โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กระทรวงยุติธรรม เดินหน้ารับรองเอกสารสำคัญโดยไม่ต้องผ่านสถานทูต อำนวยความสะดวกคนไทยในต่างแดน

VoiceTV

อัพเดต 16 ก.ค. 2567 เวลา 09.19 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. 2567 เวลา 09.05 น. • กองบรรณาธิการวอยซ์ออนไลน์

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมปลดล็อกขั้นตอนการรับรองเอกสารสำคัญของคนไทยในต่างประเทศ ใช้ระบบ 'วันสต็อปเซอร์วิส' อำนวยความสะดวกให้ประชาชน หลังไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกบุคคล พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมของคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮก ว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกบุคคล (Hague Conference on Private Internationnal Law :HCCH) โดย การประชุมคณะกรรมการดังกล่าวนี้ นับเป็นครั้งที่ 1/2567 มีผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นกรรมการ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้เป็นคณะกรรมการระดับชาติ ถือเป็นโอกาสที่ดีของการนำศักยภาพมาประกอบกับหลักกฎหมายและหลักวิชาการที่แต่ละท่านมีความเชี่ยวชาญ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มีประเทศใดสามารถอยู่ได้โดยลำพัง เพราะทุกประเทศต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน

ประชุมมีวาระการพิจาณาที่สำคัญของอนุกรรมการ 3 ชุด ประกอบด้วย

1.คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุสัญญาว่าด้วยการยกเลิกข้อกำหนดของการนิติกรณ์สำหรับเอกสารมหาชนจากต่างประเทศ หรือ Apostille Convention

2.คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการส่งเอกสารทางการศาลระหว่างประเทศไทยในคดีแพ่งและพาณิชย์ หรือ Service Convention

3.คณะอนุกรรมการแนวทางการปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ.2481

ความคืบหน้าจากคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ ซึ่งได้รายงานต่อที่ประชุม โดย

เรื่องแรก สืบเนื่องจากปัจจุบันคนไทยนับล้านคนอยู่ในต่างประเทศ ทั้งเพื่อการทำงาน หรือสมรส บ่อยครั้งที่ต้องติดต่อราชการในประเทศที่พำนักอยู่ ต้องใช้เอกสารราชการจากทางการไทย เช่น สูติบัตร, ใบมรณบัตร, ทะเบียนสมรส เพื่อนำไปยื่นติดต่อราชการในต่างประเทศ ปรากฏว่าการจะใช้เอกสารเหล่านั้นได้ ต้องได้รับการรับรอง (เรียกว่ารับรองนิติกรณ์เอกสาร) จากทางการไทย ฉะนั้นคณะอนุกรรมการ จึงพิจารณาแนวทางบรรเทาปัญหาในส่วนนี้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ กรมการกงสุลจะสามารถมอบอำนาจการรับรองเอกสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Apostille Convention จากที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย แล้วนำไปใช้ในต่างประเทศได้ทันที ทำให้การบริการแบบ One Stop Service มีความสะดวก รวดเร็ว เกิดประโยชน์กับประชาชนนับล้านที่ต้องการใช้เอกสารราชการในการติดต่อกับต่างประเทศ

เรื่องที่สอง การพิจารณาแนวทางการส่งเอกสารในคดีแพ่งและพาณิชย์ไปต่างประเทศ ทั้งหมายศาล สำเนาคำฟ้องจากศาลของประเทศไทยไปยังศาลของ 125 ประเทศที่อยู่ภายใต้อนุสัญญากรุงเฮกฯ โดยคาดหวังให้การส่งเอกสารในคดีแพ่งและพาณิชย์ ไม่ต้องส่งโดยวิถีทางการทูตที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งแต่เดิมเอกสารเหล่านี้จำเป็นต้องส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตเท่านั้น ฉะนั้น ในที่ประชุมจึงเห็นควรยุบ คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการส่งเอกสารทางการศาลระหว่างประเทศไทยในคดีแพ่งและพาณิชย์ หรือ Service Convention แล้วมีมติแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการปรับปรุง พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย ปี พ.ศ.2481 แทน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงการศึกษาในประเด็นกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล และธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศของผู้ถือโทเคน และการโอนทรัพย์สินดิจิทัล จากการประชุม Council on General Affairs and Policy (CGAP) ประจำปี ค.ศ. 2024 ของที่ประชุมเดียวกัน (ที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนคดีบุคคล) และการเข้าร่วมในที่ประชุมประจำปีขององค์การที่ปรึกษากฎหมายแห่งเอเชียและแอฟริกา (Asian - African Legal Consultative Organization - AALCO) สมัยที่ 62 ที่รัฐบาลไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ ในช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...