โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คุณแม่ "เบนซ์ พรชิตา" เกิดอุบัติเหตุในห้าง บาดเจ็บไร้การเยียวยา

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 13 ธ.ค. 2565 เวลา 05.58 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2565 เวลา 05.30 น.

แชร์เป็นอุทาหรณ์ คุณแม่ "เบนซ์ พรชิตา" เกิดอุบัติเหตุในห้างถูกรถเข็นลากลงบันไดเลื่อน บาดเจ็บหนักไร้การเยียวยา

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา "เบนซ์ พรชิตา" ได้แชร์อุทาหรณ์ผ่านทางอินสตาแกรม @pornchita จากกรณีที่คุณแม่ของเจ้าตัว เกิดอุบัติเหตุในห้างถูกรถเข็นลากลงบันไดเลื่อน บาดเจ็บหนักไร้การเยียวยา

คุณแม่ เบนซ์ พรชิตา เกิดอุบัติเหตุในห้าง บาดเจ็บไร้การเยียวยา

"เมื่อวันที่ 24 กันยายน คุณมาได้แวะไปซื้อของในห้างแห่งนึงใกล้บ้านแม่ ซึ่งปกติก็ซื้อที่นี่เป็นประจำ ในส่วนที่เป็นที่ซื้อสินค้าอยู่ชั้นสองทำให้ลูกค้าต้องใช้รถเข็นลงจากชั้นสองโดยใช้ทางเลื่อน เพราะทางห้างไม่มีลิฟท์ให้เลือกใช้

ปรากฏว่าล้อรถเข็นไม่ล็อกกับทางเลื่อนที่ลาดลงมาจากชั้นสอง ด้วยน้ำหนักของบวกกับรถเข็น เลยลากแม่เบนซ์ลงมาตลอดทางลาดด้วยความเร็ว และกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์ของร้านค้าด้านล่าง ศีรษะและใบหน้ากระแทกเข้ากับรถเข็น เลือดไหลเยอะมาก (เพราะเพิ่งทำบอลลูนหัวใจไม่ถึงเดือน และต้องกินยาละลายลิ่มเลือด)

เย็บไป 4 เข็ม มีแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายจุดจากการลากลงทางลาด และต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลา 3 วัน จึงกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังมีอาการเจ็บอยู่

เหตุผลที่แม่ไม่ปล่อยรถเข็น เพราะข้างหน้ามีคนยืนอยู่บนทางเลื่อน จึงกลัวว่ารถเข็นจะพุ่งไปกระแทกหลัง หรือชนคนอื่นจนได้รับบาดเจ็บ เลยพยายามดึงไว้ ซึ่งหลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นเบนซ์ได้ไปดูจุดเกิดเหตุ ก็มีคนเข้ามาเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ที่จะเกิดเหตุกับแม่ ก็เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง

คุณแม่ เบนซ์ พรชิตา เกิดอุบัติเหตุในห้าง บาดเจ็บไร้การเยียวยา

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้หนึ่งวัน ตอนที่แม่อยู่ที่โรงพยาบาล ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการของทางห้างมาเยี่ยม โดยบอกกับทางเราว่าจะมีผู้ใหญ่เป็นอดีตนักการเมือง จะขอมาเยี่ยมแม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา แต่ที่มาคือผู้จัดการของห้าง

ช่วงแรกที่คุยก็เหมือนจะไม่ราบรื่น แต่ก็สรุปจบตรงที่ผู้จัดการห้างบอกว่าทางห้างจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ให้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากที่เกิดเหตุ ผู้จัดการห้างก็โทรมาถามถึงอาการแม่ 1 ครั้ง โดยถามแค่อาการและบอกว่าจะโทรมาถามอาการเรื่อยๆ

ซึ่งหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทางห้างก็ไม่ได้มีการเยียวยา ชดใช้ หรือติดต่อกลับมาทางเราอีกเลย

ที่เบนซ์ออกมาเล่าให้ฟังเพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคน ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ หรือหัวหน้าครอบครัวจนต้องหยุดงาน เพื่อรักษาตัวมากน้อยจำนวนวันขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของแต่ละคน หรือแม้กระทั่งอาการที่หนักจนถึงชีวิต ทางห้างควรดูแลความเสียหายให้เป็นมาตรฐาน

ไม่ใช่แค่แวะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล 1 ครั้ง และโทรมาถามอาการอีก 1 ครั้ง โดยบอกว่าจะดูแลค่าใช้จ่าย แต่ผลคือกลับเงียบไปเฉยๆ เหมือนทางห้างรอว่าผู้บาดเจ็บแต่ละคนจะใช้กฎหมาย หรือเอาเรื่องกับทางห้างขนาดไหน ถึงจะยอมออกมาดูแล

คุณแม่ เบนซ์ พรชิตา เกิดอุบัติเหตุในห้าง บาดเจ็บไร้การเยียวยา

สิ่งที่เบนซ์อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ

1. เมื่อเกิดเหตุในห้างสิ่งแรกคือรับผิดชอบโดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเป็นพื้นที่ของคุณ โดยมีลูกค้าไปใช้บริการในพื้นที่ของคุณ การหาสาเหตุควรเป็นไปเพื่อแก้ไขและพัฒนาองค์กรของคุณ ไม่ใช่เพื่อนแก้ต่างกับลูกค้า

2. ทางห้างควรหมั่นตรวจสอบการล็อกของรถเข็น และแผ่นล็อกล้อตรงทางลาดของห้างอย่างสม่ำเสมอให้ดีกว่านี้

3. สังคมไทยมีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้น ทางห้าวควรจัดหาพนักงานมาบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุตั้งแต่บริเวรณแคชเชียร์ โดยไม่ต้องรอร้องขอความช่วยเหลือ

เบนซ์หวังว่าอุบัติเหตุของแม่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับทุกคนที่เป็นเป็นผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุทุกท่านให้ได้รับการบริการ และการดูแล รวมถึงความปลอดภัยที่ดีขึ้นนะคะ

ทางด้าน เบนซ์ พรชิตา ยังได้ระบุแคปชั่นว่า "พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับแม่ตัวเอง คือไปไม่ถูกเหมือนกันนะคะ แม่อายุ75ปีแล้ว ตอนนี้คือเดินช้ามาก ปวดขาปวดหลังไปหมด มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไม๊คะ ไม่อยากให้เกิดกับใครอีกแล้ว เราควรทำยังไงดีคะ"

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...