเรื่องของเค้า เราควบคุมความคิดของเค้าไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะมีทำในสิ่งที่เรามีความสุขได้

10. การมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

รู้หรือไม่..เราทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ถ้าเราเองยังไม่สามารถนับถือและเคารพตัวเองได้ แล้วใครที่ไหนจะมานับถือในคุณค่าของเรา ซึ่งการเห็นคุณค่าในตัวเองก็จะทำให้เรามั่นใจขึ้น เข้มแข็งและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะมานั่งเสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็น