โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ภารกิจพลิกชีวิตไอดอล

นิยาย Dek-D

อัพเดต 26 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2567 เวลา 09.00 น. • EJBXIP
[คุณสามารถเริ่ม ‘ภารกิจพิเศษ - ไอดอล, ชอนอีเซ’ ได้ ณ บัดนี้] นี่ผมได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในร่างไอดอลเหรอเนี่ย…!?

ข้อมูลเบื้องต้น

[คุณสามารถเริ่ม ‘ภารกิจพิเศษ - ไอดอล, ชอนอีเซ’ ได้ ณ บัดนี้] นี่ผมได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในร่างไอดอลเหรอเนี่ย…!?

นิยายแปลเกาหลี ภารกิจพลิกชีวิตไอดอล
손맛으로 구제하는 망돌 인생
*** ลิขสิทธิ์ถูกต้องภายใต้หจก. EnJoyBook ***
ได้รับลิขสิทธิ์ออนไลน์ (Digital license) สำหรับแปลขายลงบนเว็บไซต์ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100%
สงวนลิขสิทธิ์

ผู้แต่ง : 메로나르 (MELONAR) ผู้แปล : ทีมงาน Enjoybook

เรื่องย่อ
อิมฮยอนซอง ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จถูกครอบครัวหักหลังและเสียชีวิตกะทันหัน เขาได้เจอกับ [ระบบสร้างสุขสมปรารถนาแกมวลมนุษย์] และได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในร่างชอนอีเซ ไอดอลเมนแดนซ์แห่งวงไคลแม็กซ์ที่อยู่ในช่วงขาลง เพื่อปฏิบัติภารกิจจนกลายเป็นไอดอลที่ประสบความสำเร็จและกลับไปแก้แค้นคนที่ฆาตกรรมเขา

บทนำ

บทนำ

ความสำเร็จหอมหวาน แต่ชีวิตขมขื่น

อิมฮยอนซอง ผู้สร้างตำนานเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหารที่สั่นสะเทือนวงการไปทั้งประเทศเกาหลี ในขณะนี้ เขากำลังจะต้องจมลงสู่ก้นทะเลกลายเป็นศพนิรนามศพหนึ่ง

นี่เราต้องมาตายแบบนี้จริง ๆ เหรอเนี่ย?

น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาในจมูกของผม ประสาทสัมผัสทั้งหมดในร่างกายหยุดทำงาน

ผมกำลังนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่แม่เลี้ยงของผมพูด ก่อนที่เธอจะผลักผมตกหน้าผา

"ฮึ่ย ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ! นี่เป็นความผิดของแกคนเดียว ถ้าแกให้เงินพวกเรา เรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้!"

แต่นั่นเป็นแค่ข้อแก้ตัวชัด ๆ ตอนที่ผมเป็นนักเรียน แม่ของผมเสียชีวิตในโรงพยาบาล แล้วพ่อก็พาแม่เลี้ยงมาเปิดตัวในอีก 1 ปีหลังจากนั้น นี่คือความประทับใจแรกแย่ ๆ ที่ผมมีต่อเธอ

เธอมักจะดูแลลูกชายของตัวเองกับผมแตกต่างกันเสมอ ผมเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เย็นชาและขมขื่น

ถ้าผมสามารถเปิดใจยอมรับเธอได้สักครึ่งหนึ่ง ถ้าผมจะทำเหมือนตัวเองเป็นลูกแท้ ๆ ของเธอ เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว

ผมเติบโตขึ้นมาโดยที่มีแม่เลี้ยงคอยกดขี่อยู่เสมอ และเมื่อผมบรรลุนิติภาวะ ผมก็รีบใช้สิทธิ์ขอแยกตัวออกมาจากครอบครัวทันที ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เสียใจเลยสักนิด

จนกระทั่งผมกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ผ่านไป 20 ปี ผมกลายเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังในวงการอาหาร ในช่วงเวลาระหว่างนี้ พวกเขาไม่เคยช่วยเหลือผมเลย

พวกเขาทำเป็นอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่แม่เลี้ยงของผมกับลูกชายของเธอเริ่มขอเงิน และถึงกับขอใช้ชื่อผมไปเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง

แต่ก็ไม่น่าประหลาดใจสักเท่าไหร่ที่บริษัทของแม่เลี้ยงผมจะล้มเหลวไม่เป็นท่า สุดท้าย ทุกอย่างก็จบลงด้วยการฟ้องร้อง

ส่วนพ่อของผมก็มีอายุได้ 70 ปีแล้ว และเขาต้องพลอยมาเดือดร้อนไปด้วย พ่อเอาแต่พูดย้ำเสมอว่าเขาเสียใจขนาดไหน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่พ่อเลือกครอบครัวใหม่ ไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ อย่างผม

สุดท้าย ผมก็ต้องมีเรื่องฟ้องร้องกับครอบครัวของตัวเอง

ตอนที่ผมยังเด็ก ผมไม่รู้เลยว่าแม่เลี้ยงที่คอยกดขี่ข่มเหงผมเหมือนไม่ได้เป็นมนุษย์ด้วยกันนั้นจะมีความไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เธอและลูกชายสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน

การฟ้องร้องกินเวลาหลายปี มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น และด้วยความที่ต้องบริหารร้านไปพร้อมกับดูแลเรื่องการฟ้องร้อง สภาพจิตใจและสภาพร่างกายของผมก็เริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

ผมจำเป็นต้องหาเวลาพักให้กับตัวเอง ผมจึงมาพักร้อนที่บ้านพักริมชายหาด

แต่แม่เลี้ยงผมก็ตามมารังควานจนได้

ในวินาทีที่ผมเปิดประตู ชายฉกรรจ์สองคนก็ทุบผมจนสลบอยู่ตรงหน้าประตูนั้นเอง

พวกเขาลักพาตัวผม จับตัวผมมาที่ริมหน้าผา ก่อนจะโยนผมทิ้งทะเล

"ขอแค่แกหายไป! พวกเราก็มีความสุขแล้ว!"

ถ้าผมตายแบบนี้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผมก็จะตกเป็นของพ่อผมทันที เพราะพ่อเป็นญาติทางสายเลือดคนเดียวที่ผมเหลืออยู่

"ฉัน… ฉันพาบริษัทโจยองฟู้ดมาถึงจุดนี้ได้ยังไง… ฉันนี่มันโง่จริง ๆ…"

ความคิดมากมายปรากฏขึ้นในหัวสมองของผมขณะที่น้ำทะเลกลืนกินไปทั่วร่างกาย ผมหลับตาลง รู้สึกได้ถึงน้ำทะเลเย็น ๆ ที่ไหลทะลักเข้าปอด

[คุณสามารถเริ่ม ‘ภารกิจพิเศษ - ไอดอล, ชอนอีเซ’ ได้ ณ บัดนี้]

[ต้องการเริ่มภารกิจเลยหรือไม่?]

บทที่ 1 : ราคาของการเกิดใหม่เป็นไอดอล

บทที่ 1 : ราคาของการเกิดใหม่เป็นไอดอล

เมื่อผมลืมตาขึ้น ผมก็อยู่ในสถานที่แปลกตาแห่งหนึ่ง

รอบกายมีแต่แสงสีฟ้า ที่นี่เหมือนกับลอยอยู่ในอากาศ ไม่มีสิ่งใดให้สองเท้าเหยียบยืน ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีแรงโน้มถ่วงเช่นกัน

ผมไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อผมมองไปรอบตัว ผมก็เห็นหน้าต่างข้อความเด้งขึ้นมาอยู่ตรงหน้าพอดี

"นี่มันอะไรกันเนี่ย…?"

[ต้องการรับภารกิจพิเศษหรือไม่?]

[ตกลง / ปฏิเสธ]

นี่ผมตายแล้วใช่ไหม? ที่นี่ก็คือโลกหลังความตายงั้นสินะ

ผมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย

แต่แล้วในทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นลูกหมาตัวเล็ก ๆ นั่งอยู่ใต้หน้าต่างข้อความนั้น

มันเป็นหมาหูกาง ขาสั้น ขนดกหนาสีขาวปนน้ำตาล จมูกยาว นี่คือสุนัขสายพันธุ์เวลช์คอร์กี้ที่ผมเคยเห็นแต่ในทีวีเท่านั้น

"ภารกิจพิเศษอะไรเนี่ย?"

หลังจากนั้น เจ้าหมาก็เห่าตอบกลับมา เหมือนกับว่ามันรอให้ผมถามอยู่แล้ว

โฮ่ง!

ในเวลาเดียวกับที่เจ้าหมาเห่า ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ไม่มีเสียงหรอก และหน้าต่างข้อความที่อยู่ข้างหน้าผมก็มีข้อความใหม่ปรากฏขึ้น

[ภารกิจพิเศษ : ไอดอล, ชอนอีเซ]

[คุณคือซีอีโอของบริษัทโจยองฟู้ด เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ถูกฆาตกรรมโดยครอบครัวของตัวเองที่ไม่ยอมแบ่งสมบัติให้]

นี่ผมฝันอยู่ใช่ไหม? ผมนี่มันตายอย่างโง่ ๆ โดยแท้…

ความจริงผมก็อยากปฏิเสธ แต่ก็คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายผมก็พยักหน้า

[เมื่อเป็นเช่นนี้ ทรัพย์สินทั้งหมดของคุณก็จะตกเป็นของบิดาคุณไปโดยปริยาย]

ใช่สิ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

[มีชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ต้องตายอย่างน่าเศร้าเช่นเดียวกัน]

แล้วรูปของชายหนุ่มที่หล่อเหลาคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนฝั่งหนึ่งของหน้าต่างข้อความ ผมคิดว่าตัวเองเคยเห็นผู้ชายคนนี้จากที่ไหนสักแห่ง…

แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร ดูเหมือนผมจะไม่ค่อยสนิทกับเขาสักเท่าไหร่

[ชอนอีเซ ไอดอลที่เดบิวต์มา 5 ปี แต่ยังไม่ดังสักที เขาพยายามฆ่าตัวตายเพราะปัญหาส่วนตัว อาการขณะนี้อยู่ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นกับความตาย]

"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?"

ไอดอลเหรอ…ไม่ใช่วงเกิร์ลกรุ๊ปด้วย พ่อหนุ่มคนนี้อยู่คนละโลกกับผู้ชายอายุ 40 กลาง ๆ อย่างผมโดยสิ้นเชิง

[กรุณาอ่านข้อความให้จบ สอบถามเมื่อมีข้อสงสัย]

แฮรรรรรร่…

เจ้าหมาที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างข้อความจ้องมองมาที่ผมเล็กน้อย

มันอวดเขี้ยวสีขาวที่หลายคนเห็นคงขยาด

แม้หน้าตาของมันจะดูไม่สบอารมณ์ แต่หางปุกปุยก็ยังกวัดแกว่งอยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนมันคงไม่ได้โกรธแค้นอะไรผมจริง ๆ หรอก

ผมเดาะลิ้นแล้วเลื่อนสายตาอ่านข้อความ

"ไหนดูซิ…"

เมื่อเลื่อนสายตาลงไป ผมก็เห็นบันทึกชีวิตของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าชอนอีเซ

ชอนอีเซเดบิวต์ในฐานะเมนแดนซ์*[1]ประจำวงไอดอลชายวงหนึ่ง แต่วงของเขาไม่เคยมีชื่อติดท็อปชาร์ต 100 เพลงฮิตเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพลงที่ได้อันดับสูงที่สุดของวงก็คือเพลงเดบิวต์ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจความสดใหม่ของวงไอดอลหน้าใหม่วงนี้อีกแล้ว

แล้วเหตุการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน…

แต่ร่างกายของเขาเริ่มเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกเหมือนเดิม

ปัญหาจึงเริ่มขึ้น

เขาไม่ใช่คนเสียงดี เขาไม่ใช่คนตลก และเขาก็ไม่สามารถเต้นได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้น ชอนอีเซจึงรู้สึกมืดแปดด้าน

เพราะอาวุธเดียวที่เขามีก็คือการเต้น ถ้าเต้นไม่ได้ เขาก็ไม่มีความมั่นใจที่จะขึ้นเวทีอีกครั้ง

"แต่ก็ไม่ได้ถูกไล่ออกสักหน่อยนี่"

ตอนแรก ชอนอีเซแจ้งกับทางต้นสังกัดว่าจะขออนุญาตพักจากการร่วมกิจกรรมกับทางวงไปก่อนสักระยะหนึ่ง

ต้องขอบคุณที่บริษัทต้นสังกัดของเขาอยู่ในเครือของบริษัทชอนซูกรุ๊ป ซึ่งหัวหน้าใหญ่ก็คือพ่อของเขาเอง

หากไม่ได้เป็นเพราะปัจจัยข้อนี้ เขาก็คงต้องถูกบีบออกจากวงอย่างแน่นอน เพราะการเป็นไอดอลที่ไม่มีชื่อเสียงคือเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด

แน่นอนว่าม้าที่บาดเจ็บสมควรได้รับเวลาพักฟื้น…ทุกคนคิดว่าการพักผ่อนครั้งนี้จะทำให้ชอนอีเซพบเจอทางออกของปัญหา

เพียงมองดูก็รู้ว่า ในชีวิตของชอนอีเซ เขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากการเป็นไอดอล ถ้าเขาต้องสูญเสียความฝันไปทั้งที่ยังมีอายุเพียงเท่านี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากจริง ๆ

ผมพยักหน้าและอ่านข้อความต่อไป

[ระบบสร้างสุขสมความปรารถนาแก่มวลมนุษย์ของพวกเราจะมอบโอกาสให้คุณอิมฮยอนซองได้ช่วยเติมเต็มความฝันของชอนอีเซ]

[ลูกค้า : ชอนอีเซ]

[ความปรารถนา : เป็นไอดอลที่ประสบความสำเร็จ]

[ลูกค้า : อิมฮยอนซอง]

[ความปรารถนา : แก้แค้นแม่เลี้ยง]

[ถ้าคุณสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ เราก็จะมอบโอกาสให้ความปรารถนาของอิมฮยอนซองได้กลายเป็นจริง]

นี่มันอะไรกันเนี่ย

โฮ่ง!

มวลอากาศสั่นไหวเล็กน้อย แล้วผมก็ละสายตาจากหน้าจอข้อความ จ้องมองไปที่เจ้าหมาเหมือนมันกำลังเรียกผมอยู่

ไม่นะ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

"โอกาสงั้นเหรอ? พวกคุณจะส่งผมกลับไปเกิดใหม่หรือไง?"

[คุณเสียชีวิตแล้วจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปเกิดใหม่]

"งั้นผมจะแก้แค้นได้ยังไง?"

[หลังจากที่คุณกลายเป็นชอนอีเซ และทำความฝันของเขาให้เป็นจริงได้สำเร็จ ความปรารถนาของอิมฮยอนซองก็จะกลายเป็นจริงเช่นกัน]

ผมจ้องมองหน้าต่างข้อความที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าด้วยความสงสัย

"หมายความว่า…ถ้าผมกลายเป็นไอดอลหนุ่มที่มีชื่อเสียงโด่งดังและประสบความสำเร็จได้เมื่อไหร่ พวกคุณก็จะมอบโอกาสให้ผมได้แก้แค้นครอบครัวตัวเองงั้นสินะ?"

"แต่น แต่น แต๊น…ถูกต้องนะคร้าบบบ!"

แต่น แต่น แต๊นกับผีน่ะสิ ผมถอนหายใจให้กับสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ ผมไม่เข้าใจอะไรอีกแล้ว เช่นเดียวกับที่ผมไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วเหมือนกัน นอกจากบริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ผมสร้างพวกมันขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจเป็นเวลากว่า 20 ปี

"พวกคุณคงไม่ได้มอบโอกาสนี้ให้ผมฟรี ๆ หรอกใช่ไหม หมายความว่า…"

[เวลาในการรับภารกิจเหลือ 10…]

ผมยังพูดไม่ทันจบ หน้าต่างข้อความก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าผมอีกครั้ง

"10 นาทีงั้นเหรอ?"

[9… 8… 7…]

"เฮ้ย? นี่มันอะไรกันเนี่ย? ผมจะเชื่อพวกคุณได้จริงเหรอ…!"

ในขณะนี้ ตัวเลขก็กระโดดข้ามไป

[3… 2…]

"ทำไมถึงข้าม 6 ถึง 4 ไปละโว้ย! ไอ้พวกหลอกลวง!"

[…1!]

[ขอบคุณที่ตอบรับทำภารกิจ ระบบสร้างสุขสมความปรารถนาแก่มวลมนุษย์ซาบซึ้งใจต่อความพยายามของคุณเป็นอย่างยิ่ง พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างภารกิจที่น่าพึงพอใจต่อไป]

"ใครบอกว่าจะรับทำกันวะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย…!"

ก่อนที่ผมจะทันได้โต้แย้ง รอบกายผมก็เริ่มมืดมิด ผมหลับตาลง รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะหมดสติไป

โฮ่ง!

เสียงสุนัขเห่าอย่างตื่นเต้นดังมาจากที่ไหนสักแห่ง

[1] เมนแดนซ์ (Main Dance) หรือนักเต้นหลักของวง คือสมาชิกในวงที่มีทักษะการเต้นอันโดดเด่น

บทที่ 2 ภารกิจฝึกสอน 1 (1)

บทที่ 2 ภารกิจฝึกสอน 1 (1)

เมื่อผมลืมตาขึ้นมา ผมก็เห็นเพดานห้องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

"นี่มันที่ไหนอีกล่ะเนี่ย?"

ตอนแรกผมลองขยับแขน แต่แขนก็ขยับไม่ได้ ผมรู้สึกเจ็บปวดที่ศีรษะอย่างรุนแรง ทำให้ต้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง

ผมนอนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวอยู่แบบนั้น รู้สึกเวียนหัวตาลาย คล้ายกับอยากอาเจียน เหมือนกินอะไรบางอย่างที่ผิดปกติเข้าไป แต่ผ่านไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น ผมพยายามม้วนตัวลงจากเตียง ไม่รู้เลยว่าอาการเวียนหัวตาลายจะหายไปหรือไม่

"หรือว่าเราจะเข้ามาอยู่ในร่างของชอนอีเซ?"

ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ผมก็ยังคง…ผมซวนเซขณะที่พยายามจะลุกขึ้น

[สวัสดี อิมฮยอนซอง ขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณสามารถทำก้าวแรกในฐานะของชอนอีเซได้สำเร็จแล้ว]

ผมยังไม่ทันจะได้ทำก้าวแรกอะไรทั้งนั้น

แต่ก่อนที่ผมจะตั้งสติได้ หน้าต่างข้อความที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า แสงสว่างของมันดึงดูดสายตาผมเหลือเกิน

และข้างหน้าต่างข้อความก็มีเจ้าลูกหมาที่ผมเคยเห็นมาก่อน มันห้อยสร้อยคอที่เขียนว่าเลเวล 1 เอาไว้ ผมไม่เคยเห็นสร้อยคอเส้นนี้มาก่อน

"นี่ฉันกลายเป็นวัยรุ่นอายุ 20 จริง ๆ เหรอ?"

เจ้าหมากระดิกหางเหมือนรอคอยคำตอบอยู่ก่อนแล้ว หน้าต่างข้อความเกิดการสั่นไหวเล็กน้อย แล้วข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้น

[ถูกต้อง! สนใจทำแบบทดสอบการทำภารกิจเพื่อความราบรื่นในอนาคตหรือไม่?]

[ตกลง / ปฏิเสธ]

ผมเป็นคนที่ยอมรับความจริงเสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด

"เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอถามหน่อย แล้วตอนนี้ร่างกายที่แท้จริงของฉันอยู่ที่ไหน?"

พูดออกไปแล้วผมก็รู้สึกแปลก ๆ ผมพูดเหมือนตัวผมเองตายไปแล้ว ไม่มีความหวังที่จะกลับเข้าร่างเดิมอีก…แต่ถึงกระนั้น ผมก็ยังต้องตรวจสอบดูก่อน

ในทันใดนั้น

คำตอบไม่ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างข้อความ แต่โทรทัศน์ในห้องกลับเปิดขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้กดเปิด

โฮ่ง!

เจ้าหมาเห่าเงียบ ๆ พยักหน้าไปทางหน้าจอโทรทัศน์

[อิมฮยอนซอง ซีอีโอบริษัทโจยองฟู้ด ผู้นำด้านธุรกิจอาหารเกาหลีระดับโลกและกิจการในเครืออีกมากมายถูกพบเป็นศพเมื่อเช้านี้]

[บิดาผู้ให้กำเนิดของเขา อิมซองฮวานจะเข้ามารับหน้าที่ดูแลธุรกิจที่มีเครือข่ายทั่วประเทศในฐานะเจ้าของกิจการคนใหม่ต่อไป และงานศพของนายอิมฮยอนซอง คาดว่าจะมีผู้มาเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก]

"ให้ตายเถอะ…ฉันตายแล้วจริง ๆ สินะ"

ก่อนหน้านี้ พวกเขาบอกผมแล้วว่าการที่ผมจะกลับไปเกิดใหม่ในร่างเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็ยังแอบหวังอยู่ดี… และการต้องมานั่งดูข่าวการตายของตัวเองในร่างของคนอื่นผ่านหน้าจอทีวี มันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดชอบกล

ผมเห็นพ่อของตัวเองยืนถือรูปถ่ายของผมด้วยสีหน้าเศร้าโศก แม่เลี้ยงของผมร้องห่มร้องไห้อยู่ข้าง ๆ คอยปกป้องพ่อผมไม่ยอมห่าง

เธอร้องไห้อย่างน่าสงสาร เมื่อเห็นลูกชายของตัวเองพูดถึงความดีของผมด้วยความซาบซึ้งใจ

"เล่นละครกันทั้งนั้น"

ผมรู้สึกอยากจะมุดเข้าไปในทีวีและกระชากหน้ากากคนพวกนี้ออกมาให้หมด

[คำเตือน : คุณไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความปรารถนาของอิมฮยอนซองได้ เว้นแต่ว่าคุณจะทำภารกิจสำเร็จแล้วเท่านั้น]

หน้าต่างข้อความขึ้นคำเตือนสีแดงตรงหน้าผม เหมือนกับว่ามีใครบางคนอ่านใจผมอยู่อย่างนั้นแหละ

"เฮ้อ ฉันแค่คิดเฉย ๆ ! แค่คิด!"

ดังนั้น สรุปว่าผมกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคนอื่น

และผมคงกลับไปแก้แค้นไม่ได้ นอกจากจะทำตามความฝันของเจ้าของร่างนี้ให้สำเร็จเสียก่อน

เมื่อไม่มีสิ่งใดให้หาข้อมูลอีก หลังจากที่ผมตั้งสติได้แล้ว ผมก็ถามเจ้าลูกหมาว่า

"มีเรื่องมากมายที่ฉันอยากจะถามแก แต่พวกแกมีสัญญาไหม? ถ้าฉันทำภารกิจไม่สำเร็จในระยะเวลาที่กำหนด จะมีบทลงโทษหรืออะไรตามมาหรือเปล่า"

แม้ว่าผมคนเดิมจะตายไปแล้วและได้มาอยู่ในร่างของคนใหม่ แต่วิญญาณนักธุรกิจยังตามตัวผมมาเสมอ รายละเอียดในสัญญาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ

หลังจากนั้น เจ้าลูกหมาก็เกิดอาการผิดปกติ มันล้มลงไปนอนหงายท้องอยู่บนพื้น ท่าทางวิตกกังวล

หน้าจอทีวีดับวูบลง

[กรุณารอสักครู่ พวกเรากำลังเขียนรายละเอียดในสัญญา เวลาในการรอคอย : 3 นาที]

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

ผมหรี่ตาลงและหันหน้ามองไปทางกระจกที่ตั้งอยู่ข้างเตียง แล้วผมก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีมีผิวพรรณขาวเนียนจ้องตอบกลับมาในกระจก

ทันทีที่ผมเห็นเงาในกระจก ผมก็จำได้ว่าตนเองได้กลายเป็นคนที่มีชื่อว่าชอนอีเซเรียบร้อยแล้ว

ผมเคยเห็นเด็กคนนี้ในรายการวาไรตี้ แต่เขาก็ถูกเพื่อนร่วมวงคนอื่น ๆ กลบรัศมีหมด

และเขาก็ได้ออกหน้าจอไม่บ่อยนัก เพลงที่ปล่อยออกมาก็ไม่ค่อยดัง ผมก็เลยไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว

"หน้าตาก็ดูดีแฮะ แถม…ยังอยู่ในบ้านที่น่าอยู่ด้วย"

ห้องพักดูจะมีขนาดใหญ่โตเกินกว่าที่ชายหนุ่มคนนี้จะอยู่เพียงลำพัง และถึงแม้จะเพียงกวาดตาดูผ่าน ๆ เท่านั้น ผมก็ทราบแล้วว่าเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องล้วนเป็นของราคาแพงทั้งนั้น

"ลองเดินสำรวจดูดีกว่า"

ผมรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่ความจริง เหมือนผมกำลังอยู่ในความฝัน แต่ความรู้สึกที่ร่างกายกำลังสัมผัส ยืนยันว่าทั้งหมดนี้คือความจริง

ผมพยายามถ่ายเทพละกำลังลงไปที่สองขาและเคลื่อนไหวร่างกาย

หลังจากนั้น

ผมก็ล้มโครมลงไปทันที

[การฟื้นฟูร่างกายยังไม่เสร็จสมบูรณ์ กรุณารอสักครู่]

[กระบวนการฟื้นฟูร่างกาย 33%]

ไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง!

ผมกัดฟันกรอด จ้องมองตัวเลขบอกกระบวนการฟื้นฟูเพิ่มจาก 33 เป็น 34 หลังจากนั้น เจ้าหมาที่อยู่ข้างหน้าต่างข้อความก็ลุกขึ้นมาทำท่าเหมือนจะพยายามปลอบโยนผม

ให้ตายเถอะ

ยังจะมาปลอบโยนอะไรกันอีก?

เรี่ยวแรงที่หายไปในร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาทีละนิด เช่นเดียวกับแถบเปอร์เซ็นต์ระบุสถานะการฟื้นฟู

ไม่นานหลังจากนั้น ผมก็รู้สึกดีขึ้นจนสามารถเดินได้โดยไม่หกล้ม

แต่ผมก็ยังเดินไม่คล่องอยู่ดี และผมก็มีคำถามที่อยากจะถามต่อไป

"สงสัยคงพอแค่นี้ก่อนดีกว่า…"

นับตั้งแต่ที่ผมพยายามออกเดินสำรวจทั้งที่ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูครบ 100% หน้าต่างข้อความก็มีข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาตลอดเวลา

ที่มุมจอ ลูกหมาตัวนั้นก็ส่งเสียงเห่าเงียบ ๆ เหมือนกับว่ามันก็อยากจะเตือนผมเหมือนกัน

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นห่วงผมไม่น้อย มันพยายามกระพริบตา แลบลิ้นยาว ๆ ของมันออกมา

ลิ้นสีชมพูเปียกชุ่ม จมูกของมันเป็นสีดำน่ารัก แต่ผมไม่ใช่คนที่จะแพ้ความน่ารักของสัตว์ตัวน้อย

[ร่างกายยังฟื้นฟูไม่เสร็จสิ้น กรุณารอสักครู่]

[กระบวนการฟื้นฟูร่างกาย 92%]

มีแต่เรื่องที่ขัดใจผมเต็มไปหมด!

ดังนั้น ผมจึงต้องนั่งรออีก 15 นาที จนกระทั่งกระบวนการฟื้นฟูร่างกายครบ 100%

ในที่สุด แถบสถานะก็เต็มร้อยสักที

เจ้าลูกหมาหมุนตัวไปรอบๆ เหมือนกับว่ามันกำลังแสดงความยินดี

[ร่างกายฟื้นฟูจากสภาวะเป็นพิษเรียบร้อยแล้ว กรุณาจดจำไว้ว่าการทำภารกิจได้สำเร็จในอนาคต จะส่งผลต่อความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายเสมอ]

ผมเห็นกองอาเจียนและเม็ดยาที่ยังไม่ถูกย่อยจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง

"คงเป็นเพราะยาพวกนี้สินะ…"

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...