โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“คุณสู้ เราช่วย” ปิดลงทะเบียน 28 ก.พ.68 กู้ร่วมจะเข้าโครงการได้หรือไม่?

การเงินธนาคาร

อัพเดต 05 ก.พ. เวลา 12.39 น. • เผยแพร่ 05 ก.พ. เวลา 05.39 น.

เหลือเวลาไม่ถึงเดือนแล้ว โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่ปิดลงทะเบียน 28 ก.พ.68 แต่ยังมีข้อสงสัยเช่น กู้ร่วมจะเข้าโครงการได้หรือไม่? หากไม่เข้าเงื่อนไขมาตรการเลยจะมีแนวทางช่วยเหลือทางอื่นหรือไม่ และหากไม่ให้ก่อหนี้ใหม่จะเสียสภาพคล่องหรือไม่

โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” โดย กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs เฉพาะกลุ่ม โดยมีกลไกการส่งเสริมวินัยทางการเงินควบคู่ไปกับการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการเสียวินัยในการชำระหนี้ (moral hazard) ในภายหลัง

โดยเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 เริ่มลงทะเบียน 08.30 น จนถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 (สิ้นสุด 23.59 น.) ผ่าน bot.or.th/khunsoo

ซึ่งมาตรการ มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ : การปรับโครงสร้างหนี้แบบเน้นตัดเงินต้น ลดภาระดอกเบี้ย โดย ลูกหนี้จ่ายค่างวดน้อยลงเป็นระยะเวลา 3 ปี โดย

ปีที่ 1 ชำระ 50% ของค่างวดเดิม

ปีที่ 2 ชำระ 70% ของค่างวดเดิม

ปีที่ 3 ชำระ 90% ของค่างวดเดิม

  • ค่างวดที่จ่ายจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด
  • หากลูกหนี้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ครบ 3 ปี สถาบันการเงินจะยกดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ หลังสิ้นสุดโครงการ
  • ลูกหนี้สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ในการชำระค่างวดมากกว่าที่กำหนดได้ เพื่อให้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

กู้ร่วม เข้าโครงการได้หรือไม่

กรณี “ลูกหนี้มีสินเชื่อที่เป็นสัญญาแบบกู้เดี่ยวและกู้ร่วม สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ ได้ทั้ง 2 สัญญาหรือไม่” ซึ่งธปท. ได้ตอบผ่านเวปไซต์ว่า“หากสินเชื่อทั้งแบบกู้เดี่ยวและกู้ร่วมของลูกหนี้มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขการเข้าร่วมมาตรการ ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทั้ง 2 สัญญา”

ตัวอย่าง:

กรณีนาย ก. มีสินเชื่อบ้านวงเงิน 5 ล้านบาทกับธนาคาร A ซึ่งมีวันค้างชำระ 270 วัน (กู้เดี่ยว) และนาย ก. กู้ร่วมกับ นาง ข. มีสินเชื่อบ้านวงเงิน 3 ล้านบาท (กู้ร่วม) ซึ่งมีวันค้างชำระ 90 วัน ลูกหนี้สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทั้ง 2 สัญญา โดยสถาบันการเงินจะพิจารณาวงเงินกู้ร่วมและวงเงินกู้เดี่ยวแยกกัน

การกำหนดให้ลูกหนี้ไม่สามารถก่อหนี้ใหม่ได้ใน 12 เดือนแรกที่เข้าโครงการ จะทำให้ลูกหนี้เสียสภาพคล่องหรือไม่

ซึ่งธปท. ระบุว่า แม้ลูกหนี้จะไม่สามารถก่อหนี้เพิ่มเติมได้ในระยะเวลา 12 เดือนแรก เเต่ลูกหนี้จะมีสภาพคล่องเพิ่มเติมจากค่างวดที่ได้ชำระลดลง เช่น หากเดิมลูกหนี้จ่ายค่างวดสินเชื่อบ้านหรือ เช่าซื้อรถยนต์ที่ 10,000 บาทต่อเดือน เมื่อเข้าร่วมมาตรการค่างวดในปีแรกจะลดลงเป็น 5,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่าในแต่ละเดือนลูกหนี้จะมีสภาพคล่องเพิ่มเติมเดือนละ 5,000 หรือ 60,000 บาทในปีแรก โดยไม่มีภาระเสียดอกเบี้ยในสภาพคล่องดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีมาตรการจ่าย-ปิด-จบ : การลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้ NPL ที่มียอดหนี้ไม่สูง โดยลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 และมีภาระหนี้คงค้าง (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) ไม่เกิน 5,000 บาทต่อบัญชี

ตัวอย่าง:

ลูกหนี้ ก. มีหนี้ที่เป็น NPL 2 บัญชี คือ หนี้บัตรเครดิต 4,000 บาท และหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล 3,000 บาท ลูกหนี้ ก. สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทั้ง 2 บัญชี เนื่องจากสถาบันการเงินเจ้าหนี้จะพิจารณาคุณสมบัติลูกหนี้เป็นรายบัญชี ซึ่งทั้ง 2 บัญชีเป็นหนี้ NPL ไม่เกิน 5,000 บาทตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

ลูกหนี้ที่ไม่เข้าคุณสมบัติตามมาตรการธปท. จะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร

ธปท. จะมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่เข้าคุณสมบัติตามมาตรการ

  • กรณีลูกหนี้รายย่อย และ SMEs ทุกประเภท สามารถขอรับความช่วยเหลือโดยการปรับโครงสร้างหนี้ได้ตามเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) คือ จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเป็นหนี้เสียอย่างน้อย 1 ครั้ง และหลังเป็นหนี้เสียอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ก่อนฟ้อง โอนขายหนี้ ยึดทรัพย์
  • มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน : กรณีลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ ประเภทวงเงินหมุนเวียน เช่น บัตรกดเงินสด ที่ยังไม่เป็น NPL แต่ชำระดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวมเป็นระยะเวลานาน (5 ปี) สามารถขอเข้ามาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังได้ โดยสถาบันการเงินจะแปลงสินเชื่อจากวงเงินหมุนเวียน (revolving loan) เป็นสินเชื่อผ่อนชำระเป็นงวด (installment loan) ลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน 15% ต่อปี และปิดจบหนี้ได้ภายใน 5 ปี (ธปท. ขยายระยะเวลาปิดจบหนี้จาก 5 ปีเป็น 7 ปี เริ่ม 1 มกราคม 68)
  • คลินิกแก้หนี้ – DEBT หนี้บัตร หนี้บุคคล จบที่เดียว : กรณีลูกหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน ที่เป็น NPL ค้างชำระมากกว่า 120 วัน ยอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถขอเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ โดยลูกหนี้จะได้รับข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ในการรวมหนี้เสียจากทุกเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมโครงการไว้ที่เดียว ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี สำหรับดอกเบี้ยและค่าปรับค้างชำระเดิมก่อนเข้าโครงการ เจ้าหนี้จะยกให้เมื่อลูกหนี้ชำระได้ครบถ้วนตามสัญญา

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...