“นาตาลี เกลโบว่า” เปิดใจครั้งแรก หลังหย่ากับสามีนักธุรกิจ รับเป็นเรื่องยาก
สวยตลอดกาลจริงๆสำหรับ นาตาลี เกลโบว่า อดีตนางงามจักรวาล Miss Universe 2005 ล่าสุดมาอัปเดตชีวิตและเปิดใจพูดครั้งแรก! หลังแยกทางกับสามีนักธุรกิจ ตอนนี้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ยอมรับสิ่งเป็นเรื่องยากที่สุดและเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ผ่านรายการ WOODY FM
มีหลายอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เราพูดคุยล่าสุด ผมพบคุณกับอดีตสามีและลูกสาวของคุณและนั่นเป็นครั้งแรก แต่แล้ววันนี้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณผ่านอะไรมาบ้าง ? นาตาลี : ฉันก็แปลกใจเช่นกันเมื่อต้องทำ เมื่อฉันได้ตระหนักว่าสิ่งนี้จะไม่อยู่กันตราบชั่วนิรันดร์ เมื่อเราใช้ชีวิตและเติบโตขึ้น เราเปลี่ยนแปลงไปสูงขึ้นอย่างแท้จริงบวกกับการพัฒนาจิตใจด้วย และมาถึงจุดหนึ่งเมื่อคุณเริ่มตระหนักได้ว่าการเลิกราไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งคุณอยู่ด้วยกัน คิดว่าอยู่ด้วยกันก็ดี เลิกกันก็แย่ เราไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่กับคนๆเดียวเสมอไป หากอัตราการเติบโตแตกต่างกันมากที่จะพาคุณเข้าสู่ช่วงต่างๆ ของชีวิต ดังนั้นฉันจึงคิดตั้งแต่แรกแล้วว่านี่คือคนที่ฉันจะเติบโตด้วยและใช้ชีวิตที่เหลือของฉันด้วยกันกับเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันพูดถึงเรื่องนี้
คุณจะไม่ลำบากใจเมื่อเราพูดถึงเรื่องนี้ ?“ฉันพร้อมจะพูดเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นหน้าลูกสาวของฉัน ต้องเผชิญหน้ากับการแยกทางกันของพ่อแม่ของเธอ ฉันรู้สึกว่าเธอไม่สมควรได้รับความเจ็บปวดใดๆ นั่นเป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับฉัน
ฉันอยากให้เธอมีความคิดที่มั่นคงว่าครอบครัวคืออะไร การแต่งงานคืออะไร ความรักคืออะไร และน่าเสียดายที่ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถให้เธอได้ เพราะพ่อของเธอและฉันแยกทางและหย่าร้างกัน แม้ว่าฉันจะเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วเราสามารถจัดหาสิ่งนั้นให้เธอได้ แต่มันไม่ง่ายเลย ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าความคิดทั้งหมดของฉันเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ ซึ่งฉันกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ตอนนี้
หากคุณสามารถสร้างวิหารแห่งความรักในตัวคุณก่อนได้ โอบกอดตัวเองและรักตัวเองอย่างเต็มที่ สามารถสร้างแบบนั้นได้โดยไม่มีเงื่อนไข วิหารแห่งความรักกับบุคคลอื่น และนั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรักนั้นไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือไม่ก็ตาม คุณสามารถถูกแยกจากกันด้วยระยะทางตามสถานการณ์ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
แต่ความรักก็ยังคงอยู่ตรงนั้น ยังคงให้เกียรติความรักนั้นและต้องปรารถนาให้คนอื่นได้ดีและเห็นพวกเขาประสบความสำเร็จและทำสิ่งอัศจรรย์แก่พวกเขาเท่านั้น ฉันรู้สึกว่าในกรณีนี้ฉันยังพยายามสร้างวิหารแห่งความรักอยู่ 50% ส่วนที่เหลือต้องมาจากบุคคลอื่น”
คุณกำลังบอกว่าคุณยังมีความรักต่ออดีตสามีของคุณใช่ไหม ? “ฉันอยากจะเชื่อว่าฉันมีความรักแก่มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ และนั่นคือภารกิจในชีวิตของฉัน คือการสามารถพูดสิ่งนั้นได้ ฉันรักมนุษย์ทุกคนบนโลกอย่างไม่มีเงื่อนไข”
นี่คือความอ่อนไหวที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อน ? “ไม่ เพราะฉันเคยผ่านการแต่งงานมาก่อนอย่างที่คุณรู้ และฉันเคยหย่าร้างมาก่อนแต่ยังไม่เคยมีลูก นี่คือชีวิตที่แตกต่างและใหม่มาก ฉันสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ดีขึ้นมากกว่าตอนที่ฉันเคยทำได้ เพราะฉันโตและมีวุฒิภาวะมากขึ้นแล้ว
ได้เรียนรู้ ต้องรับผิดชอบอีกชีวิตอีกคนที่มีค่ามาก มันไม่ง่าย ดังนั้นฉันจึงมีสมาธิกับมันจริงๆ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน หรือให้กระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การเรียนรู้ศิลปะแห่งการปล่อยวาง เคยได้ยินแนวคิดเรื่องการยอมแพ้หรือไม่ แนวคิดทางจิตใจ
เหมือนกับการทดสอบจริงๆ ฉันจะยอมแพ้และยอมรับทุกสิ่งนั้น เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นการหย่าร้างและการแยกทางกัน และผ่านมันมาได้ เหมือนกับว่าจักรวาลกำลังทดสอบฉัน ดังนั้นการผ่านอะไรก็ตาม จะง่ายขึ้น นั่นคือบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ความเห็น 0