LSA พานั่งเครื่องบิน 4 ชั่วโมงกว่าๆ ไปกับทริปการพักผ่อนบนเกาะสวรรค์ใจกลางมหาสมุทรอินเดียอย่างมัลดีฟส์ และรีสอร์ทที่เป็นต้นแบบ Overwater วิลล่าให้กับทั่วโลก Club Med Kani
มหาสมุทรอินเดียเป็นผืนน้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก และเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะมากมายที่กระจัดกระจายกันออกไป หนึ่งในนั้นคือประเทศที่เป็นหมู่เกาะอย่างมัลดีฟส์ น้ำสวย ทะเลใส ผู้คนใจดี เห็นจะเป็นคำพูดที่ใครๆ ก็ต้องเอ่ยเมื่อพาดพิงถึงประเทศนี้ อีกอย่างที่ทำให้ประเทศมัลดีฟส์เป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาจาก Club Med รีสอร์ทระดับพรีเมียม ที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มัลดีฟส์เป็นที่รู้จักในระดับโลก
การเข้ามาของคลับเมดในปี 1979 ทำให้ผืนน้ำทะเลใสสีเทอคอยส์นี้ได้โอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากหลากหลายเชื้อชาติ ได้เห็นวัฒนธรรมพื้นที่ และอัญมณีทางธรรมชาติที่สวยเกินกว่าใคร คลับเมดเป็นรีสอร์ทเชนแรกเลยก็ว่าได้ที่เข้ามาทำธุรกิจในมัลดีฟส์ และเป็นที่แรกที่เราได้เห็นรีสอร์ทวิลล่านอนทอดตัวยาวออกไปสู่ใจกลางทะเล ให้ผู้เข้าพักได้เดินทอดขาลงสู่น้ำทะเลสวยจากที่พักได้เลยโดยตรง แน่นอนเราเชื่อว่าภาพการโปรโมตของคลับเมดจากวันนั้นจนถึงวันนี้ แม้จะผ่านมาแล้วหลายสิบปีแต่ความสวยงามของวิลล่าที่นี่ก็ยังทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจได้อยู่เสมอ
Investing on Life Changing Experience
คลับเมดมุ่งมั่นที่จะ “ลงทุนเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต” กว่า 70 รีสอร์ททั่วโลกภายใต้คลับเมดพาคนแต่ละที่เปิดประสบการณ์ในทุกรูปแบบตั้งแต่ชายทะเล ภูเขา หรือแม้แต้การเส่นสกีบนยอดหิมะสูง การเดินทางของคลับเมดยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ และในอนาคตเขาก็จะขยับขยายไปถึงธรรมชาติในป่าอย่าง South Africa ที่ให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับเพื่อนธรรมชาติร่วมโลกกว่าที่เคย
ที่นี่เขามีศัพท์แสงใหม่ๆ ไว้เรียกกันอย่างน่ารักน่าชัง CDV/Chief of Village เป็น General Manager ของรีสอร์ทที่จะคอยเดินตรวจตราภายในวิลเลจ ทักทาย และต้อนรับอย่างอบอุ่น ต่อกันด้วย G.Os หรือ Great Organizers เป็นทีมงานของรีสอร์ทที่จะคอยให้อำนวยความสะดวก ถึงขั้นมานั่งทานอาหารและพูดคุยไปกับผู้เข้าพักเลยด้วยซ้ำ ส่วนผู้เข้าพักหรือสมาชิกของรีสอร์ทคือ G.Ms หรือ Great Members และสุดท้ายเลยเขาเรียกรีสอร์ทว่าเป็น Village ทำให้การมาพักผ่อนที่นี่ทำให้เราได้รู้สึกเหมือนเป็นคนในครอบครัวที่มีสมาชิกจำนวนมากในบ้านขนาดใหญ่
Leave Your Limit at Home
จริงๆ แล้วคลับเมดรักคนที่ชอบการผจญภัยและกล้าออกไปทำอะไรใหม่ๆ ที่ Club Med Kani ที่เราได้โอกาสไปเยี่ยมเยือนนั้น เป็นรีสอร์แบบ All Inclusive โดยเราพักกันที่ Manta Exclusive Collection เป็นวิลล่าแบบ Overwater ที่ทอดตัวยาวออกไปกลางทะเลสีฟ้าใสให้เราได้เดินจากห้องพักลงสู่ทะเลได้เลยแบบสะดวกสบายกว่าใคร ที่นี่เปิดประสบการณ์ผู้เข้าพักในทุกรูปแบบตั้งแต่กิจกรรมทางน้ำ กิจกรรมทางบก และกิจกรรมทางอากาศ ไม่ว่าจะดำน้ำ คายัค เรือใบ เซิร์ฟ ฟลายอิ้งทราพิส แพดเดิลบอล วอลเล่บอลชายหาด ฟิตเนส โยคะ และอีกหลายอย่างที่ร่ายไม่หวั่นไม่ไหวเลยทีเดียว
กิจกรรมเขาเยอะเสียจนต้องมีแอพพลิเคชั่นให้เราคอยตามว่าในแต่ละวันเขามีคลาสสอนอะไร หรือมีกิจกรรมช่วงเวลาไหนบ้าง เช้าจรดค่ำ Kani ยังคงครึกครื้นเต็มไปด้วยพลังเสมอ พลบค่ำเป็นเพียงอีกช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านไปเท่านั้น เพราะ Kani จะพาเราทำความรู้จักเพื่อนร่วมรีสอร์ทคนอื่นผ่านช่วงเวลามิงเกิลในยามเย็น ให้ได้จิบเครื่องดื่มไปพร้อมกับบทสนทนา ตามด้วยดินเนอร์มื้อค่ำกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่เตรียมพร้อมสำหรับมื้อสำคัญของวัน พูดถึงเรื่องอาหารการกินที่ถือเป็นท็อปปิกสำคัญแล้ว ที่นี่มีห้องอาหารหลักๆ อยู่ 3 ที่ซึ่งอัพเกรดใหม่แบบดีขึ้นกว่าเดิมอย่าง The Velhi เป็นห้องอาหารหลักริมชายหาดที่เสิร์ฟบุฟเฟ่ต์ตลอดเช้าจรดเย็น เป็นแนวนานาชาติทั้งตะวันตกและตะวันออก
ส่วนห้องอาหาร The Kandu ตั้งอยู่ด้านหลังบริเวณลากูนของรีสอร์ท เสิร์ฟเป็นจานอะลาคาร์ทเน้นเมนูสั่งเป็นจานสดใหม่ โดยใกล้กันเป็นที่ตั้งของ The Iru Bar ที่ไว้เสิร์ฟเครื่องดื่มในช่วงค่ำพร้อมด้วยดีเจเล่นเพลงสด ป้อนความสนุกสนานตลอดค่ำคืน แต่ถ้าย้ายมาทางชายหาดแล้ว Kani Kravings เป็นสแน็กบาร์เสิร์ฟอาหารไบต์ไซส์ให้เหล่า G.M. ตลอดวัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ The Sunset Bar บาร์เครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน
The Dance, The Show, The Everything
แต่ไฮไลต์ของแต่ละวันคงต้องยกให้กับการแสดงโชว์ของเหล่า G.O. ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันในแต่ละค่ำคืน เพื่อให้เหล่า G.M. อย่างพวกเราได้สนุกสนานไปตลอดค่ำคืน จบจากโชว์แล้วใครเขาเข้านอนกัน เพราะเวลาสี่ทุ่มคือการเริ่มต้นปาร์ตี้ของที่นี่ คลับเมดขึ้นชื่อเรื่องการเอนเตอร์เทนเป็นที่สุด กินให้อิ่ม ดื่มให้พอ และแดนซ์ให้กระจุย เรียกว่าทุกช่วงเวลาของการเข้าพักผ่อนที่นี่เต็มไปด้วยประสบการณ์ สีสัน และความสนุกแบบจนอัดแน่น
บางคืนเราขอปลีกตัวออกมาจากปาร์ตี้เร็วกว่าค่ำวันอื่น เพราะอยากส่องดูการเล่นคลื่นของเหล่าฉลามตัวน้อย ปลาหมึกตัวจิ๋ว และปลากระเบนตัวแบนๆ ที่จะพากันมาโต้คลื่นริมฝั่ง ยามที่ชายหาดเริ่มเงียบสงบ เงยหน้าดูท้องฟ้าในตอนกลางคืนก็พบเข้ากับดวงดาวเป็นล้านดวงทอแสงระยิบระยับระพื้นฟ้าไปหมด รู้สึกเหมือนได้เติมพลังเข้าร่างกายอย่างไรอย่างนั้น พร้อมสุดๆ กับการเข้านอนเพื่อตื่นมาพบกับการพักผ่อนที่เต็มอิ่มอีกครั้งในวันถัดไป
Club Med Finolhu
สำหรับทีมเรานั้นได้มีโอกาสนั่งเรือออกไปประมาณ 5 นาทีเพื่อเยี่ยมชมวิลเลจข้างบ้านอย่าง Club Med Finolhu เป็นกรณีพิเศษ ถ้าสำหรับ Kani ขึ้นชื่อเรื่องของความสนุกสนานและกิจกรรมที่ฟูลแพ็คแล้ว Finolhu คือสวรรค์ของคนรักความสงบและความเป็นส่วนตัว ที่นี่เป็นแซงชัวรี่จำนวน 52 วิลล่า Beachfront Bliss หรือ Overwater Serenity เหมาะกับคู่รักที่มาเพื่อการพักผ่อนแบบแท้จริง ซึ่งที่นี่เองยังสามารถนั่งเรือออกไปใช้บริการส่วนกลางของ Kani ได้เช่นกัน การพักผ่อนที่นี่จึงได้ฟีลลิ่งในอีกรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันแน่ๆ คือการบริการที่มาในระดับเกินมาตรฐาน
การมาพักผ่อนที่นี่ทำให้เราได้เข้าใจถึงสปิริตของคลับเมดยิ่งกว่าเดิม ว่าเขาตั้งใจที่จะลงทุนเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตของคุณ ให้คุณได้ Leave your limit at home แล้วมาพักผ่อน สนุกสนาน และใช้ชีวิตให้เต็มที่ไปด้วยกัน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น มารอดูกันต่อว่าในอนาคตคลับเมดจะนำเสนออะไรที่เกินลิมิตไปอีกบ้าง
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.
ความเห็น 0