โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจ้าของแทบทรุด หลังแมวหายจากบ้านนับเดือน ก่อนเจออีกทีทำเอาเสียใจหนักมาก

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 20 ก.พ. 2566 เวลา 02.45 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2566 เวลา 08.33 น.

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจให้ทาสแมวอย่างมาก หลังจากมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวสุดเศร้าลงในกลุ่ม งูไทย…อะไรก็ได้ all about Thailand snakes เล่าเรื่องราว หลังจากแมวที่เลี้ยงไว้หายออกจากบ้านนับเดือน ก่อนเห็นสภาพแทบล้มทั้งยืน

โดยผู้โพสต์รายดังกล่าวได้เขียนบรรยายว่า "สวัสดีค่ะ อยากทราบว่าถ้างูกินแมว ใช้เวลาย่อยนานแค่ไหน แล้วจะขย้อนออกหรืออึออกมา เรื่องมีอยู่ว่า แมวหายไป1เดือนกว่าค่ะ แอร์แท็กไม่อัปเดตมา 1เดือน5 วัน แล้วก็กลับมาอัปเดต จนวันนี้ตามแอร์แท็กเจอในบ้านร้าง ที่คนตรงนั้นบอกว่า ดงงูเหลือม ไม่มีความรู้เรื่องงูเลยค่ะ งูย่อยแมวทั้งตัวแล้วอึออกมาเป็นปลอกคอได้จริงๆหรอคะ (หาข่าวดูคือเจอแต่ขย้อนเป็นตัว) น้องแมวหนักเกือบ 6 กก.

เจ้าของทรุด หลังแมวหลายจากบ้านนับเดือน ก่อนเจออีกทีทำเอาเสียใจหนักมาก

ขอบคุณทุกคนนะคะ ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ บริเวณที่พบเป็นบ้านร้าง ห่างจากบ้านเราประมาณ 1 โล (ปกติเลี้ยงปิด) น้องแมวหลุดออกไปนอนกลิ้งเล่นกลางซอยตามกล้องวงจรปิดกทม.แล้วเดินหายไปเพราะกล้องจับได้แค่กลางซอยค่ะ ที่เหลือเราตามจาก airtag"

หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งหลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเจ้าของแมวรายดังกล่าว และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวที่หายไปน่าจะโดนงูกินจริง โดยน้ำย่อยของงูจะย่อยกระดูก ผิวหนัง เนื้อจนหมด เหลือเพียงแค่ขน กับสิ่งแปลกปลอมหรือปลอกคอ ที่ไม่สามารถย่อยได้

เจ้าของทรุด หลังแมวหลายจากบ้านนับเดือน ก่อนเจออีกทีทำเอาเสียใจหนักมาก
เจ้าของทรุด หลังแมวหลายจากบ้านนับเดือน ก่อนเจออีกทีทำเอาเสียใจหนักมาก

ขอบคุณกลุ่มเฟซบุ๊ก งูไทย…อะไรก็ได้ all about Thailand snakes

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...